fbpx

อีอีซีเนื้อหอม 500 นักธุรกิจจีนลงพื้นที่เสาร์นี้

กรุงเทพฯ 22 ส.ค. – นักธุรกิจจีน 500 คน ลงพื้นที่อีอีซีดูลู่ทางลงทุนวันเสาร์ที่ 25 ส.ค.นี้ พร้อมลงนามเอ็มโอยูรวม 10 ฉบับ


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคมนี้ นายหวัง หย่ง มนตรีแห่งรัฐ สาธารณรัฐประชาชนจีน จะนำคณะเจ้าหน้าที่และนักธุรกิจจีนกว่า 500 คน ลงพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อไปดูลู่ทางการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งนักลงทุนจีนสนใจศักยภาพของอีอีซีและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้ง 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมดิจิทัล หุ่นยนต์ การบิน ยานยนต์สมัยใหม่ การแพทย์ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และแสดงความจำนงที่จะร่วมลงทุนกับ EECd และ EECi มีการขับเคลื่อนสมาร์ทซิตี้ 

โอกาสนี้จะมีพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เพื่อความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างหน่วยงานของไทยและจีน รวม 10 ฉบับ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะจัดให้มีการจับคู่ธุรกิจระหว่างภาคเอกชนไทย-จีน  สำหรับเอ็มโอยูที่ลงนามร่วมกัน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลกับบริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามในการนำระบบ 5G มาทดสอบในพื้นที่อีอีซี, บีจีไอ-เซิน เจิ้น จำกัด กับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เพื่อร่วมมือด้านพันธุ์วิศวกรรมในประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ลงนามความร่วมมือกับสภาธุรกิจไทยจีนในไทย ดำเนินการเชื่อมโยงการลงทุนไทย-จีน, บมจ.กสท โทรคมนาคม และบริษัท ซีเอซี เทเลคอม อินเตอร์เนชั่นแนล ลงทุนเคเบิ้ลสื่อสารใต้น้ำไทย-ฮ่องกง ,  สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและสถาบันวิทยสิริเมธี ลงนามกับทัส-โฮลดิ้ง จำกัด พัฒนา “อีอีซี สตาร์ทอัพ ไซเบอร์พอร์ต” เป็นต้น


นายอุตตม กล่าวว่า ประเทศไทยจะใช้โอกาสนี้เชื่อมอีอีซี ที่มุ่งเน้นพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายกับนโยบายกับโครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (One Belt, One Road) ของจีน และนโบบาย Made in China ด้วย โดยเน้นความร่วมมือพัฒนาบุคลากรไทยให้รองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายรวมถึงการบ่มเพาะธุรกิจ การสร้างนวัตกรรมและธุรกิจสร้างสรรค์ โดยเน้นฐานผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป็นสำคัญ รวมถึงการสร้างความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งไทย-จีน ที่ขณะนี้มีโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนอยู่แล้ว รวมถึงการเชื่อมต่อพื้นที่ตอนเหนือของประเทศไทยเข้ากับคุนหมิงตอนใต้ของจีนด้วย   

“การเข้ามาลงทุนของจีนไม่เป็นการแผ่อิทธิพลของจีน แต่จะเป็นการเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายตามที่ประเทศไทยส่งเสริมและนักลงทุนที่มาเป็นกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งรัฐบาลไทยมีนโยบายชัดเจนไม่ให้การเข้ามาลงทุนของนักลงทุนจีนกระทบกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศไทย แต่จะเป็นความร่วมมือทางธุรกิจและไทยยังสร้างความเข้มแข็งแก่เอสเอ็มอี” นายอุตตม กล่าว 

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายอีอีซี เปิดเผยว่า การเดินทางมาไทยของคณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลและเอกชนจีนครั้งนี้ ถือเป็นการเดินทางมาประชุมและศึกษาดูงานในพื้นที่อีอีซี อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ส่วนเม็ดเงินลงทุนจากนักธุรกิจจีนนั้น เบื้องต้นถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่นักลงทุนจีนจะเข้ามาลงทุนในอีอีซี การลงทุนช่วงแรกจะไม่มากแต่อนาคตจะเพิ่มมากขึ้น


สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ไทยต้องการจากการดึงผู้ประกอบการขนาดใหญ่ของจีนเข้าลงทุนในไทย ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV  ซึ่งจีนมีความเชี่ยวชาญในการผลิตรถไฟฟ้าเช่น การรถบรรทุกและรถเมล์ไฟฟ้า และจีนยังมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ที่ไทยต้องการดึงเข้ามาสร้างเมดิคัลฮับเช่นกันรวมถึงทางจีนยังสนใจลงทุนในการพัฒนาเมืองเก่าในอีอีซีให้เป็นสมาร์ทซิตี้ และการสร้างสมาร์ทซิตี้ใหม่เป็นต้น

นายอุตตม ยังกล่าวถึงการหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงจังหวัดไอจิประเทศญี่ปุ่นวันนี้ (22 ส.ค.) ว่า จังหวัดไอจิเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมใหญ่ของบริษัท โตโยต้า บริษัทเดนโซ่ นับเป็นการสานต่อจากเดินทางเยือนญี่ปุ่นเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาที่หารือคอนเน็ตเต็ดอินดัสทรี ปัจจุบันนักลงทุนจากไอจิ กว่า 400 บริษัทลงทุนในไทยแล้ว โดย 1 ใน 3 ของการลงทุนญี่ปุ่นในไทยมาจากจังหวัดไอจิ

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอให้สำนักงานรวบรวมข้อมูลการลงทุนในไทยที่ตั้งอยู่ภายในเจโทรกรุงเทพตั้ง  “ไอจิ-ไทยแลนด์ อินดัสเทรียล อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์” โดยใช้ศูนย์ ITC ที่กล้วยน้ำไทยเป็นศูนย์การเรียนรู้อุตสาหกรรม 4.0 แก่เอสเอ็มอีไทย เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนา และเดินหน้าความร่วมมือเชื่อมโยงบริษัทญี่ปุ่นกับบริษัทไทยโดยตรงในพื้นที่อีอีซี ในลักษณะพื้นที่ต่อพื้นที่ หรือ Local-Local.  -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้