รัฐสภา 19 ก.พ.-“พูนศักดิ์” ชง กมธ.ที่ดินฯ สอบนิคมลำตะคอง-สนามกอล์ฟอนุทิน เชื่อเคลียร์ที่ดินทับซ้อนไม่ยาก แม้มีนักการเมืองเกี่ยว บอกเป็นเรื่องข้อกฎหมาย ขอ สคทช.เป็นตัวกลาง เร่งทำวันแมป แก้ปัญหายั่งยืน
นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า วันนี้กมธ.ที่ดินฯ จะนำเรื่องที่ดินทับซ้อนในพื้นที่นิคมลำตะคอง ซึ่งรวมไปถึงที่ดินของครอบครัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าสู่ที่ประชุม เพื่อขอมติที่ประชุมว่า จะเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชน มาตั้งแต่ปี 2567 ว่ามีพื้นที่ทับซ้อน ทำให้การออกโฉนดที่ดินล่าช้า ซึ่งตนได้ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ มา 3-4 เดือนแล้ว และล่าสุดได้รับเอกสารมาครบเรียบร้อยแล้ว จึงคิดว่าจะนำมาขอมติที่ประชุม เดินหน้าเป็นวาระใหญ่ของที่ประชุมได้หรือไม่
เมื่อถามว่า มองประเด็นเรื่องพื้นที่ครอบครัวของนายอนุทินอย่างไร นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นประเด็นการเมือง แต่มองเป็นเรื่องของข้อกฎหมายมากกว่า และต้องการที่จะหาวิธีแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพราะตอนนี้มีภาคประชาชน ประมาณ 800 แปลง ร้องเข้ามาว่าไม่ได้มีการพิสูจน์เรื่องของการทับซ้อนและออกเอกสารสิทธิ์ให้ ซึ่งเราต้องยกมาตรวจสอบทั้งหมดไม่ใช่แค่แปลงใดแปลงหนึ่ง แต่ก็ยอมรับว่าแปลงของครอบครัวนายอนุทิน ก็ต้องได้รับการตรวจสอบด้วย โดยจะต้องไปดูวัตถุประสงค์ของการใช้ที่ดินนิคมสร้างตนเอง ว่ากำหนดให้ทำอะไร และยอมรับว่า เมื่อครอบครองครบ 5 ปีแล้วสามารถขอออกเป็นโฉนดได้ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าเมื่อออกเป็นโฉนดแล้วเปลี่ยนวัตถุประสงค์การใช้งาน สามารถทำได้หรือไม่ ทั้งนี้ ยังเป็นคำถามของ กมธ.อยู่ จึงคิดว่าเป็นหนึ่งที่ต้องตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ตนได้พูดคุยกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) อยากจะขอให้เป็นตัวกลาง เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทั้งหมด และจากที่ทราบตอนนี้ สคทช. ก็กำลังตรวจสอบในพื้นที่ลำตะคองอยู่
เมื่อถามย้ำว่า กรณีนี้มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยจะทำให้เข้าเคลียร์ที่ดินทับซ้อนยากขึ้นหรือไม่ นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ยาก เพียงแค่หน่วยงานรัฐ ทำงานตรงไปตรงมา และสคทช. ก็ต้องเคลียร์เรื่องวันแมพให้ได้ เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทั้งประเทศได้อย่างยั่งยืน ไม่มีปัญหาซ้ำ
“ต้องช่วยกันแก้ทีละเส้น ต้องใช้เวลา ทางกมธ.จะช่วยตรวจสอบถึงแม้จะเป็นที่ดินของนักการเมือง หรือของใครก็ตามเรายินดีที่จะเข้าไปร่วมในการตรวจสอบ ” นายพูนศักดิ์ กล่าว
นายพูนศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ผู้ที่ถือครองที่ดินอาจจะมีโฉนด เพราะถือครองครบ 5 ปีแล้วออกโฉนดได้ และอาจจะเปลี่ยนมือที่ 2 3 หรือ 4 ทำให้เจ้าของปัจจุบันถือโฉนดอย่างถูกต้อง แต่ก็ต้องกลับไปดูวัตถุประสงค์ของนิคมสร้างตนเองด้วยว่าเขาให้ทำอะไร และต้องเป็นไปตามที่เคยประกาศไว้ตั้งแต่ต้นหรือไม่ ทาง กมธ.กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่.-315.-สำนักข่าวไทย