ออกหมายจับแล้วเจ้าของอาคารถล่มที่ภูเก็ตคนงานดับ 7

ภูเก็ต 23 พ.ย.- ศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับแล้วเจ้าของอาคารก่อสร้าง ไม่มาพบพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง และเชื่อได้ว่าจะหลบหนี หลังเกิดเหตุอาคารถล่มทับคนงานดับ 7 เจ็บ 2 เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่กระทรวงแรงงานเร่งเยียวยาผู้ประสบเหตุทั้ง 9 ราย 


กรณีอาคารชั้นเดียวอยู่ระหว่างการก่อสร้างในพื้นที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ถล่มทับคนงานเสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเทศบาลตำบลศรีสุนทรได้สั่งระงับอนุญาตก่อสร้างก่อนแล้วเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังมีการฝ่าฝืนดำเนินการต่อ หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง เร่งรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าการก่อสร้างอาคารนั้นไม่ใช้มาตรฐานวิชาชีพวิศวกรรมจนเป็นเหตุให้พื้นล่างทรุดตัว เสาไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้ จึงมีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับกรรมการผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารดังกล่าวใน 2 ข้อหา คือ กระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิตและเป็นอันตรายสาหัส รวมถึง ผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นในการสั่งระงับการก่อสร้าง 


ขณะที่เจ้าของอาคารดังกล่าวไม่มาให้ปากคำหรือติดต่อพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด อีกทั้งหลังเกิดเหตุไม่ได้ให้ความช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวกแก่ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ สำนักงานปิดทำการ จึงเป็นไปได้ว่าจะมีพฤติกรรมหลบหนี พนักงานสอบสวน สภ.ถลาง จึงยื่นขออำนาจศาลจังหวัดภูเก็ตและอนุมัติหมายจับเรียบร้อยแล้วตามหมายจับเลขที่ 354 /2562 ลงวันที่ 22 พ.ย. ข้อหากระทำความผิดฐาน การกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายสาหัส และได้หรือน่าจะกระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันเชื่อว่าจะหลบหนี ตามที่พนักงานสอบสวน สภ.ถลาง ยื่นขอ


ส่วนการเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ นายวรรณรัตน์ ศรีสุกใส ผู้อำนวยการกองตรวจความปลอดภัยแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในฐานะเลขานุการคณะทำงานการเกิดอุบัติภัยหรือประสบอันตรายจากการทำงานกรณีร้ายแรงกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้ประกันสังคมจังหวัดภูเก็ตกำลังเร่งตรวจสอบสิทธิต่าง ๆ เกี่ยวกับการเยียวยา ทราบว่ามีนายจ้างประมาณ 3 ราย ซึ่งจะเรียกนายจ้างเข้ามาสอบสวนตามระเบียบเพื่อดำเนินการชดเชยเยียวยาให้กับผู้ประสบเหตุทั้ง 9 ราย ตามสิทธิประกันสังคม โดยผู้เสียชีวิตแต่ละรายจะได้เงินชดเชยประมาณ 700,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บจะมีการดูแลค่ารักษาพยาบาล และชดเชยในส่วนของการหยุดงาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง