อุดรธานี 5 ต.ค.-แม่นกน้อย แจงที่ไม่ไปเคลียร์หนี้ตามนัด เพราะติดคอนเสิร์ต ยันวันที่ 8 ต.ค.นี้ ไปพบตำรวจแน่นอน บอกตั้งแต่มีเรื่องยังไม่ได้คุยกับคู่กรณี ไม่หนักใจ ไม่ได้หนีไปไหน และไม่ได้โกหก
กรณีนางสุดารัตน์ ภูผานี อายุ 40 ปี นักธุรกิจ แจ้งความจับนางอุไร ฉิมหลวง หรือ นกน้อย อุไรพร อายุ 61 ปี หมอลำชื่อดังวงเสียงอิสาน เบี้ยวหนี้ 3.8 ล้าน หลังยืมโฉนดที่ดิน 33 ไร่ มูลค่า 49 ล้านบาท ไปจำนองกับนายทุนเงินกู้นอกระบบ ผ่านไปเกือบ 3 ปี ยังไม่ได้โฉนดคืน และไม่มาเคลียร์หนี้ถอนคืนโฉนดจากนายทุนตามนัด ทั้งที่ไกล่เกลี่ยหนี้เหลือ 2.1 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 กันยายน ทำให้คู่กรณีต้องเลื่อนตั๋วเครื่องบินกลับสหรัฐถึง 5 ครั้ง
ล่าสุดตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ออกหมายเรียก “นกน้อย อุไรพร” ให้มาพบวันที่ 8 ตุลาคม ถ้าเบี้ยวอีกอาจถูกหมายจับ ความคืบหน้า วันนี้ซึ่งเป็นวันเปิดวงครั้งแรกของปี ของวงดนตรีหมอลำ “นกน้อย อุไรพร” ที่ลานเพลิน เลขที่ 555 หมู่ 17 บ้านหนองใส ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี หรือบ้านที่เรียกกันชินปากว่า “บ้านตอง 5” ซึ่งได้ตั้งเวที มีฉากเป็นพญาศรีสุทโธนาคราช และพญาสุวรรณนาคราช หันหน้าเข้าหากัน ล้อมรั้วสังกะสี ช่วงเช้าแม่นกน้อย นายมัยกิจ ฉิมหลวง หรืออาวทิดหลอด สามี นำลูกวงเข้าร่วมพิธีบวงสรวงรุกขเทวดา เจ้าปู่ศรีสุทโธ เจ้าย่าศรีประทุมมา ด้วยอาหารคาวหวาน ผลไม้ และบายศรี โดยมีหลวงปู่ดำ อายธัมโม วัดป่ารัตนพรชัย อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เป็นผู้นำสวดและทำพิธี เสร็จแล้วต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน เตรียมตัวแสดงคืนนี้
ส่วนแม่นกน้อย ได้มากราบไหว้ศาลปู่ขุนเดช เจ้าของที่เก่า ซึ่งเป็นศาลตั้งอยู่ภายในบริเวณบ้านพัก 555 โดยแม่นกน้อย กล่าวบูชาว่า “ให้ลูกหลายของบ้านตอง 5 กินอิ่มนอนหลับ มีความสุข ให้ทำมาค้าขึ้น เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยสวยงาม กินไม่ไหว ใช้ไม่หมด ตลอดปีตลอดชาติ ให้หมดหนี้หมดสินเด้อค่า” ซึ่งหลังจากนั้น แม่นกน้อย ได้ร้องหมอลำเพลงดังที่สร้างชื่อเสียงให้เมื่อกว่า40 ปีที่ผ่านมา คือเพลง “นกจ๋า” และพาดูที่ลานเพลิน ตั้งเวทีจัดแสดงเปิดวงในค่ำคืนนี้
แม่นกน้อย ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นวันเปิดวงวันแรกของเทศกาลนี้ อธิษฐานขอพร ให้เดินทางตลอดปลอดภัยแคล้วคลาด ทำมาค้าขึ้น ให้ร่ำรวย และอธิษฐานเป็นพิเศษคือให้หมดหนี้สิน หลังจากมีคดีความ ก็ไม่มีผลกระทบอะไรกับการจ้างงาน เจ้าภาพก็ได้รับสื่อจากโซเชียลว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นไปตามจังหวะของชีวิต มีเจ้าภาพมาจองคิวงานไปจนถึงปี 64 ส่วนงานในต่างประเทศมีแถบยุโรป สหรัฐ เดนมาร์ก เยอรมนี และ สปป ลาว เราจะไปแบบมินิคอนเสิร์ต วงใหญ่ไปไม่ได้เพราะค่าใช้จ่ายสูง ไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับต่างประเทศ
แม่นกน้อย กล่าวต่อว่า ในอนาคตอยากสร้างบ้านตอง 5 เสียงอิสาน ให้เป็นศูนย์วัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์ ศูนย์เรียนรู้ บ้านหมอลำ หรือเป็นแลนด์มาร์คในอนาคต ให้ยิ่งใหญ่ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ เป็นมรดกของ จ.อุดรธานี และของคนไทย ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงคดีความกับ น.ส.สุดารัตน์ ภูผานี ที่บอกว่ายังไม่ได้มีการเคลียร์หนี้สิน ไม่ไปพบกับตำรวจตามนัดได้ แม่นกน้อย ตอบว่า ที่ไม่ได้ไปครั้งนั้น เพราะไม่พร้อม มีกิจที่จะต้องทำ ต้องทำมาหากิน ไปออกคอนเสิร์ตนี่แหละ ทำให้ไม่พร้อมที่จะไปตามหมายเรียกของตำรวจ ก็จะดำเนินไปตามขั้นตอน และตนเองก็ไม่ได้หนี ซึ่งวันที่ 8 ตุลาคม นี้ ที่ทางตำรวจเรียกให้ไปพบอีกครั้ง “แม่นกจะไปพบตำรวจแน่นอน ไม่บิดพลิ้ว จะไปคุยในวันที่พบตำรวจ ตั้งแต่วันที่มีเรื่องมายังไม่ได้คุยกับคู่กรณี ไม่หนักใจ ไม่ได้หนีไปไหน และไม่ได้โกหกอะไร ตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่มีข่าวออกมา แม่นกยังไม่เคยได้คุยกับเขาเลย ที่ผ่านมาแม่นกไม่เคยโกหกอะไร ตามที่ทางฝ่ายนั้นกล่าวหา ซึ่งจะไปตามหมายเรียกแน่นอน ส่วนเรื่องรายละเอียด แม่นกยังไม่ขอพูดในตอนนี้”
แม่นกน้อย กล่าวอีกว่า ถึงวันนี้ไม่ได้หนักใจอะไรเลย พอมีข่าวนี้ออกมา ยิ่งทำให้เรามีพลัง ยิ่งต้องแข็งแกร่ง เป็นบทพิสูจน์ลูกหลานบ้านตอง 5 ว่า ณ วันนี้งานที่ซ้อมซึ่งเป็นงานโชว์งานสร้างของเสียงอิสาน ทั้งลูกหลานและแฟนคลับ “สาวกนกปีกเหล็ก” ออกมาสร้างผลงานให้แม่นกน้อยประทับใจ ทุกคนร้องไห้ แม่นกน้อยก็ร้องไห้ เพราะความดีใจว่า พลังของทุกคนไม่ว่าจะเป็นแฟนเพลง แฟนหมอลำ และครอบครัวเสียงอิสาน หรือสาวกของเรามันแกร่งขนาดนี้เชียวหรือ.-สำนักข่าวไทย