กรุงเทพฯ 18 ส.ค.-นายกฯ เตือนประชาชนระมัดระวังการท่องเที่ยวน้ำตก ชายทะเล ชี้การแก้ปัญหาจราจรให้ได้ภายใน 3 เดือนเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน การแก้ปัญหาดังกล่าวมีปัจจัยหลายอย่างเกี่ยวข้อง ย้ำให้ จนท.เสนอแนวทางแก้ปัญหาจราจรภายใน 3 เดือน
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยประชาชนทั่วประเทศ เนื่องจากในระยะนี้มีฝนตกในหลายพื้นที่จากอิทธิพลของพายุเบบินคา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และทะเลมีคลื่นสูงมากกว่าปกติ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือน ระมัดระวังการเดินทาง ขนย้ายทรัพย์สินมีค่าขึ้นที่สูง เตรียมอุปกรณ์เพื่อการยังชีพให้พร้อม และติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด
“นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำเรื่องการไปเที่ยวน้ำตกว่าจะต้องระมัดระวังตัวเองอย่างมาก หรืออาจเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน เพราะที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากขึ้นแล้ว เมื่อฝนตกหนัก ป่าจะเก็บน้ำสะสมไว้มาก แล้วไหลบ่าออกมา โดยเราไม่สามารถคาดการณ์ได้ ไม่เหมือนกับการวัดปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งการท่องเที่ยวชายทะเล หากมีคลื่นสูงต้องไม่ลงไปเล่นน้ำ เพราะอาจเสี่ยงอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้ และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่ ทั้งอุทยาน น้ำตก ชายทะเล และที่อื่น ๆ ให้คำแนะนำ ตักเตือน และตรวจตราดูแลประชาชนด้วย” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการรายงานข่าวที่ระบุว่า รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาจราจรให้ได้ภายใน 3 เดือนนั้น อาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยนายกรัฐมนตรีไม่ได้หมายความว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ได้ภายใน 3 เดือน เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบผังเมืองที่มีมาตั้งแต่อดีต การอยู่ในระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้า ใต้ดิน-บนดิน ปริมาณรถยนต์-จักรยานยนต์ ในกรุงเทพฯ ที่มีจำนวนถึง 9.7 ล้านคัน ซึ่งมากกว่าจำนวนรถที่เหมาะสมถึง 8 เท่ากับเมื่อเทียบกับเส้นทางถนนภายในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ได้สั่งการให้หน่วยงานหามาตรการใหม่เสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อที่จะลดปัญหาการจราจรติดขัดลงให้ได้มากที่สุดภายใน 3 เดือน.-สำนักข่าวไทย