หมู่เกาะสิมิลันกลับมาคึกคักอีกครั้ง

พังงา 17 ต.ค.-ท่องเที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน กลับมาคึกคัก  หลังผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวที่นัดกันหยุดให้บริการ ยอมรับเงื่อนไข มาตรการลดจำนวนนักท่องเที่ยวของกรมอุทยานฯ และกลับมาให้บริการอีกครั้ง 


บรรยากาศบริเวณท่าเทียบเรือที่บ้านทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ให้บริการนำนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวยังหมู่เกาะสิมิลัน เริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงก่อน 07.00 นาฬิกา เนื่องจากผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวยอมรับเงื่อนไข มาตรการลดจำนวนนักท่องเที่ยวของกรมอุทยานแห่ง ชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นการชั่วคราว หลังรวมกลุ่มหยุดบริการนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2561 ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปยังหมู่เกาะสิมิลันได้ ทั้งนี้ เพื่อกดดันให้ทางราชการยกเลิกมาตรการดังกล่าว โดยในวันนี้มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 1,000 คน ลงเรือไปท่องเที่ยวยังหมู่เกาะสิมิลัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวจีน รัสเซีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยพบว่ามีไม่มากนัก 


จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันแจ้งว่าวันนี้มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากเกาะ 4 หรือเกาะเมียง ไปยังเกาะ 8 หรือเกาะสิมิลัน จำนวน 553 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 49 ราย ผู้ใหญ่ 45 ราย  เด็ก 4 ราย ส่วนชาวต่างชาติ 504 ราย แยกเป็นผู้ใหญ่ 487 ราย เด็ก 17 ราย มัคคุเทศก์ 21 คน หัวหน้าทัวร์ 17 คน ผู้ดูแล 44 คน เรือ 21 ลำ ส่วนนักท่องเที่ยวจากเกาะ 8 ไปเกาะ 4 จำนวน 591 ราย เป็นชาวไทย 18 คน ผู้ใหญ่ 17 เด็ก 1 ต่างชาติ 573 คน ผู้ใหญ่ 550 เด็ก 23 คน มัคคุเทศก์ 28 คน หัวหน้าทัวร์ 17 คน ผู้ดูแล 31 คน เรือ 20 ลำ ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค. 61) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ได้เชิญคณะกรรมการที่ปรึกษา เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนที่กลุ่มผู้ประกอบการ และชาวบ้านทับละมุ ได้ยี่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมาก 

อย่างไรก็ตาม พบว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ก็ยังคงคึกคักต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ประกอบกับทรัพยากรธรรมชาติ และความอุดมสมบูรณ์ของปะการังน้ำตื้น ที่โดดเด่นของหมู่เกาะสุรินทร์ ทำให้เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่กำลังเป็นเป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง