fbpx

รวบ2ผู้ต้องหารับจ้างขนไอซ์ส่งภาคใต้มูลค่ากว่า 2พันล้านบาท

กรุงเทพฯ 4 ต.ค.- รวบ 2 ผู้ต้องหารับจ้างขนไอซ์ลงใต้ โดยซุกซ่อนในลังผลไม้เพื่ออำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ สุดท้ายไปไม่รอดถูกจับคารถกระบะพร้อมไอซ์ 700 กิโลกรัมมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท


พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลจับกุม 2 ผู้ต้องหา พร้อมไอซ์ 700 กิโลกรัม บรรจุในถุงชา ซุกซ่อน อยู่ในลัง ผลไม้ ท้ายรถกระบะ หลังตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาลและตำรวจสืบสวนนครบาล 8 ยึดได้ขณะ 2 ผู้ต้องหาขับรถกระบะ ทะเบียน  2 ฒจ 9619 กทม. บรรทุกไอซ์  อำพรางมาในลังผลไม้ บริเวณโกดัง ในซอยลิ้มกิมเชียง ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  หลังตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่หนองแขม จะลักลอบขนยาเสพติดล็อตใหญ่จากทางภาคเหนือ มาจำหน่ายให้ลูกค้าในกรุงเทพ และปริมณฑล จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา พบรถยนต์ 1 คัน และรถกระบะต้องสงสัย 2 คัน บรรทุกผลไม้ มาจากภาคเหนือเข้าไปในตลาดไท จังหวัดปทุมธานี จากนั้นได้เปลี่ยนคนขับแล้วขับรถกระบะไปยังโกดังในซอยลิ้มกิมเซียง ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เป็นแหล่งซุกซ่อนยาเสพติด ตำรวจได้เฝ้าติดตามดูพฤติกรรมจนกระทั่งรถกระบะต้องสงสัย ขับออกมาจากโกดังดังกล่าว จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น และพบไอซ์ 600 กิโลกรัม บรรจุในลังผลไม้เต็มกระบะท้าย 2 คัน ส่วนรถยนต์ที่ขับนำทางหลบหนีไปได้ เมื่อขยายผลตรวจค้นในโกดัง พบไอซ์ซุกซ่อนอยู่อีก 100 กิโลกรัม ซึ่งตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายนี้เพิ่งเช่าโกดังดังกล่าวไว้พักยาเสพติดได้ 2 เดือน

พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า สอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจาก ขบวนการค้ายาเสพติด ให้ขับรถขนไอซ์ ไปส่งในภาคใต้ ซึ่งเป็นวิธีการตัดตอนของขบวนการค้ายาเสพติด  และเชื่อว่าน่าจะมีการขนส่งมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล  เบื้องต้นถูกแจ้งดำเนินคดีในข้อหามีไอซ์ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้