สส.ปชน. ซัด “นายกฯอิ๊งค์” แลกคดีเหมืองทองอัครากับการจัดตั้งรัฐบาล

รัฐสภา 24 มี.ค.-สส.ปชน. ซัด “นายกฯอิ๊งค์” แลกคดีเหมืองทองอัครากับการจัดตั้งรัฐบาล ตั้งเครือข่าย พล.อ.ประยุทธ์ คุมอุตสาหกรรม ให้พ้นผิด ย้อนเกร็ดไม่เหมือนตอนเป็นฝ่ายค้าน จะเอา “บิ๊กตู่” เข้าคุก ผ่านมา 2 ปีไม่ทำอะไรเลย หรือแลกกับเอาคนในครอบครัวกลับบ้าน ขณะที่ สส.รทสช. เดือด ป้อง พล.อ.ประยุทธ์ คนไทยทั้งประเทศยังคิดถึง ยังเป็นไอดอลอยู่

นายอิทธิพล ชลธราศิริ สส.ขอนแก่น พรรคประชาชน อภิปรายถึงเหมืองทองอัครา ที่สมัยพล.อ.ประยุทธ์​จันทร์โอชา เป็นนายกฯ สส.พรรคเพื่อไทย ทั้งนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และน.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ อภิปรายว่าพล.อ.ประยุทธ์​สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติไว้มากมาย แต่พอมาเป็นรัฐบาล กลับหลงลืมและล้มเหลวที่จะทำตามคำพูดที่เคยพูดไว้ทุกเรื่อง ความล้มเหลวในการบริหาราชการแผ่นดินของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มีสาเหตุสำคัญมาจากปัญหาทางการเมือง ที่ทำทุกวิถีทางให้ได้มาซึ่งอำนาจ ประเทศไทยเราเลยได้รัฐบาลไม่ตรงปก เพราะเนื้อในของนายกฯไม่มีความรับผิดชอบต่อประชาชนเลย ยอมละทิ้งสัจจะเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล ยอมทุกอย่างเพื่อนำตัวบุคคลในครอบครัวกลับบ้าน แลกกับการเป็นนั่งร้านให้กับพล.อ.ประยุทธ์​คอยระวังหลังไม่ให้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่มีการกระทำความผิดไว้ โดยไม่สนใจว่าท้ายที่สุดแล้วความอยากได้ผลประโยชน์ทางการเมืองของนายกฯ จะทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติบ้านเมืองอย่างไร


นายอิทธิพล กล่าวต่อว่า ตอนที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน อภิปรายว่าพล.อ.ประยุทธ์ ทำผิดไว้หลายเรื่อง ตนจึงไปฟังที่ท่านอภิปรายทั้ง 5 ครั้ง สรุปได้ว่ามีวิธีการแก้ปัญหาเรื่องเหมืองทองอัครา อยู่ 4 ข้อคือ1.ต้องดำเนินคดีกับพล.อ.ประยุทธ์​ เอาคนผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด 2.ต้องไม่เลื่อนขอออกคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการอีกแล้ว 3.ต้องหยุดพฤติกรรมขายชาติ หยุดประเคนผลประโยชน์ของประเทศชาติให้กับคิงส์เกต และ 4.ต้องยุติการล้มคดีทั้งหมดให้กับบริษัทคิงส์เกต แต่นี่2ปีแล้วที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ก็ยังไม่มีคำชี้ขาดออกมา และไม่ได้ทำอย่างที่พูดไว้เลย ตอนพูด พูดอย่างน้ำไหลไฟดับ พอได้เป็นรัฐบาลกลายเป็นเพียงน้ำท่วมทุ่งไปแล้ว

“พอพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลคุณแพทองธาร ได้เป็นนายกฯ ทุกคนที่ออกมาด่าพล.อ.ประยุทธ์เรื่องเหมืองทองอัคร ได้ดิบได้ดีเป็นรัฐมนตรีกันทุกคน แทนที่ท่าจะเด็ดหัวสอยนั่งร้านเผด็จการ ท่านกลับทำตัวเป็นนั่งร้านเสียเอง ขนาดนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นรมว.อุตสาหรรมในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่พวกท่านก็ด่าว่าเป็นนั่งร้านให้กับพล.อ.ประยุทธ์ ยังได้มาเป็นรมว.คมนาคม ในรัฐบาลแพทองธารเลย ผมไม่เห็นว่าพวกท่านจะทำอย่างที่พูดสักอย่าง โดยเฉพาะนายกแพทองธาร ที่เคยท่องตามเป็นนกแก้วนำขุนทอง บอกว่าจะปิดสวิสท์ 3 ป.​แล้ว ป.ประยุทธ์จะปิดเมื่อไหร่ และการที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้อยู่ในรัฐบาล ไม่ได้เรียกว่าปิด ถ้าปิดจริงต้องดำเนินคดี เพราะเป็นสิ่งที่ท่านเคยพูดเอาไว้เอง โดยเฉพาะรัฐมนตรีจิราพร ที่เคยอภิปรายไว้” นายอิทธิพล กล่าว


นายพลากร พิมพะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ประท้วงว่า ทนฟังมานานแล้ว ผู้อภิปรายเอ่ยถึงบุคคลอื่นโดยไม่จำเป็นหลายรอบมาก และพูดนอกประเด็น

ทั้งนี้นายภราดร ปราศนานันทกุล รองประธานสภาฯคนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม วินิจฉัยว่า ตามข้อบังคับก็บอกไว้ชัดเจนว่าการเอ่ยถึงบุคคลภายนอก ผู้อภิปรายจะต้องรับผิดชอบตัวเอง หากมีการฟ้องร้อง เขาก็จะต้องถูกดำเนินคดี ก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง ซึ่งตนมั่นใจว่าผู้อภิปรายทุกคนที่ลุกขึ้นอภิปรายก็เข้าใจในข้อบังคับดี ส่วนเนื้อหาสาระเข้าใจว่ากำลังเชื่อมโยงอยู่กับเหมืองทองอัครว่ามีความเชื่อมโยงกับนายกฯอย่างไร

จากนั้นนายอิทธิพล อภิปรายต่อว่า น.ส.จิราพร พูดถึงขนาดจะเอาพล.อ.ประยุทธ์ ออกจากบ้านหลวง ไปใช้น้ำฟรี ไฟฟรี กินข้าวฟรีในเรือนจำ แต่พอพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ตั้งแต่นายเศรษฐา ก็เอาคนของพรรครวมไทยสร้างชาติ มาเป็นรมว.อุตสาหกรรม ดูแลคดีเหมืองทองอัครา คอยสกัดหน้าระวังหลังให้กับพล.อ.ประยุทธ์​ มาสมัยน.ส.แพทองธาร ก็ยังเอาคนจากพรรครวมไทยสร้างชาติ มาดูแลต่ออีก อย่างนี้หมายความว่าอย่างไร เอาคนของพล.อ.ประยุทธ์มาคุมกระทรวงที่พล.อ.ประยุทธ์เคยกระทำผิดไว้ แบบนี้เมื่อไหร่พล.อ.ประยุทธ์ จะได้เข้าคุก เมื่อไหร่จะได้ทำอย่างที่พูดไว้ ตนว่าชัดเจนไม่มีการเอาพล.อ.ประยุทธ์เข้าคุก มีแต่ช่วยกันหลับหูหลับตา ตั้งเครือข่ายของพล.อ.ประยุทธ์มาช่วยเหลือกันให้พ้นผิด ถ้ายอมกลืนน้ำลายตัวเองแบบนี้มีเหตุผลเดียวเป็นดิลจัดตั้งรัฐบาลถ้าพรรคเพื่อไทยต้องการเป็นรัฐบาล ถ้านายกฯต้องการให้คนในครอบครัวกลับบ้านก็ต้องยอมยกเก้าอี้กระทรวงอุตสาหกรรม ให้กับพรรคร่วมไทยสร้างชาติ


“นี่เป็นการเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติแลกกับผลประโยชน์ส่วนตน ท่านนายกแพทองธาร ท่านทรยศหักหลังประชาชนที่เขาเคยเชื่อท่าน ท่านก็รู้ว่าท่านรมต.น้ำจิราพร เคยพูดไว้ว่าถ้าพล.อ.ประยบุทธ์ หลุดจากตำแหน่งนายกฯเเมื่อไหร่ จะดำเนินคดีทันที เมื่ออำนาจรัฐอยู่ในมือพรรคเพื่อไทยเมื่อไหร่จะตั้งกรรมการสอบกรณีเหมืองทองอัคราทันที” นายอิทธิพล กล่าว

ทำให้นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกขึ้นประท้วงว่า การเอ่ยชื่อบุคคลภายนอกไม่เหมาะสม ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯปัจจุบัน ไม่ใช่อภิปรายอดีตนายกฯ วันนี้ท่านพูดถึงบุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนที่คนไทยทั้งประเทศยังคิดถึงท่านอยู่ สร้างคุณงามความดีไว้เยอะแยะ เพราะฉะนั้นท่านควรจะใช้คำอื่น ไม่เช่นนั้นสภาแห่งนี้ก็ไม่ราบรื่น เพราะหากเอ่ยตลอดตนคิดว่าสส.พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 คนก็ประท้วงไม่หยุด ตนไม่คิดจะประท้วง เพราะให้เกียรติแต่มันทนไม่ไว้จริงๆ

จากนั้นนายอิทธิพล อภิปรายต่อว่า ใกล้จะครบ 2ปีแล้ว แต่ไม่เห็นนายกฯทำอะไรเลย เพราะอะไร ท่านก็รู้ว่าจะเอาผิดตามกฎหมาย หรือพวกท่านพูดเอามัน หรือเป็นการพูดเพ่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง แต่ที่นายกฯไม่ทำเพราะนี่เป็นหนึ่งดิล ที่เอาผลประโยชน์ของชาติไปช่วยคนผิดเพื่อแลกผลประโยชน์ทางการเมือง

ทั้งนี้ สส.พรรคร่วมไทยสร้างชาติ ได้ลุกขึ้นประท้วงเป็นระยะ ที่นายอิทธิพล เอ่ยชื่อพล.อ.ประยุทธ์ อาทินายวิชัย สุดสวาทดิ์ สส.ชุมพร ประท้วงว่า ไม่ทราบว่าท่านต้องเอ่ยชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นรัฐบาลที่แล้ว ใช้คำนี้ก็ได้ เอ่ยชื่อถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ เอ่ยชื่อถึงพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก และตอนนี้โลกโซเชียลฯ​ถ้าเปิดดู พล.อ.ประยุทธ์เป็นไอดอลของทุกคนอยู่ จึงไม่น่าเอามาอภิปราย เพราะพล.อ.ประยุทธ์ไปอยู่ที่อื่นแล้ว ทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองอยู่ ไม่สมคควรเอามาอภิปราย ขอให้ถอนคำพูด พล.อ.ประยุทธ์ ออก ทำนายภราดร วินิจฉัยถ้า การอภิปรายถ้าหลีกเลี่ยงชื่อบุคคลได้ก็ขอให้เลี่ยง การอภิปรายจะได้ราบรื่น

จากนั้นนายอิทธิพล อภิปรายต่อว่า ต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยของนายกฯ พูดดักคอเอาไว้ตอนนั้นได้แม่น เพราะในที่สุดของรัฐบาลที่แล้วก็ได้อนุญาตให้ไปสำรวจและทำเหมืองที่แหล่งสุวรรณ และแหล่งโชคดี อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งทั้งสองพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนและเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่งเรื่องนี้น.ส.จิราพร เคยอภิปรายไว้เองกลางสภาฯ และยังมีการลักไก่หลังจากยุบสภาในวันที่ 17 มี.ค.66 เพียง 6 วันต่อมา รัฐบาลที่แล้วได้มีคำสั่งให้อนุญาตให้เมืองทองอัครากลับมาทำการได้เหมือนเดิม ซึ่งหากเป็นแบบนี้ข้อกล่าวหาของตนตรงไปตรงมา นายกฯก็รู้ว่าการอนุญาตให้เข้าไปสำรวจ และไปทำเหมืองที่แหล่งสุวรรณและแหล่งโชคดี ทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติพื้นที่ป่าสงวนซึ่งทำไม่ได้พ.ร.บ.แร่ ในเมื่อนายกฯ รู้ว่าทำเช่นนี้ผิดกฎหมาย แล้วทำไมพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเกือบ 2 ปี ถึงยังไม่ได้เอาผิดกับใครเลย

“พรรคของท่านก็พูดเองกับปากว่าผิดกฎหมาย แต่แน่นอนว่านายกฯ คงไม่เอาผิดกับใครเหมือนเดิม เพราะเป็นดีลจะตั้งรัฐบาล ที่จะไม่ไปสืบสาวราวเรื่อง ถ้าไปเพิกถอน ใบอนุญาตทำเหมืองก็เท่ากับว่ามีคนทำผิดกฎหมาย เดี๋ยวดีลจัดตั้งรัฐบาลจะล่ม ดังนั้นรัฐบาลนายกฯแพทองธาร ก็คงปล่อยให้มีการหาผลประโยชน์จากทรัพยากรแร่ของเราแบบผิดกฎหมายต่อไป ผมจึงไม่อาจไว้วางใจนายกฯ ที่เห็นผลประโยชน์ส่วนตนสำคัญกว่าผลประโยชน์ของชาติ เพราะท่านไม่มีความมุ่งมั่นที่จะปิดสวิตช์ 3 ป.ไม่ปิดสวิตช์สว. คนไทยยังไม่มีกินมีใช้ รัฐบาลนายกฯแพทองธาร ไม่มีเกียรติ ศักดิ์ศรีพอ ที่จะให้ประชาชนเชื่อมั่นได้” นายอิทธิพล กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป่วนปัตตานี! ลอบบึ้มชุด รปภ.งานกีฬา อบต.น้ำดำ เจ็บ 4 นาย

21 ก.ค.- ป่วนงานกีฬา อบต.น้ำดำ ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาฯ ขณะรักษาความปลอดภัย บาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 21 ก.ค.68 เมื่อเวลา 16.50 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิด ทำให้ อส.ชคต.น้ำดำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย อาการหูอื้อ ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุงยางแดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว กำลังรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ ระหว่างทางได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดียทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

21 ก.ค.- “แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดีย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ถามเป็นของเขาได้อย่างไร เหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงกัมพูชา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังร่วมงานแถลงข่าวทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนางสาวแพทองธาร ตอบสั้นๆ กรณีที่มีรายงานข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมในวันพรุ่งนี้ว่า “ไม่ทราบเลยค่ะ ” ส่วนวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีอะไรพูดเป็นพิเศษกับผู้เข้าร่วมงานหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า “ให้รอฟัง” เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาระบุว่ามีส่วนร่วมในการคิดนโยบาย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” นางสาวแพทองธาร นิ่งคิดก่อนที่จะหันไปถามนายสรวงศ์ ว่า “เป็นของเขาได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเขาเคลมว่าเป็นแบบนั้น นางสาวแพทองธาร ยิ้ม นิ่งคิดก่อนที่นายสรวงศ์จะบอกว่า “สื่อไทยต้องเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา” นางสาวแพทองธารจึงพูดต่อว่า “ก็เหมือนที่เขาบอกว่าปล่อยคลิป แล้วก็บอกว่าไม่ได้ปล่อย ใช่ไหม เหมือนกันนั่นแหละ” -สำนักข่าวไทย

มติ มส. เคาะแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง

21 ก.ค.- ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง กรณีการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุที่ผิดพระธรรมวินัย พร้อมกำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยรู้ผลภายใน 10 วัน หากมีหลักฐานชัด และขั้นตอนการสละสมณเพศของพระที่กระทำผิด ย้ำการปรับครั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการจัดการ เพิ่มบทบาทสำนักพุทธฯ แสวงหาข้อมูลและร่วมมือกับหน่วยงานอื่น รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ร่วมแถลงข่าวเปิดเผย ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมวันนี้ โดย รศ.ดร.ชัชพล ระบุว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติม กฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง เพื่อใช้ในการเร่งรัดการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัย หนึ่ง เกี่ยวกับการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุตามพระธรรมวินัย กฎนี้เดิมตราขึ้นปีตั้งแต่ปี 2521 โดยจะมีการเพิ่มเติมที่ให้อำนาจข้าราชการมีส่วนนำเสนอประเด็นได้โดยไม่ต้องรอคณะสงฆ์อย่างเดียว โดยอำนาจวินิจฉัยยังเป็นคณะสงฆ์ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ จะมีส่วนในการสนับสนุนข้อมูล พยานหลักฐาน ช่วยเร่งรัดกระชับกระบวนการให้จัดการได้ไวขึ้น โดยร่างกฎมหาเถรมาคมเรื่องลงนิคหกรรม ที่จะบังคับใช้เพิ่มเติมใหม่ จะมีการเพิ่มเติมหมวด โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติเมื่อปรากฏหลักฐานพระสงฆ์กระทำผิดชัดแจ้ง เช่น แบ่งเป็นในการพิจารณาพระภิกษุที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระธรรมวินัย เนื่องจากเสพเมถุน หรือต้องอาบัติปาราชิกอื่นๆ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]