สนามทดสอบยางล้อเฟส 1 เสร็จปลายปีนี้

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – กระทรวงอุตสาหกรรมระบุศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC)  เฟส 1 จะเสร็จรองรับการลงทุนอีอีซีตามแผน เริ่มทดสอบได้ในปีนี้


นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเดินทางไปติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (Automotive and Tyre Testing, Research and Innovation Center – ATTRIC) ว่า ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ เฟส 1 จะเสร็จสมบูรณ์และเริ่มให้บริการปีนี้แน่นอน โดยให้บริการทดสอบยางล้อตามมาตรฐาน UN R117 ทดสอบรายการเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน (Noise) การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก (Wet Grip) และความต้านทานการหมุน (Rolling Resistance) ของยางล้อ  สำหรับอาคารสำนักงานและระบบสาธารณูปโภคจะเสร็จสมบูรณ์ปี 2562

ส่วนระยะ 2 ส่วนทดสอบยานยนต์และชิ้นส่วน ประกอบด้วย สนามทดสอบกลางแจ้ง 5 สนาม คือ สนามทดสอบสมรรถนะยานยนต์ (Long Distance and High Speed) สนามทดสอบระบบเบรก (Brake Performance) สนามทดสอบระบบเบรกมือ (Park Brake) สนามทดสอบเชิงพลวัต (Dynamic Platform) และสนามทดสอบการยึดเกาะถนนขณะเข้าโค้ง (Skid-Pad) อยู่ระหว่างการออกแบบและการปรับพื้นที่เพื่อรองรับการก่อสร้างสนามทดสอบจะเสร็จสมบูรณ์ปี 2564  


สำหรับศูนย์ทดสอบฯ นี้ เป็นศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งแรกของอาเซียนที่รัฐบาลไทยผลักดันให้เกิดขึ้น เพื่อรองรับการลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เร่งขับเคลื่อนไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ของภูมิภาคอาเซียน โดยต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่การเป็น “Super Cluster” อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และ “อุตสาหกรรม 4.0” ตลอดจนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์ฯ ภายในกรอบวงเงิน 3,705.7 ล้านบาท บนพื้นที่ 1,235 ไร่ บริเวณเขตสวนป่าลาดกระทิง ตำบลลาดกระทิง อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา และจะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาการมาตรฐาน การวิจัยและนวัตกรรมของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนและยางล้อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับให้เป็นอุตสาหกรรม 4.0 ตลอดจนสนับสนุนให้มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในประเทศ ส่งเสริมการส่งออกและดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้การใช้ยางพาราในประเทศเพิ่มขึ้นยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวสวนยางกว่า 6 ล้านคน ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น รวมถึงเป็นโครงสร้างพื้นฐานส่งเสริมให้ไทยเป็นประเทศเป้าหมายของการลงทุนโดยเฉพาะอีอีซี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5  มูลค่าที่คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 300,000 ล้านบาท 

นายอภิจิณ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทน เลขาธิการ สมอ. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2561 ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารศูนย์ทดสอบฯ  ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างสนามทดสอบและอาคารของศูนย์ทดสอบฯ  หากโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติเสร็จสมบูรณ์จะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการจะประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากปีนี้ไม่ต้องส่งผลิตภัณฑ์ไปทดสอบและรับรองที่ต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยดึงดูดนักลงทุนอุตสาหกรรมการแปรรูปยางพาราให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ด้วยความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านการทดสอบและการรับรอง ด้านการวิจัยและพัฒนา ด้านอุตสาหกรรมต่อเนื่อง รวมถึงแหล่งวัตถุดิบ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการพร้อมเปิดให้บริการครบวงจรปี 2564. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

“มาดามอ้อย” ยันไม่ยอมความ-เจรจา ปมเงิน 71 ล้าน

“มาดามอ้อย” เปิดใจครั้งแรก สบายใจหลังเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ยืนยันไม่ได้ให้เงิน 71 ล้านบาท โดยเสน่หา รับใจสลาย จะไม่ยอมความหรือเจรจา

กต.เผยหญิงไทยเสียชีวิต 1 ราย เหตุไต้ฝุ่นกองเร็ยถล่มไต้หวัน

ไต้ฝุ่นกองเร็ย คร่าชีวิตคนไทย 1 ราย ในไต้หวัน พบเป็นหญิงชาวสุโขทัย กต. แถลงเสียใจสุดซึ้งกับครอบครัว ย้ำประสานงานอย่างใกล้ชิด ย้ำ ก.แรงงาน แจ้งญาติเรียบร้อยแล้ว เผยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังโดยสารกับนายจ้าง