คลัง 24 ก.ย. – กรมสรรพากรจับมือกรมศุลการกรยกระดับการจัดเก็บภาษีผ่าน Big Data แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน นำมาวิเคราะห์จับตากลุ่มหลีกเลี่ยงภาษี อำนวยความสะดวกกับเด็กดีเสียภาษีถูกต้อง หวังเกิดผลต่อการจัดเก็บภาษีอากร
นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการรับและการนำส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้เสียภาษีอากรที่เป็นผู้นำของเข้าหรือผู้ส่งของออก ระหว่างกรมสรรพากรและ กรมศุลกากรรองรับนโยบายของรัฐบาลบูรณาการข้อมูลขนาดใหญ่ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลให้เกิดประโยชน์ในการบริหารการจัดเก็บภาษีอากร ภายใต้กระแสโลกยุคดิจิทัลและสอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 ทำให้มีข้อมูลภาษีอยู่ในระบบสร้างความโปร่งใส และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้มากขึ้น
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อนำ Big Data จากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการทำงาน หรือเรียกว่า Digital Transformation หวังเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการจัดเก็บภาษีอากรควบคู่กับการยกระดับการให้บริการและสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจให้มีศักยภาพในเวทีเศรษฐกิจระดับโลก โดยการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งสรรพากรและกรมศุลกากรที่มีการระบุรายชื่อผู้เสียภาษีนำเข้าและส่งออก เพื่อแบ่งประเภทผู้เสียภาษีอย่างถูกต้อง และแบ่งกลุ่มประเภทมีความเสี่ยงต้องจับตาเป็นพิเศษ ช่วยวางรากฐานประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีอากร ควบคู่กับการยกระดับการให้บริการและสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับรายได้ภาษีปี 2561 คาดว่าเกินเป้าหมาย 1.86 ล้านล้านบาท และการจัดเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2562 จะทำได้เพิ่มขึ้น
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ชี้เเจงว่ากรมศุลกากรถือเป็นหน้าด่านในการจัดเก็บภาษีนำเข้าเฉลี่ย 20,000 ตู้คอนเทนเนอร์บีทียูต่อวัน เป็นยอดการจัดเก็บภาษีศุลกากรสัดส่วนร้อยละ 19 และอีกร้อยละ 81 เป็นการจัดเก็บให้กับภาษีให้กับหน่วยงานอื่น เช่น ภาษีให้กับกรมสรรพากรถึงร้อยละ 60 ความร่วมมือครั้งนี้ ทำให้การสืบค้นข้อมูลของผู้เสียภาษี ไม่เหวี่ยงแห่ หรือทำการสุ่มตรวจอีกต่อไป เนื่องจากการทำ Big Data จะทราบเส้นทางการเสียภาษีได้ จากขั้นตอนการตรวจสอบในใบขนส่งสินค้าแต่ละประเภท เพื่อประเมินความเสี่ยงในการหลบเลี่ยงภาษี หรือการแอบลักลอบนำของเข้ามาขายในประเทศ หากถูกจัดอยู่ในประเภทนี้กรมศุลกากรจะนำส่งข้อมูลมาตรวจสอบกับกรมสรรพากรจะพบกลุ่มผู้มีความเสี่ยง มีผู้ประกอบการบางราย ไม่เคยยื่นแบบภาษี ส่วนผู้ที่ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงจะได้รับการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจมากขึ้น. – สำนักข่าวไทย