ทำเนียบ 10 พ.ย.- นายกฯ ตรวจความพร้อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รับไฮซีซั่น กำชับอำนวยความสะดวกไม่ให้ล่าช้ากระทบแผนท่องเที่ยว ยันระบบตรวจคนเข้าเมืองมีความพร้อม เผยฟรีวีซ่า ทำนักท่องเที่ยวอินเดียพุ่ง 140% บอกบิน ตปท.ครั้งนี้ห่างลูกนานสุด ลูกร้องไห้แน่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางเยือนนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา และเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ระหว่างวันที่ 10 – 18 พฤศจิกายน 2567 ได้ประชุมหารือการเตรียมความพร้อมสร้างความเชื่อมั่น และแผนรับนักท่องเที่ยวในช่วง High Season ร่วมกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้บัญชาการตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การท่องเที่ยวเป็นเรื่องหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ถือเป็นนโยบายที่สำคัญมากๆ สำหรับประเทศไทยด้วย ดังนั้นทุกส่วนต้องเตรียมพร้อม เพราะเมื่อเป็นนโยบายหลักก็อยากให้ไทยพัฒนาไปเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของหลายๆ ประเทศ ซึ่งต้องยอมรับว่าต่างชาติประทับใจการบริการของประเทศไทยอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามได้เน้นย้ำเรื่องการดูแลนักท่องเที่ยว ซึ่งเข้าใจดีว่าเจ้าหน้าที่ทำงานหนักอยู่แล้ว โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก จึงอยากให้ผู้บังคับบัญชาดูแลในเรื่องนี้ด้วย นอกเหนือจากนี้ การบริการด้านต่างๆ เช่น การเช็กอิน อยากให้มีการเตรียมความพร้อมให้เกิดความสะดวกไม่ล่าช้าจนกระทบแผนการท่องเที่ยว และอยากให้บูรณาการเรื่องการใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความรวดเร็วให้กับนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันรัฐบาลพร้อมรับฟังเพื่อสนับสนุนและเข้ามาช่วยเหลือแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ แก่หน่วยงานที่ให้บริการนักท่องเที่ยว และเยี่ยมชมการใช้งานระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Biometric) ผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ เคาน์เตอร์ของการบินไทย
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงประเด็นข้อกังวลเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องระบบตรวจคนเข้าเมืองที่ก่อนหน้านี้มีปัญหา โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไม่มีเรื่องอะไรให้กังวล เพราะเจ้าหน้าที่แต่ละส่วนทำหน้าที่ดีอยู่แล้ว ส่วนเรื่องระบบขณะนี้มีความพร้อมและได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว
ส่วนเป้าหมายนักท่องเที่ยวในปีนี้ ตั้งเป้าให้มากกว่าปี 2019 ขณะนี้ใกล้เคียงมากแล้ว สืบเนื่องจากที่นายกฯ เศรษฐา ได้ทำเรื่องฟรีวีซ่าทำให้นักท่องเที่ยวขณะนี้เพิ่มขึ้น อย่างนักท่องเที่ยวอินเดียที่ตอนนี้เพิ่มขึ้น 140% แล้ว และกราฟก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าจะเป็นไปด้วยดี ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็ ได้เตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้ว โดยได้กำชับด้านความปลอดภัย และความสะอาด รวมถึงอยากให้ขายเสน่ห์วัฒนธรรมไทยให้ต่างชาติได้รู้จักมากๆ
การเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ค่อนข้างเป็นเวลานาน ได้ฝากอะไรกับรองนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกท่านก็ทราบหน้าที่อยู่แล้วว่ามีอะไรบ้าง อย่างนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องการคมนาคม ด้านการเดินทางของนักท่องเที่ยว ซึ่งได้เน้นย้ำไปโดยเฉพาะเรื่องรถบัส รถประจำทางรวมถึงคนขับ ว่า มีมาตรการอย่างไร เพื่อให้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลทุกคน ทั้งคนไทยและต่างประเทศ
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี บอกว่า การเดินทางครั้งนี้เป็นการไม่เจอลูกนานที่สุดครั้งแรก ลูกร้องไห้แน่ .314.-สำนักข่าวไทย