รัฐปลื้มไทยเลื่อนอันดับประสิทธิภาพด้านสุขภาพ

กรุงเทพ 23ก.ย.-รัฐบาลปลื้มไทยเลื่อนขึ้น 14 อันดับรั้งที่ 27 ประสิทธิภาพด้านสุขภาพทั่วโลก ปี 61 ด้านสื่อต่างประเทศรายงาน เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มสดใส


พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานว่า สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้เปิดเผยข้อมูลดัชนีความมีประสิทธิภาพด้านระบบดูแลสุขภาพของโลกปี 2018 โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 27 จากทั้งหมด 56 ประเทศ ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ในอันดับ 41 ถึง 14 อันดับ และนับเป็นประเทศที่เลื่อนอันดับมากที่สุดในครั้งนี้

“นายกฯ พึงพอใจการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของไทย จากข้อมูลพบว่าประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพต่อคนลดลงถึงร้อยละ 40 คิดเป็น 219 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7,086 บาท ขณะที่อายุขัยเฉลี่ยของคนไทยเพิ่มขึ้นเป็น 75.1 ปี จากเดิมที่ 74.6 เมื่อปีที่ผ่านมา” พลโทสรรเสริญ กล่าว


พลโทสรรเสริญ กล่าวว่า การจัดอันดับดังกล่าวพิจารณาจาก ค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพ เช่น การรักษาพยาบาล การป้องกันโรค การวางแผนครอบครัว กิจกรรมด้านโภชนาการ การรักษาฉุกเฉิน เป็นต้น รวมถึง อายุขัยโดยเฉลี่ยของประชากรในประเทศที่ไม่ต่ำกว่า 70 ปี และ GDP ต่อหัวมากกว่า 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 162,000 บาทต่อปี และเป็นประเทศที่มีประชากรไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า องค์การอนามัยโลกชื่นชม ประเทศไทยว่า เป็นต้นแบบและแหล่งเรียนรู้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยเห็นว่าเป็นระบบที่ยั่งยืน เพราะสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนได้อย่างเข้มแข็ง ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้จัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2559 – 2568) ทั้งด้านการส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub) การบริการสุขภาพ (Medical Service Hub) การศึกษา วิชาการ และงานวิจัย (Academic Hub) ที่เกี่ยวกับสุขภาพ และการเป็นศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Product Hub)  ขณะเดียวกันประเทศไทยยังเป็นประเทศที่มีผู้ใช้บริการทางการแพทย์จำนวนมาก เพราะไทยมีจุดแข็งหลายประการ เช่น ค่ารักษาพยาบาลไม่สูงมาก การบริการดี มีจำนวนโรงพยาบาลมาตรฐานมาก และการสนับสนุนอย่างจริงจังของภาครัฐ เป็นต้น

พลโทสรรเสริญ กล่าวว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้รับรายงานด้วยว่า Wall Street Journal สื่อสายเศรษฐกิจที่นักลงทุนทั่วโลกสนใจติดตามข้อมูลจำนวนมาก ได้เผยแพร่บทความ เกี่ยวกับประเทศไทย โดยระบุว่าแม้ในช่วง 20 ปีก่อน ไทยจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ตลาดหุ้น และเงินบาทไทย มีแนวโน้มสดใส รวมทั้งกำลังกลายเป็นประเทศที่มีสถานะเป็นผู้ให้ทุน มากกว่าที่จะขอรับทุนสนับสนุนจากต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง