กยศ. เตรียมวางมาตรการไล่บี้ลูกหนี้กองทุนกู้ยืม

สำนักข่าวไทย  30 ก.ย. -กยศ.เผยคืบหน้าตัดเงินเดือนลูกหนี้ในหน่วยงานรัฐเป็นไปด้วยดี ปีหน้าเริ่มเอกชน คาดภายใน 1 ปีจะหักเงินเดือนลูกหนี้ได้ทุกหน่วยงาน ส่วนลูกหนี้ที่ไม่ได้สังกัดในหน่วยงานใด คาดมี 1 ล้านคน หากผิดนัดดำเนินการเต็มที่


นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการหักเงินเดือนของลูกหนี้ที่ทำงานในหน่วยงานต่างๆ  ตามพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 ที่กำหนดให้องค์กรนายจ้างทั้งภาครัฐและเอกชน มีหน้าที่หักเงินได้พึงประเมินของพนักงานหรือลูกจ้างที่เป็นผู้กู้ยืมเพื่อชำระเงินกู้ยืมคืนว่า กยศ.ได้ประสานกับหน่วยงานข้าราชการ เเละได้เริ่มนำร่องหักเงินเดือนผู้กู้กยศ.ที่ทำงานในกรมบัญชีกลางเป็นหน่วยงานเเรกไปเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และในเดือนหน้าจะเริ่มหักเงินเดือนของผู้กู้ที่อยู่ในทุกหน่วยราชการที่ผ่านระบบจ่ายตรงของกรมบัญชีกลาง ซึ่งมีจำนวนกว่า 2 เเสนคน 


ขณะที่ต้นปีหน้า จะเริ่มหักเงินเดือนผู้กู้ที่อยู่ในหน่วยงานเอกชนกว่า 8-9 เเสนคน โดยจะหักกับบริษัทที่มีพนักงานมากที่สุด มีจำนวนหลักเเสนคน อย่างบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี เเละข้าราชการท้องถิ่นกว่า 2 เเสนคน ซึ่งกยศ.ยืนยันในจุดยืนที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายในการหักเงินเดือนให้ได้มากที่สุด เพื่อรับเงินกลับเข้ามาหมุนเวียนในกองทุน ลดปัญหาการติดค้างชำระหนี้ คาดว่าภายใน 1 ปี กยศ.จะหักผู้กู้ได้ในทุกหน่วยงาน ส่วนลูกหนี้ที่ไม่ได้ทำงานในหน่วยรัฐเเละเอกชนที่มีกว่า 1 ล้านคน เเละมีจำนวนหนึ่งที่ยังตามตัวไม่เจอ กยศ.ก็ไม่ได้ละเว้น จะต้องฟ้องร้องบังคับคดี แต่ถึงอย่างไรปัจจุบันกยศ.สามารถเข้าถึงข้อมูลลูกหนี้ได้ เราขอหมายเลขโทรศัพท์ของทุกคนเพื่อติดตามหนี้ได้มากขึ้น


ขณะที่ภาพรวมในการชำระหนี้คืนดีขึ้นมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กยศ.ไม่ได้ใช้เงินจากงบประมาณให้การให้ทุนเด็กเลย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี และในช่วงปีที่ผ่านมามีผู้กู้เข้ามาติดต่อขอชำระหนี้กยศ.เป็นจำนวนมากขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่าตัว ทำให้ได้รับเงินคืนกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท เเละคาดว่าปีหน้าจะทะลุ 3 หมื่นล้าน เเต่ขณะเดียวกันก็ยังมีหนี้เสียซึ่งเป็นเงินต้นที่ผิดนัดชำระหนี้ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท จากที่ให้กู้ไปประมาณ 5 เเสนล้านบาทจากจำนวนลูกหนี้กว่า 5 ล้านคน โดยเเบ่งเป็น ลูกหนี้ที่เสียชีวิต 5 หมื่นคน ปิดบัญชีไปแล้วราว 9 เเสนคน  อยู่ระหว่างปลอดหนี้ 1 ล้านคน 

อยู่ระหว่างผ่อน 3 ล้านคน ในจำนวนนี้ผิดนัด 2 ล้านคน เเละได้มีการฟ้องไปแล้ว 1 ล้านคดี

ส่วนปัญหาต่างๆที่เจอในหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งกรณีของครูวิภาที่มาค้ำประกันให้เด็กกว่า 60 คน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลในรอบ 10 ปี พบว่ามีผู้กู้ 2.5 ล้านคน ผู้ค้ำส่วนใหญ่จะเป็นพ่อเเม่เเละเครือญาติ ในส่วนของคุณครูมีมาค้ำประกันอยู่เเค่ร้อยละ 0.17 หรือประมาณ 4,000 คนเท่านั้น ส่วนกรณีการปลอมเเปลงเอกสารของผู้อื่นเพื่อมากู้เงินนั้น ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนนักเรียนนักศึกษาที่กู้ไป โดยในปีนี้พบเกิดขึ้นเพียง 2 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยการนำเอกสารต้นฉบับไปเทียบกับรายมือผู้กู้ ถ้าไม่ตรงกันก็ไม่ต้องรับผิดชอบในหนี้นั้นให้ไปดำเนินคดีอาญาได้เลย ขณะที่ในปีการศึกษา 2563 กยศ.จะปรับเเละพัฒนาระบบการทำสัญญากู้ยืมใหม่ เปลี่ยนเป็นทำสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ ใช้กระดาษให้น้อยที่สุด เพราะปัจจุบันกยศ.มีภาระในการจัดเก็บสัญญากว่า 17 ล้านฉบับ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง