อุทัยธานี 29 ส.ค.- ผอ.โครงการชลประทานอุทัยธานียังคงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ 24 ชม.พายุปาข่าทำฝนตกหนัก หลังผ่านช่วงเซินกา พร้อมระบายน้ำเขื่อนวังร่มเกล้าเตรียมรับมือตามแผนบริหารจัดการ
นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยถึงการติดตามสถานการณ์น้ำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่พายุเซินกาและช่วงนี้เป็นพายุปาข่าว่า อิทธิพลของปาข่าส่งผลให้เกิดฝนตกเกือบทั่วทุกภาค ตามแหล่งน้ำมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น รวมถึงจังหวัดอุทัยธานีลำน้ำสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำตากแดดเพิ่มขึ้นจากเดิม เนื่องจากฝนตกหนักทางด้านเหนือลุ่มน้ำสะแกกรัง จึงมีน้ำไหลมาสมทบลงสู่แม่น้ำตากแดดบริเวณเหนือเขื่อนวังร่มเกล้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงต้องบริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอุทกภัยทั้งทางด้านเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน พร้อมกับการระบายน้ำสู่ท้ายเขื่อนเพื่อรองรับมวลน้ำที่จะไหลลงสู่แม่น้ำตากแดดอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดสรรน้ำได้เพิ่มการระบายน้ำลงสู่งท้ายเขื่อน
นายฐกร กล่าวด้วยว่า วันนี้ได้ยกบานประตูระบายน้ำทั้ง 3 บาน สูงจากธรณีเป็น 2.20 เมตร ระบายน้ำจำนวน 136.60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำทางด้านเหนือเขื่อนตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งฝนตกหนัก หากมวลน้ำเพิ่มสูงอีก เพื่อไม่เกิดปัญหาอุทกภัยทั้งด้านเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน นอกจากนี้ ยังประชาสัมพันธ์ประชาชนพื้นที่ท้ายเขื่อนไว้ตลอดเช่นกัน เพื่อให้เตรียมความพร้อมหากปริมาณน้ำขึ้นสูง.-สำนักข่าวไทย