จี้นายกฯ สางปมเหมืองทองอัคราฯ

รัฐสภา 4 เม.ย. – “เบญจา” จี้นายกฯ สางปมเหมืองทองอัคราฯ พาดพิงอดีตนายกฯ ทำ สส.ลุกประท้วงวุ่น จนประธานที่ประชุมต้องสั่งให้เข้าเรื่อง อย่าเอ่ยชื่อคนนอก


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) ในญัตติการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ ม.152 ซึ่งมีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายรัฐบาลถึงการจัดการเหมืองทองอัคราที่อนุญาโตตุลาการเลื่อนการชี้ขาดออกไปเป็นช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2567 โดยตั้งข้อสงสัยถึงการยกผลประโยชน์จากขุมทรัพย์ทองคำให้แก่นายทุนต่างชาติ

น.ส เบญจา เริ่มอภิปรายด้วยการท้าวความถึงที่มาของเหมืองทองอัคราฯ เริ่มต้นมาจากการที่รัฐบาลในปี 2543 เปิดสัมปทานเหมืองแร่ทองคำชาตรีบริเวณรอยต่อ จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ และจ.พิษณุโลก โดยมีบริษัทคิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด ของออสเตรเลีย ได้สัมปทาน และมอบหมายให้บริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทลูกดำเนินการ ซึ่งเหมืองทองดังกล่าวเปิดดำเนินการในปี 2544 ตรงกับรัฐบาลไทยรักไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดเหมืองเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2544 และเริ่มขุดเหมืองในปีเดียวกันนั้น โดยยื่นขออาชญาบัตรสำรวจทองคำในปี 2546-2548 อีก 44 แปลง ขณะที่ชาวบ้านโดยรอบต้องประสบปัญหามลภาวะต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม


น.ส.เบญจา กล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 2549 เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งออสเตรเลียประจำประเทศไทย ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมขณะนั้นเพื่อขอสิทธิ์สำรวจ และได้รับประทานบัตรอีก 9 แปลง ผ่านไป 7 ปี เมื่อเกิดรัฐประหารปี 2557 ส่งผลให้เหมืองถูกปิด แต่ชาวบ้านยังคงทนไม่ได้จากมลภาวะ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ สุ่มตรวจชาวบ้านที่อยู่บริเวณรอบเหมืองปนเปื้อน สารโลหะหนักและสารไซยาไนต์ในเลือดสูงกว่ามาตรฐาน

“เหมืองทองอัคราฯ ถูกสั่งให้ปิดเป็นเวลา 30 วันตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แร่ 2550 ซึ่งเท่ากับว่าสามารถใช้กฎหมายปกติได้ และไม่จำเป็นต้องใช้ ม.44 เป็นข้ออ้าง แต่เป็นเพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีอยากควบคุมนายทุนที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลในอดีตที่มองว่าเป็นคู่ตรงข้ามกับตนเอง แต่เนื่องจากบริษัทคิงส์เกตฯ เป็นนายทุนต่างชาติจึงใช้วิธีเรียกคุยเจรจา สุดท้ายก็ตกลงกันไม่ได้ จึงใช้ข้ออ้างนี้ปิดเหมืองทอง ทำให้บริษัทคิงส์เกตฯ ยื่นเรื่องต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศให้ชดใช้ค่าเสียหายจากการปิดเหมืองทองดังกล่าว” น.ส.เบญจา กล่าว

นส.เบญจา กล่าวว่า ประชาชนอาจคิดว่าพล.อ.ประยุทธ์สั่งปิดเหมืองทองอัคราเพราะใส่ใจประชาชนและสิ่งแวดล้อม แต่เหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์ และโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่มีข้อร้องเรียนเดียวกันกลับไม่เคยถูกสั่งปิด ทั้งยังแต่งตั้งผู้ที่เพิ่งลาออกจากคณะกรรมการอิสระของบริษัทอัคราฯ เพียง 12 วันมานั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการอุตสาหกรรมที่ผลักดันการสร้างเหมืองแร่โปแตชอย่างถูกกฎหมาย


ผ็สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ลุกขึ้นประท้วงและขอให้อภิปรายรัฐบาลปัจจุบัน เนื่องจากเอ่ยชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่ไม่สามารถเข้ามาชี้แจงได้ หากจะกล่าวถึงความหลังให้กล่าวพอประมาณ ทำให้นายปดิพัทธ์ กล่าวเตือนให้น.ส.เบญจาเข้าเรื่อง เนื่องจากใช้เวลาปูเรื่องค่อนข้างมาก และให้ใช้คำว่า ‘รัฐบาลชุดก่อน’ หรือ ‘นายกรัฐมนตรีคนก่อน’ แทนการเอ่ยชื่อโดยตรง

นส.เบญจา กล่าวว่าเมื่อมามาถึงตรงนี้ไม่แปลกใจ เมื่อรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยยกตำแหน่งประธานคณะกรรมการแร่ฯ ให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย จึงทำให้เห็นว่าการที่พรรคเพื่อไทยเคยลั่นวาจาไว้ว่า “เมื่อไหร่ที่ พล.อ.ประยุทธ์หลุดอำนาจ พรรคเพื่อไทยจะยื่นต่อองค์กรอิสระเพื่อดำเนินคดี…” นั้นเป็นความจริงหรือแค่เทคนิคที่ใช้ในการหาเสียง

นส.เบญจา กล่าวว่า กระบวนการของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ. 2563 แต่ 4 ปีผ่านไปแล้ว กลับยังไม่มีคำชี้ขาด ในขณะที่ข้อมูลจากคณะตัวแทนรัฐบาลไทยในคดีนี้แจ้งว่า บริษัทคิงส์เกตฯ มีโอกาสแพ้คดีสูงมาก เนื่องจากเอกสารที่ใช้เป็นรายงานที่ตรวจพบว่ามีการรั่วไหลของสารพิษจากบ่อกักเก็บกากแร่ที่หนึ่งของเหมืองทองคำ ทำให้การตกลงชี้ขาดเลื่อนออกไป ซึ่งระหว่างนั้นภายหลังจากที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และได้เปลี่ยนชุดทำงาน ตัดข้อมูลจากพยานหลักฐานทั้งหมดออกไป ทั้งยังพบว่ามีความพยายามเจรจายกทรัพย์สินประเทศให้กับกระบวนการเอื้อประโยชน์แก่นายทุนครั้งใหญ่ จึงอยากถามว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่รัฐบาลชุดนี้จะจัดการ

“ผ่านมา 212 วัน เศรษฐา มีอำนาจหรือยัง หรือถูกใครขี่คออยู่ และจะเอาอย่างไรกับการที่อดีตนายกฯ ท่านก่อน และอดีตรมว.อุตสาหกรรม ซึ่งวันนี้เป็นรัฐมนตรีภายใต้รัฐบาลของท่าน มีพฤติกรรมการเจรจาประเคนผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนต่างชาติเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในชาติ และรัฐบาลนี้จะทำเพื่อใคร หรือเพื่อนายทุน ดังนั้น อย่าปล่อยให้เรื่องที่พรรคเพื่อไทยขึงขังในวันนั้น ต้องจบลงอย่างปาหี่ และเป็นเพียงการใช้เทคนิคหาเสียงเท่านั้น อย่าปล่อยเรื่องมหากาพย์ให้เป็นมวยล้มต้นคนดู ” นส.เบญจา กล่าว

ผู้สื่อข่างรายงานว่า ระหว่างการอภิปราย สส.จากพรรคร่วมรัฐบาล ลุกขึ้นประท้วง อาทิ น.ส.นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศีรษะเกษ พรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า ต้องมีความเป็นธรรมด้วยการใช้คำพูดว่า มีผู้ขี่คอท่านนายกฯ หากมีอะไรเด็ด ๆ ให้พูดออกมาเลย นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ประท้วงว่า ประธานต้องวางตัวเป็นกลาง ตักเตือนผู้อภิปรายให้เข้าประเด็น และไม่ควรพาดพิงบุคคลภายนอก.-312.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กทม. 13 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ ในวันที่ 13 กรกฎาคม […]

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]