นนทบุรี 18 ก.ค. – อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยยอดจดทะเบียนเดือน มิ.ย.เติบโตต่อเนื่อง ส่งผลยอดรวม 6 เดือนแรกปีนี้ยังขยายตัวตามปัจจัยหลายด้าน มั่นใจยอดจดทั้งปีได้แน่ 80,000 ราย
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยตัวเลขยอดการจดทะเบียนธุรกิจเดือนมิถุนายน 2561 และครึ่งปีแรก 2561 (ม.ค.-มิ.ย.) ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศเดือนมิถุนายน 2561 จำนวน 6,514 ราย เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 5,865 ราย เพิ่มขึ้น 649 ราย คิดเป็นร้อยละ 11 และเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2560 จำนวน 6,525 ราย ลดลง 11 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.2 ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 595 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 394 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และอันดับ 3 ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร 195 ราย คิดเป็นร้อยละ 3
ขณะที่มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนมิถุนายน 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 24,589 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 21,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,499 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17 และเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2560 จำนวน 40,916 ล้านบาท ลดลง 16,327 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 40 ส่วนตัวเลขธุรกิจเลิกประกอบกิจการ 1,392 ราย เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 1,014 ราย เพิ่มขึ้น 378 ราย คิดเป็นร้อยละ 37 และเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2560 จำนวน 1,548 ราย ลดลง 156 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 โดยธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 134 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 รองลงมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 84 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และมูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ 8,486 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 4,432 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,054 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 91 และเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2560 จำนวน 8,084 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 402 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5
ทั้งนี้ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศครึ่งปีแรก 2561 จำนวน 37,548 ราย เมื่อเทียบกับครึ่งปีหลัง 2560 จำนวน 38,575 ราย ลดลง 1,027 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 และเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก 2560 จำนวน 35,942 ราย เพิ่มขึ้น 1,606 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 3,458 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2,211 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร 1,006 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ หากดูมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ครึ่งปีแรก 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 142,872 ล้านบาท เมื่อเทียบกับครึ่งปีหลัง 2560 จำนวน 355,409 ล้านบาท ลดลง 212,537 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 60 และเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก 2560 จำนวน 164,281 ล้านบาท ลดลง 21,409 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13 โดยจำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ 6,289 ราย เมื่อเทียบกับครึ่งปีหลัง 2560 จำนวน 14,963 ราย ลดลง 8,674 ราย คิดเป็นร้อยละ 58 และเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก 2560 จำนวน 6,481 ราย ลดลง 192 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 651 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.73 รองลงมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 420 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.12 และธุรกิจค้าสลาก 176 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.47 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม สิ้นเดือนมิถุนายน 2561 ธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ 704,249 ราย มูลค่าทุน 17.78 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 184,302 ราย คิดเป็นร้อยละ 26.17 บริษัทจำกัด 518,742 ราย คิดเป็นร้อยละ 73.66 และบริษัทมหาชนจำกัด 1,205 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.17 โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.- มิ.ย.61) มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท 37,548 ราย เพิ่มขึ้น 1,606 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-มิ.ย.60) ซึ่งมี 35,942 ราย ทิศทางสอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวอย่างชัดเจนจากภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว
ด้านการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มความเชื่อมั่นที่ดีจากการลงทุนที่กระจายตัวแต่ละภูมิภาค หลังจากรัฐบาลเร่งรัดโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง และด้านการบริโภคภาคเอกชนได้รับปัจจัยบวกจากโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ อาทิ โครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐของกระทรวงพาณิชย์ที่จะกระจายเม็ดเงินจากการรับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแบบใช้โทรศัพท์มือถือ หรือแอพพลิเคชัน “ถุงเงินประชารัฐ” จากเดิมที่ใช้จ่ายซื้อสินค้าที่มีเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) เท่านั้น โดยเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2561 และผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในวงกว้างมากขึ้นปีนี้จะช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อย่างดี กรมฯ จึงประมาณการการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจตลอดปี 2561 ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 80,000 รายได้อย่างแน่นอน. -สำนักข่าวไทย