อุทัยธานีเผยพื้นที่ยังไม่น่าห่วงช่วงเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม

ผอ.ชลประทานอุทัยธานีพร้อมรับมือหากเกิดผลกระทบจากการระบายน้ำเพิ่มท้ายเขื่อนเจ้าพระยา แม้ล่าสุดในพื้นที่ยังไม่น่าห่วง แต่เฝ้าระวังใกล้ชิด

แนวโน้มดีอุทัยธานีเริ่มมีฝน หลังทิ้งช่วงนาน ห้วยขาแข้งตกหนักแหล่งต้นน้ำ

ผอ.ชลประทานอุทัยธานีพบแนวโน้มดีต่อภาคเกษตรและอ่างเก็บน้ำ ฝนตกทั่วพื้นที่หลังทิ้งช่วงไปนาน โดยเฉพาะตกหนักแหล่งต้นน้ำป่าห้วยขาแข้ง และสัปดาห์หน้าก็จะเข้าสู่ฤดูฝน

อุทัยธานีระดับน้ำกักเก็บน้อยมากในรอบ 30 ปี

ผอ.โครงการชลประทานอุทัยธานี เผยอ่างเก็บน้ำหลัก 2 แห่ง และตามแหล่งน้ำในพื้นที่ปีนี้น่าห่วงน้ำกักเก็บโดยรวมแค่ร้อยละ 19 น้อยมากในรอบ 30 ปี ต้องเก็บไว้ใช้อุปโภคบริโภค-รักษาโครงสร้างอ่างฯ-ระบบนิเวศน์ในฤดูแล้ง ส่วนภาคเกษตรแจ้งเตือนเพาะปลูกแล้วก่อนงดปล่อยน้ำ

เขื่อนวังร่มเกล้าน้ำอาจไม่พอส่งการเกษตร แนะชะลอทำนาปรัง

ผอ.โครงการชลประทานอุทัยธานีแนะเกษตรกรวางแผนเพาะปลูกแต่เนิ่น คาดปีนี้แห้งแล้งกินเวลานาน ห่วงน้ำเขื่อนวังเกล้าไม่พอส่งจ่าย เพราะต้องเก็บไว้ใช้อุปโภคบริโภค และขอให้ชะลอทำนาปรัง

อุทัยธานีเร่งเก็บน้ำฝนปลายฤดูรับหน้าแล้ง-แนะชะลอทำนาปรัง

อุทัยธานี 22 ต.ค.- ผอ.ชลประทานอุทัยธานีเผยฝนตกช่วยเติมอ่างเก็บน้ำหลัก “ทับเสลา-ห้วยขุนแก้ว” เร่งกักเก็บก่อนสิ้นสุดฤดู เตรียมไว้ใช้หน้าแล้งเพื่ออุปโภคบริโภค แนะเกษตรกรลดความเสี่ยง ชะลอทำนาปรัง ปลูกพืชน้ำน้อยแทน นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยถึงสถานการณ์อ่างเก็บน้ำหลัก 2 แห่งในพื้นที่ว่า ฝนที่ตกบ่อยในระยะนี้ แม้มีน้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่องที่อ่างเก็บน้ำทับเสลา อ.ลานสัก และอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว อ.ห้วยคต  แต่เป็นฝนช่วงปลายฤดูแล้วที่จะเข้าสู่ฤดูหนาว ประกอบกับที่ผ่านมาในพื้นที่มีฝนทิ้งช่วงพอสมควร ดังนั้น จึงต้องกักเก็บปริมาณน้ำช่วงนี้ไว้ก่อน เพื่อสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้ง โดยเฉพาะน้ำอุปโภคบริโภค เพราะขณะนี้อ่างเก็บน้ำทับเสลา มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 31.49 ของความจุ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถใช้การได้ 33.38 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 45.73 ของความจุ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้การได้ 17.68 ล้านลูกบาศก์เมตร นายฐกร กล่าวด้วยว่า ปริมาณน้ำดังกล่าวนอกจากเก็บไว้เพื่ออุปโภคบริโภคแล้ว ยังเป็นการรักษาความสมดุลโครงสร้างของอ่างเก็บน้ำ และรักษาระบบนิเวศน์ จึงยังไม่มีการระบายน้ำในพื้นที่การเกษตร  พร้อมกันนี้ต้องขอความร่วมมือเกษตรกรชะลอการทำนาปรัง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับผลผลิต โดยควรปลูกพืชทดแทนที่มีความเหมาะสมและใช้น้ำน้อย เช่น […]

ห่วงอ่างฯ ทับเสลาน้ำกักเก็บน้อย ชป.อุทัยธานีร้องขอฝนหลวง

อุทัยธานี 13 ส.ค.- อุทัยธานีฝนตกไม่ทั่ว แหล่งต้นน้ำป่าห้วยขาแข้งฝนน้อย ชลประทานจังหวัดร้องขอฝนหลวงเติมอ่างเก็บน้ำทับเสลา คุมปริมาณกักเก็บ และยังต้องพร่องน้ำช่วยนาข้าวอีก 5 อำเภอ นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำว่า แม้ในพื้นที่มีฝนตก แต่ไม่ครอบคลุมทั้งจังหวัด โดยเฉพาะในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นแหล่งต้นน้ำในการกักเก็บน้ำของอ่างเก็บน้ำทับเสลาเพื่อการเกษตร กรมชลประทาน ล่าสุดมีปริมาณน้ำเพียง 54.89 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 34.31 ของความจุ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร และเหลือใช้การได้ร้อยละ 26.49 อีกทั้งปัจจุบันยังต้องระบายน้ำช่วยนาข้าวกำลังออกรวงนับหมื่นไร่ของเกษตรกร 5 อำเภอ เนื่องจากฝนทิ้งช่วง ทำให้น้ำไม่เพียงพอหล่อเลี้ยงนาข้าว โดยมีการระบายน้ำออกวันละ 2.30 ล้านลูกบาศก์เมตร มาตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา จนกว่าจะครบตามจำนวนที่มีมติการปล่อยน้ำในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ดังกล่าว โครงการชลประทานจังหวัดอุทัยธานีได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง (นครสวรรค์ ) เพื่อช่วยเหลือทำฝนเทียมเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำทับเสลาและให้เกิดฝนตกในพื้นที่การเกษตร.-สำนักข่าวไทย

อุทัยธานีพร่องน้ำอ่างฯ ทับเสลาช่วยนาข้าว 5 อำเภอ

อุทัยธานี 4 ส.ค.- ชลประทานอุทัยธานีระบายน้ำอ่างเก็บน้ำทับเสลา หลังเกษตรกรร้องขอช่วยนาข้าวนับหมื่นไร่ 5 อำเภอ จากฝนทิ้งช่วง นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี ให้สัมภาษณ์เช้านี้ (4 ส.ค.) ว่า ภายหลังได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากชาวนาหลายอำเภอ คือ อำเภอเมือง ทัพทัน ลานสัก หนองขาหย่าง และหนองฉาง ทั้งในเขตและนอกเขตชลประทานที่มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวและกำลังออกรวงหลายหมื่นไร่เริ่มขาดน้ำจากภาวะฝนทิ้งช่วง จึงได้ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดน้ำร่วมกับกลุ่มตัวแทนผู้ใช้น้ำในเขตชลประทาน และได้มีมติให้ปล่อยน้ำ เพื่อช่วยเหลือการเกษตรทั้ง 5 อำเภอดังกล่าว โดยเริ่มระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำทับเสลา ตำบลระบำ อำเภอลานสัก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา และจะระบายน้ำในครั้งนี้จนครบ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามมติที่ประชุม เพื่อช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั้งในเขตและนอกเขตชลประทานดังกล่าว และการระบายน้ำยังเป็นการพร่องน้ำเพื่อรองรับช่วงฤดูฝนด้วยในการกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร นายฐกร กล่าวว่า หลังการระบายน้ำไปช่วยในครั้งนี้ครบจำนวนแล้ว จะเร่งทำความเข้าใจผ่านตัวแทนผู้ใช้น้ำแต่ละพื้นที่ เพื่อแจ้งเตือนเกษตรกรในพื้นที่ 5 อำเภอ เพราะหากจะมีการเพาะปลูกข้าวรอบใหม่จะมีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำหลากหรือเกิดความเสียหายได้ ดังนั้น ขอให้วางแผนก่อนการเพาะปลูกให้รอบคอบ.-สำนักข่าวไทย

อุทัยธานีแนะเกษตรกรวางแผนรับมือน้ำฤดูแล้ง

อุทัยธานี 26 ก.พ.- ผอ.ชป.อุทัยธานีห่วงฤดูแล้งกระทบการเกษตร แม้อ่างเก็บน้ำหลักยังมีน้ำเพียงพอ แต่เพื่อใช้อุปโภคบริโภค แนะเกษตรกรไม่ประมาทวางแผนเพาะปลูกไว้ล่วงหน้า-ลดความเสี่ยง นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำหลักเพื่อการเกษตร 2 แห่งว่า ล่าสุดอ่างเก็บน้ำทับเสลา อำเภอลานสัก มีปริมาณน้ำ 94.51 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 59.07 ของความจุอ่าง 160 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำใช้การได้ 77.51 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว อำเภอห้วยคต มีปริมาณน้ำ 22.93 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 52.82 ของความจุอ่าง มีน้ำใช้การได้ 20.76 ล้านลูกบาศก์เมตร  ซึ่งที่ผ่านมาได้ปล่อยน้ำช่วยพื้นที่การเกษตรได้อย่างเพียงพอทั้งพื้นที่ในเขตและนอกเขตชลประทาน ไม่มีพื้นที่ใดได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะข้าวนาปีและข้าวนาปรังรอบที่ 1  อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกรมชลประทานและรัฐบาลที่ต้องใช้น้ำประหยัดและรู้คุณค่า ซึ่งปริมาณน้ำที่เหลือจะกักเก็บไว้เพื่อการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ รวมทั้งรักษาความมั่นคงแข็งแรงของอ่างเก็บน้ำ โครงการชลประทานอุทัยธานีจึงขอความร่วมมือจากเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกไว้แต่เนิ่น ๆ  หากไม่มั่นใจว่าแหล่งน้ำเพียงพอหรือไม่ ควรชะลอทำนาปรังรอบ 2 เพราะความแห้งแล้งมีความเสี่ยงต่อการเพาะปลูกทำให้เสียหายได้.-สำนักข่าวไทย    

อุทัยธานีวางแผนบริหารจัดการแม่น้ำสะแกรังช่วงฤดูแล้ง

อุทัยธานี 25 ม.ค.- ชป.อุทัยธานีเพิ่มการระบายน้ำ 2 เขื่อน ตามแผนบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้ง สร้างความสมดุลแม่น้ำสะแกกรังและให้ผู้เลี้ยงปลากระชังปรับการเลี้ยงอย่างเหมาะสม นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยถึงสถานการณ์แม่น้ำสะแกกรังล่าสุดว่า เมื่อเข้าสู่ฤดูแล้งระดับน้ำจะลดลงอยู่แล้ว อย่างบริเวณหน้าวัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ ไปถึงศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี ถือเป็นภาวะเป็นปกติของฤดูแล้ง แต่ช่วงนี้ดีกว่าในรอบหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากกรมชลประทานมีเกณฑ์การควบคุมระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ในเดือนมกราคม-เมษายน อยู่ระหว่าง +15.50 ถึง +16.00 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง และเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมาโครงการชลประทานจังหวัดอุทัยธานีได้แจ้งสถานการณ์แม่น้ำสะแกกรังให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบล่วงหน้า พร้อมปรับการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำสะแกกรังจากเขื่อนทับเสลา อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี จากเดิมวันละ 0.46 เป็น 0.86 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนวังร่มเกล้า อำเภอเมืองอุทัยธานี ในอัตราวันละ 0.69 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้งขอความร่วมมือเกษตรผู้เพาะเลี้ยงปลากระชังให้ดำเนินการในช่วงเวลาเหมาะสมในแต่ละฤดูกาล และสอดคล้องกับภาพรวมการบริหารจัดการน้ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยา.-สำนักข่าวไทย

อุทัยธานีฝนมากอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้วน้ำเกินพิกัด

อุทัยธานี 5 ต.ค.- ผอ.ชลประทานอุทัยธานีเผยฝนตกต่อเนื่องสะสมป่าห้วยขาแข้งน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้วล้นสปิลเวย์ กระทบบางพื้นที่อำเภอหนองฉาง นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยถึงการติดตามสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่องในระยะนี้ว่า  โดยเฉพาะบริเวณป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้วมีปริมาณฝนสะสมจำนวนมากและได้ไหลบ่าลงสู่อ่างเก็บน้ำเกินระดับกักเก็บแล้ว อยู่ที่ 45.75 ล้านลูกบาศก์เมตร ของความจุ 43 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ล้นสปิลเวย์ หรือทางระบายน้ำฉุกเฉินถึงวันละ 4 ลูกบาศก์เมตร ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว น้ำท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นไร่อ้อยและนาข้าวกว่า 400 ไร่ ตำบลเขาบางแกรก อำเภอหนองฉาง รวมทั้งบ้านเรือนริมฝั่งอีก 15 หลัง นายฐกร กล่าวว่า ขณะนี้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้เร่งสำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว พร้อมกันนี้ชลประทานยังได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชม. และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากเกิดเหตุฉับพลัน.-สำนักข่าวไทย

ชป.อุทัยฯ เกาะติดผลกระทบฝนตกหนักจากพายุเซินกาสู่ปาข่า

อุทัยธานี 29 ส.ค.- ผอ.โครงการชลประทานอุทัยธานียังคงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ 24 ชม.พายุปาข่าทำฝนตกหนัก หลังผ่านช่วงเซินกา พร้อมระบายน้ำเขื่อนวังร่มเกล้าเตรียมรับมือตามแผนบริหารจัดการ นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยถึงการติดตามสถานการณ์น้ำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่พายุเซินกาและช่วงนี้เป็นพายุปาข่าว่า อิทธิพลของปาข่าส่งผลให้เกิดฝนตกเกือบทั่วทุกภาค ตามแหล่งน้ำมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น รวมถึงจังหวัดอุทัยธานีลำน้ำสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำตากแดดเพิ่มขึ้นจากเดิม เนื่องจากฝนตกหนักทางด้านเหนือลุ่มน้ำสะแกกรัง จึงมีน้ำไหลมาสมทบลงสู่แม่น้ำตากแดดบริเวณเหนือเขื่อนวังร่มเกล้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงต้องบริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอุทกภัยทั้งทางด้านเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน พร้อมกับการระบายน้ำสู่ท้ายเขื่อนเพื่อรองรับมวลน้ำที่จะไหลลงสู่แม่น้ำตากแดดอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดสรรน้ำได้เพิ่มการระบายน้ำลงสู่งท้ายเขื่อน   นายฐกร กล่าวด้วยว่า วันนี้ได้ยกบานประตูระบายน้ำทั้ง 3 บาน สูงจากธรณีเป็น 2.20 เมตร ระบายน้ำจำนวน 136.60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำทางด้านเหนือเขื่อนตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งฝนตกหนัก หากมวลน้ำเพิ่มสูงอีก เพื่อไม่เกิดปัญหาอุทกภัยทั้งด้านเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน นอกจากนี้ ยังประชาสัมพันธ์ประชาชนพื้นที่ท้ายเขื่อนไว้ตลอดเช่นกัน เพื่อให้เตรียมความพร้อมหากปริมาณน้ำขึ้นสูง.-สำนักข่าวไทย

เกษตรห่วงฤดูน้ำหลากกระทบพื้นที่การเกษตรริมฝั่ง

อุทัยธานี 11 ส.ค.-  ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ เน้นย้ำความพร้อมจังหวัดอุทัยธานี แม้สถานการณ์น้ำไม่น่าห่วง แต่ต้องรับมือน้ำเหนือไหลบ่าท่วมพื้นที่ริมฝั่งซ้ำซาก และพืชผลการเกษตร ระบุการเตือนภัยเพื่อป้องกันดีกว่าเยียวยาภายหลัง นายโอภาส ทองยงค์  ผู้ตรวจกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 18  ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ที่สำนักงานโครงการชลประทานอุทัยธานี เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือหากเกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันและการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว  สำหรับจังหวัดอุทัยธานีแม้สถานการณ์น้ำไม่น่าห่วง แต่จะต้องเฝ้าระวังตลอด  24 ชม เนื่องจากมวลน้ำจากทางภาคเหนือจะไหลบ่าลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นและกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำในขณะนี้เป็นประจำทุกปี ซึ่งการช่วยเหลือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเป็นระบบชัดเจน ถูกต้อง รวดเร็ว และทั่วถึง รวมทั้งการให้คำแนะนำของการเพาะปลูกพืชที่เหมาะสมในช่วงฤดูน้ำหลาก และพืชผลที่เหลืออยู่ควรจะดูแลรักษาอย่างไรไม่ให้เกิดความเสียหาย หรือหากจะต้องเพาะปลูกใหม่จะมีข้อปฏิบัติอย่างไรให้ทันต่อการฤดูกาลเพาะปลูก นอกจากนี้ นายโอภาส ยังเน้นย้ำถึงการเตือนภัยที่จะต้องจะสร้างระบบเตือนภัยให้สื่อสารถึงประชาชนได้เร็วที่สุด เพราะการเตรียมพร้อมที่จะป้องกันดีกว่าการเยียวยาภายหลัง.-สำนักข่าวไทย

1 2
...