บุกช่วยหนุ่มวัย 20 ปี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์กักขังเรียกค่าไถ่

กรุงเทพฯ 19 ก.พ. – ตำรวจบุกช่วยหนุ่มวัย 20 ปี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์กักขังเรียกค่าไถ่ พบสภาพจิตใจยังกังวล หวาดกลัว และหวาดระแวง เตือนตำรวจไม่มีการวิดีโอคอล หากเกิดเหตุลักษณะนี้ให้คิดไว้ก่อนว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างแน่นอน


พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากพ่อแม่ของเด็กหนุ่มคนหนึ่งว่าลูกชายถูกอุ้มไปที่ใดที่หนึ่ง พ่อแม่มาขอร้องให้ตำรวจช่วย โดยเล่าว่ามีค่ายมือถือดังโทรศัพท์มาหาผู้เสียหาย อ้างว่าผู้เสียหายไปพัวพันกับแก๊งฟอกเงิน ให้ไปแสดงตัวที่ สภ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ แต่เนื่องจากผู้เสียหายไม่สะดวกเดินทางไป จึงบังคับให้ผู้เสียหายเปิดโรงแรมในพื้นที่วังทองหลาง และวิดีโอคอลกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลากินข้าว โดยมีการหลอกต่อเนื่อง 7 วัน

นอกจากนั้นยังให้ผู้เสียหายโอนเงิน 3 รอบ รวมกันจำนวน 150,000 บาท ในระหว่างนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ให้ผู้เสียหายคุยกับเจ้าหน้าที่ ปปง. และเจ้าหน้าที่ธุรกรรมบัญชี ซึ่งหลังจากหลอกเด็กจนเงินหมดแล้วได้ให้เด็กไปหลอกพ่อแม่ว่าจะนำเงินไปเรียนต่อต่างประเทศ และใช้เป็นเงินค้ำประกัน 500,000 บาท ด้านของครอบครัวของผู้เสียหายได้โอนเงินเข้าบัญชีของลูกชาย หลังจากนั้นผู้เสียหายก็โอนต่อไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์


หลังจากหมดคำโกหกในเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศแล้ว ได้ให้ผู้เสียหายหลอกพ่อแม่ว่าโดนอุ้ม และจะโดนทำร้ายร่างกาย รวมถึงจะถูกนำไปขายที่ต่างประเทศ พร้อมทั้งข่มขู่พ่อแม่ของผู้เสียหายว่าถ้าไม่อยากให้ลูกโดนนำไปขายต่างประเทศ ให้โอนเงินมา 150,000 บาท แต่พ่อแม่ของผู้เสียหายกลับรู้สึกแปลกใจ จึงเดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มปฏิบัติการในการค้นหาผู้เสียหายทันที ซึ่งในช่วงแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปค้นหาพยายามเจาะไปตามโรงแรมต่างๆ ในพื้นที่วังทองหลาง เนื่องจากผู้เสียหายไม่ยอมบอกพิกัดที่อยู่

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงห้องพักที่ผู้เสียหายพักอยู่นั้น เจ้าตัวยังคงพูดคุยอยู่กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตลอดเวลา แล้วตอนที่ตำรวจไปถึงตัวของผู้เสียหายเองยังอยู่ในอาการหวาดกลัว

ด้านของ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ยังฝากบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีการวิดีโอคอลมาพูดคุยกับผู้เสียหาย ถ้าหากเกิดเหตุในลักษณะนี้เกิดขึ้นให้คิดเอาไว้ก่อนว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างแน่นอน


ด้านพ่อของผู้เสียหายเปิดเผยว่า เริ่มแรกลูกชายบอกกับตนว่าได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ โดยมีการอ้างชื่ออาจารย์ซึ่งดูแลเรื่องโครงการทุนของมหาวิทยาลัย ตนจึงทดลองหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตพบว่ามีชื่ออาจารย์คนดังกล่าวจริง แต่ไม่มีชื่อโครงการทุนดังกล่าว ประกอบกับเมื่อสอบถามข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับที่พักและสถานที่เรียน ลูกชายพูดจาวกไปวนมา จึงทำให้เริ่มเอะใจ แต่ได้เตือนลูกว่าไม่มีหลักสูตรดังกล่าวอยู่จริง แต่ตนได้โอนเงินให้ลูกเพราะรักและเชื่อใจ จากนั้นตนได้ไปสอบถามข้อมูลจากอาจารย์ของมหาวิทยาลัย ซึ่งตนเคยศึกษาที่มหาวิทยาลัยนี้ ทางอาจารย์ตอบกลับมาว่ากรณีดังกล่าวน่าจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่มีการเอาชื่ออาจารย์ไปแอบอ้าง โดยตัวเจ้าของชื่อที่แอบอ้างไม่ทราบเรื่องดังกล่าวด้วย

กระทั่งครั้งล่าสุดกลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหาตัวเอง พร้อมกับส่งรูปภาพรถจักรยานยนต์ล้ม เพื่อสร้างสถานการณ์ข่มขู่ และให้ตนโอนเงินไป 150,000 บาท เพื่อแลกกับความปลอดภัยของลูก อ้างว่าลูกของตนเป็นหนี้การพนัน รวมถึงยังข่มขู่ว่าขณะนี้ได้พาตัวลูกชายของตัวเองไปที่ชายแดน จ.สระแก้ว จะเอาตัวลูกชายไปขาย ตนจึงตัดสินใจเดินทางจาก จ.ขอนแก่น มาแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลางเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งตนเองและภรรยาโอนเงินให้กลุ่มมิจฉาชีพเป็นเงินจำนวน 520,000 บาท

หลังตำรวจช่วยเหลือลูกชายตนเองออกมา แม่ของผู้เสียหายโผเข้ากอดลูก ขณะเดียวกันตนได้มีการพูดคุยกับลูกพบว่าสภาพจิตใจขณะนี้ยังอยู่ในภาวะกังวล หวาดกลัว และหวาดระแวง ซึ่งตนเองไม่ได้มีการตำหนิ แต่ได้ปลอบใจและขอให้เรื่องนี้เป็นบทเรียน.-420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายห้ามเข้าออก

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าออก พบปิดกิจการตั้งแต่ 16 มี.ค.63 ขณะที่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งโดยรอบ

ฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67 เชื่อเป็นเกมการเมือง หวังเกิดวิกฤต รธน. เพื่อรื้อใหม่ทั้งฉบับ ขู่ใช้ช่องทางกฎหมายกลับ หากทำเสียหาย-บั่นทอนความเชื่อมั่น เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี จวก “ทวี” กล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจรทำวุฒิเสื่อมเสีย พร้อมเปิดเวทีซักฟอก

ไทยเข้าฤดูร้อน

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าสู่ฤดูร้อนของไทย 28 ก.พ.68

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 23-25 กุมภาพันธ์นี้ ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร พร้อมประกาศประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ 28 ก.พ.68 จนถึงกลางเดือน พ.ค.

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์ภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนกลับประเทศ

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์แสดงผลภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ 200 คน ปรับแผนจีนส่งเครื่องบินรับอีก 400 คน สองวันติด “ภูมิธรรม” เผยพร้อมเสนอนายกฯ เซ็นตั้ง ศปช.ส่วนหน้า ทำงานให้ชัดเจน มีกฎหมายรองรับผู้ปฏิบัติ ย้ำไทยไม่ตั้งศูนย์อพยพรองรับเหยื่อที่เหลือ แต่ประสานให้ต้นทางรับกลับทันที