ออกหมายจับแล้ว 2 ราย เรือฟินิกซ์ล่มเกาะเฮ

ภูเก็ต 13 ก.ค.- “พล.ต.อ.ศรีวราห์” นำทีมลุยตรวจบริษัทต่อเรือฟินิกซ์ที่ล่มเกาะเฮ พบตั้งและประกอบกิจการไม่ได้รับอนุญาต ส่วนการทำทัวร์สอบสวนแล้วไม่เข้าข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญ ล่าสุดศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับ “เจ้าของ–ช่างเครื่อง” เรือฟินิกซ์


เมื่อเวลา 15.00 น. (13 ก.ค.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายสุรัฐิ ศิริไสยาสน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต นายหิรัญวัตติ์ สืบกระพันธ์ นิติกรชำนาญการ กรมเจ้าท่า พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต และสำนักงานประกันสังคมจังหวัด ร่วมตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่งย่านถนนท่าเรือใหม่ ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งรับจ้างต่อเรือฟินิกซ์ และคานเรือของอู่ต่อเรือที่ ม.1 ต.รัษฎา อ.เมือง พบว่าบริษัทที่รับจ้างต่อเรือ จัดตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 มาตรา 12 นอกจากนี้ ยังมีความผิดเกี่ยวกับประกันสังคม เนื่องแจ้งจำนวนลูกจ้างไม่ตรง

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ พบว่าการทำทัวร์ของเรือฟินิกซ์ไม่เข้าข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญ ลูกทัวร์ที่มาต่างก็ซื้อทัวร์กันมาเอง ไม่มีการบังคับให้ต้องไปซื้อสินค้า หรือกินข้าว ตามที่บริษัททัวร์กำหนด เพราะฉะนั้นทัวร์ดังกล่าวจึงไม่เข้าข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญ และยังไม่พบข้อมูลว่ามีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง 


ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีเหตุเรือล่มว่า หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ได้รับคำร้องทุกข์ไว้ จำนวน 3 คดี คือ 1. คดีอาญาที่ 1104/2561 ดำเนินคดีกับกัปตันเรือเซเรนาต้า และผู้ทำหน้าที่ปล่อยเรือในความผิดฐาน“กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส” 

2. คดีอาญาที่ 1105/2561 ดำเนินคดีกับกัปตันเรือฟินิกซ์ ในความผิดฐาน “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้กัปตันเรือฟินิกซ์ทราบแล้ว เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา

3. คดีอาญาที่ 1114/2561 กรณีชาวรัสเซีย 2 คน ขับเจ็ทสกีล่มวันที่ 5 ก.ค. ดำเนินคดีกับชายสัญชาติรัสเซีย อายุ 25 ปี ในความผิดฐาน “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” โดยพนักงานสอบสวนได้ทำการเปรียบเทียบปรับ เป็นเงิน 1,000 บาท คดีอาญาเป็นอันเลิกกัน


ล่าสุด (13 ก.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัดและเชื่อได้ว่ามีผู้กระทำความผิดเพิ่มเติมในคดีอาญาที่ 1105/2561 จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดภูเก็ต และศาลได้อนุมัติออกหมายจับ 2 ราย คือ เจ้าของเรือฟินิกซ์ และต้นกลเรือ ในความผิดฐาน “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง