ทำเนียบฯ 10 ก.ค. – ครม.ไฟเขียวภาษีลาภลอยร้อยละ 5 จากราคาประเมินที่ดิน คอนโดฯ อาคาร มูลค่าเกิน 50 ล้านบาท เฉพาะใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ กำหนดรัศมี 5 กิโลเมตร ทางรถไฟฟ้า ทางด่วน ท่าเรือ
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ หรือภาษีลาภลอย เพื่อจัดเก็บภาษีจากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ผู้ครอบครองทรัพย์ ที่ดิน ห้องชุด อาคารพาณิชย์ เก็บเฉพาะในส่วนมูลค่าเกิน 50 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์เท่านั้น รวมทั้งผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรรรอการจำหน่าย โดยตั้งอยู่รอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ท่าเรือ สนามบิน โครงการทางด่วนพิเศษ หรือโครงการอื่นของรัฐ
ส่วนการครอบครองเพื่ออยู่อาศัยและการเกษตรได้รับการยกเว้นภาษีประเภทดังกล่าว เพื่อสร้างความเป็นธรรมและปฏิรูประบบภาษีของประเทศให้สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เหมือนกับต่างประเทศ คาดว่าไม่มีกระทบกับประชาชนทั่วไป เพราะเมื่อก่อสร้างโครงการราคาที่ดินและทรัพย์ขยับราคาสูงขึ้น 5-10 เท่าตัว จึงควรเก็บเข้ารัฐเพื่อนำมาพัฒนาโครงการอื่นเพิ่มเติม เริ่มคำนวณการจัดเก็บภาษีจากวันเริ่มดำเนินก่อสร้างโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ จนถึงวันครบกำหนดก่อสร้าง ด้วยจัดเก็บภาษีเพียงครั้งเดียวจากผู้ครอบครองทรัพย์สิน เมื่อราคาเปลี่ยนแปลงจากโครงการเสร็จ รวมทั้งยังจัดเก็บจากราคาส่วนต่างการซื้อขายที่ดินและห้องชุดเมื่อซื้อขายโอนเปลี่ยนมือ ไม่ได้เป็นการจัดเก็บภาษีประจำปี แนวทางการจัดเก็บจากผู้ขายที่ดินหรือห้องชุดเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี เพราะเป็นผู้มีรายได้จากการขาย ในกรณีห้องชุดไม่สามารถคำนวณส่วนต่างของมูลค่าห้องชุดได้ เนื่องจากไม่มีราคาประเมินห้องชุดให้คำนวณส่วนต่างดังกล่าวเท่ากับร้อยละ 20 ของมูลค่าห้องชุด
ทั้งนี้ กำหนดแนวทางการจัดเก็บภาษีแบ่งเป็น 2 กรณี 1.ระหว่างก่อสร้างโครงการ เก็บภาษีจากการขายหรือโอนกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือที่ดินหรือห้องชุด ซึ่งตั้งอยู่รอบพื้นที่โครงการฯ 2.เมื่อการก่อสร้างโครงการฯ เสร็จเก็บภาษีเพียงครั้งเดียวจากทรัพย์สินที่ดินหรือห้องชุด เฉพาะส่วนที่ใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท รวมถึงห้องชุดของเอกชนเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รอจำหน่าย ยังไม่ได้เปลี่ยนมือ กำหนดขอบเขตไว้ไม่เกินรัศมี 5 กิโลเมตรรอบพื้นที่โครงการฯ นอกจากนี้ ยังกำหนดให้คณะกรรมการกำหนดพื้นที่จัดเก็บภาษี ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานและผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อออกประกาศกำหนดพื้นที่ที่จะจัดเก็บภาษีแต่ละโครงการฯ เพราะจะมีทำเลแตกต่างกัน มอบหมายให้กรมที่ดินและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีโครงการฯ ตั้งอยู่ดำเนินการเก็บภาษี โดยจะเก็บเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ไม่มีผลย้อนหลัง.-สำนักข่าวไทย