นายกฯ มอบนโยบาย ตร. ฝากขับเคลื่อน 3 ข้อ

โรงแรมรามาการ์เด้น 19 ก.พ.- นายกฯ มอบนโยบาย ตร. ระดับผู้บัญชาการและผู้บังคับการ หรือเทียบเท่า ฝากขับเคลื่อน 3 ข้อ พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้เท่าทันเทคโนโลยี มุ่งปราบอาชญากรรมข้ามชาติยุคดิจิทัลแสวงความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน-องค์กรนานาชาติ -ประสานตำรวจสากล สั่ง ฟัน จทน.เอี่ยวอาชญากรรม ไม่มีเลือกปฏิบัติ


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายหัวข้อ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digital Disruption” ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในโครงการสัมมนาผู้บริหารระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่าและผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณปี 2568 ว่า รู้สึกดีใจที่มาบอกแนวทางว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนช่วยทำด้านไหนบ้าง เพื่อให้ประเทศเป็นประเทศที่ปลอดภัยและพัฒนาไปพร้อม กับรัฐบาล

เรื่องของหลักนิติรัฐ นิติธรรม เป็นสิ่งที่รัฐบาลของให้ความสำคัญ และเน้นย้ำให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายโดยไม่เลือกปฏิบัติ ประเทศไทยในทุกวันนี้กำลังเผชิญกับสถานการณ์ความท้าทายใหม่ ๆ ทั้งในด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และสังคม รวมไปถึงอาชญากรรมรูปแบบอื่นที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกคน
ได้เตรียมความพร้อม และมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อวางกลยุทธ์ และปรับรูปแบบการทำงานให้สามารถรับมือและปราบปรามอาชญากรรมรูปแบบใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในประเด็นเรื่องของยาเสพติด และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ทุกคนมีโอกาสเป็นผู้เสียหายได้ เพราะอาชญากรใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อการเข้าถึงและหลอกลวงประชาชน ซึ่งล่าสุดรัฐบาลก็ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ด้วยการตัดไฟฟ้าตามแนวชายแดน ในบริเวณที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรรม พร้อมกับดำเนินมาตรการ “Seal Stop Safe” เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดซึ่งได้รับความร่วมมือจากทั้งทหารและตำรวจเป็นอย่างดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรม ให้หมดไปจากสังคมไทย ทั้งยาเสพติดและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพราะสิ่งเหล่านี้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างกับประชาชน และยังกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และภาพลักษณ์ของประเทศในระดับนานาชาติ

“ตนขอให้ทุกคนมั่นใจว่า ความตั้งใจในการปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนนั้น จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มที่ในทุกมิติ โดยเฉพาะในด้านการเสริมขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีและการข่าวกรอง รวมไปถึงการสนับสนุนงบประมาณในการจัดหาอุปกรณ์จำเป็นที่ต้องใช้ในการปฏิบัติภารกิจ” นายกรัฐมนตรี ระบุ
 
 นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า อยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับไปพิจารณาและขับเคลื่อนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมใน 3 ข้อ คือ ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้เชี่ยวชาญ และรู้เท่าทันการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ถ้าเราสามารถร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านได้หรือประเทศที่เกี่ยวข้องเราก็ไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ในเรื่องของเทคโนโลยี ที่อาชญากรจะใช้เป็นช่องทางในการหลอกลวงพี่น้องประชาชนก็ขอให้มีการอัพเดทในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดสัมมนาเชิญผู้รู้มามอบองค์ความรู้ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากขอให้ควบคู่ไปกับการผลักดันการแก้ไขกฎหมายหรือออกมาตรการที่ช่วยปราบปรามอาชญากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การยึดทรัพย์สินของผู้กระทำผิดที่ถูกแปลงเป็นเงินสกุลดิจิทัล หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆขอเน้นย้ำในเรื่องนี้นำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง


ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแสวงหาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและองค์กรทั้งในระดับนานาชาติและระดับภูมิภาค เนื่องจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและยาเสพติด มักเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และมีฐานปฏิบัติการในประเทศเพื่อนบ้านเราจึงต้องมีการทำงาน แลกเปลี่ยนข้อมูล และฝึกอบรมบุคลากรร่วมกัน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า นอกจากนี้เราควรใช้ช่องทางตำรวจสากล ไม่ว่าจะเป็น Interpol Europol และ ASEANAPOL ในการประสานและส่งต่อข้อมูลผู้กระทำผิด ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการปราบปรามอาชญากรรมได้ และสุดท้ายขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินมาตรการทางวินัย และทางกฎหมายแก่ข้าราชการตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมอย่างเคร่งครัด และเข้มงวดโดยไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่ผู้ปฏิบัติงาน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ เมื่อมีผู้กระทำผิดเราก็ดำเนินการตามความผิดซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

ช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างที่ได้กล่าวไปว่าทุกภาคส่วนสำคัญต่อรัฐบาลในการพัฒนาประเทศไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแรง ขอให้ทุกคนดำเนินการตามที่บอกไว้และช่วยกันเป็นกำลังสำคัญเพื่อให้เกิดความมั่นใจทั้งคนในประเทศและต่างชาติ เพื่อที่จะพัฒนาเศรษฐกิจไปพร้อมกันเป็นประเทศที่ปลอดภัยน่า ท่องเที่ยว น่าเข้ามาอยู่ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากตำรวจทุกคน ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจอย่างเต็มที่ และขอส่งกำลังใจให้ทุกภาคส่วนมีอะไรก็ยินดีพร้อมซัพพอร์ตสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสามารถคุยกันได้ผ่านมาทางผบ. ตร. ก็ได้ เพราะอยากให้ทำงานอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ตนทราบว่าระบบราชการมีขั้นตอนแต่อะไรที่สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างรวดเร็วตนยินดีรับฟังและยินดีที่จะสนับสนุน .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน