ที่สุดแห่งปี 66 ญี่ปุ่นเบอร์ 1 ลงทุนในไทยต่อเนื่อง

นนทบุรี 23 ม.ค.-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผย“ที่สุดแห่งปี 66 ด้านการลงทุนในประเทศไทย”นักลงทุนไทยแห่จัดตั้งธุรกิจใหม่ ทะลุ 8.5 หมื่นราย ทุนจดทะเบียนรวมกว่า 5.6 แสนล้านบาท ขณะที่ต่างชาติหอบเงินลงทุนเข้าไทย แตะ 1.3 แสนล้านบาท ญี่ปุ่น นำโด่งเบอร์ 1 คาดปี 67 เศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่อง ปัจจัยบวกสนับสนุนการลงทุน


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ที่สุดแห่งปี 2566 ด้านการลงทุนในประเทศไทย”พบว่า ในปี 2566 มีนักลงทุนไทยจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 85,300 ราย ถือว่าสูงที่สุดในรอบสิบปี (2557-2566) เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 8,812 ราย หรือ เพิ่มขึ้น 12% มูลค่าทุน 562,469.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 132,640.83 ล้านบาท หรือ 31% โดยธุรกิจที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรกคือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 6,524 ราย ทุน 13,236.72 ล้านบาท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 6,393 ราย ทุน 29,289.12 ล้านบาทและธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 4,0001 ราย ทุน 8,046.23 

โดยการจัดตั้งธุรกิจใหม่ 85,300 รายในปี 2566 มีการจัดตั้งในกรุงเทพมหานคร มากที่สุด 25,120 รายและภูมิภาค 60,180 ราย ซึ่งภาคกลางมีสัดส่วนการจัดตั้งธุรกิจสูงที่สุด 17,581 ราย รองลงมาคือภาคใต้ 11,675 รายและภาคตะวันออก 10,948 ราย สำหรับพื้นที่ที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจสูงที่สุดในกรุงเทพฯคือเขตวัฒนา 1,632 ราย เขตห้วยขวาง 1,277 ราย และเขตคลองสามวา 993 ราย ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัด จังหวัดชลบุรี มีการจัดตั้งธุรกิจสูงที่สุด 7,370 ราย จังหวัดภูเก็ต 4,983 รายและจังหวัดนนทบุรี 4,583 ราย


ทั้งนี้ มีประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการในปี 2566 จำนวน 23,380 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 1,500 ราย มูลค่าทุนเลิกประกอบกิจการ 160,056.48 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 33,008.08 ล้านบาท ประเภทธุรกิจที่เลิกกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 2,166 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,146 ราย และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 699 ราย

ส่วนประเทศที่เข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยในปี 2566  อันดับ 1 คือ ญี่ปุ่น 137 ราย เงินลงทุน 32,148 ล้านบาท คิดเป็น 25.2% ของเงินลงทุนทั้งหมด อันดับ 2 สิงคโปร์ 102 ราย เงินลงทุน 25,405 ล้านบาท อันดับ 3  สหรัฐอเมริกา 101 ราย เงินลงทุน 4,291 ล้านบาท อันดับ 4 จีน 59 ราย เงินลงทุน 16,059 ล้านบาท และอันดับ 5 ฮ่องกง 34 ราย เงินลงทุน 17,325 ล้านบาท

สำหรับประเภทธุรกิจที่นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาประกอบธุรกิจในเมืองไทย คือ บริการรับจ้างผลิต จำนวน 136 ราย ทุน 42,644 ล้านบาท บริการด้านคอมพิวเตอร์ จำนวน 68 ราย ทุน 1,434 ล้านบาท และบริการให้คำปรึกษา แนะนำ บริหารจัดการ จำนวน 62 ราย ทุน 7,803 ล้านบาท ทางด้านประเทศที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซีของไทย มากที่สุด คือ ญี่ปุ่น 44 ราย ทุน 7,053 ล้านบาท อันดับ 2 จีน 30 ราย ทุน 4,128 ล้านบาทและฮ่องกง 10 ราย ทุน 14,573 ล้านบาท


อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า คาดการณ์ยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ในปี 2567 จะมีตัวเลขการจัดตั้งธุรกิจใหม่อยู่ที่ 90,000-95,000 ราย เพิ่มขึ้น 5-10% โดยจะมีนักลงทุนชาวต่างชาตินำเงินเข้าลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็น 1.3-1.4 แสนล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 5-10% จากปี 66เป็นต้น.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร