กรมอุทยานฯ สั่งคุมเข้มท่องเที่ยวถ้ำทั่วประเทศ

ยธ.29 มิ.ย.-กรมอุทยานฯ สั่งคุมเข้มและตรวจสอบสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ทุกแห่งเพื่อป้องกันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หากจุดใดมีความเสี่ยงสามารถสั่งปิดการท่องเที่ยวได้ทันที


นายเฉลิมชัย ปาปะทา รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  กล่าวถึง มาตรการในการดูแลพื้นที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติในเขตอุทยานแห่งชาติฯ ว่า กรมอุทยานฯมีพื้นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งทะเลน้ำตกถ้ำและผืนป่า ซึ่งได้มีมาตรการในการดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ทั้งในการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวต่างปกติและการรับมือกับภาวะฉุกเฉินที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ เช่นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลในฤดูมรสุมก็จะมีการสั่งปิดการท่องเที่ยวในบางช่วง สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตกก็จะมีการเฝ้าระวังเรื่องปริมาณน้ำหรือน้ำป่า ซึ่งหากปริมาณน้ำฝนมีมากผิดปกติก็จะสั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตกทันที 


ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นถ้ำ ก็มีมาตรการในการดูแลความปลอดภัยเข้มงวดเช่นเดียวกับ สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ และจะมีป้ายบอกเส้นทาง มีสัญลักษณ์แสดงจุดอันตราย ป้ายห้ามต่างๆรวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีคอยให้คำแนะนำ นำเที่ยวในบางจุด  รวมทั้งมีชุดกู้ภัยของอุทยานที่เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นทันทีที่เกิดเหตุ และมีการติดตามเฝ้าระวังปริมาณน้ำฝนและเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อประกอบการพิจารณาในการห้ามเข้าไปท่องเที่ยวในถ้ำนั้นๆ โดยการเกิดเหตุในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นถ้ำหลักๆไม่ได้เกิดจากปริมาณฝนที่ตกในบริเวณถ้ำนั้น แต่จะเกิดจากน้ำป่าที่ไหลหลากมาจากพื้นที่อื่นเข้ามาภายในถ้ำ เช่นเดียวกับ เหตุ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวงในครั้งนี้

ทั้งนี้ แม้กลุ่มอุทยานจะมีมาตรการที่เข้มงวดอยู่แล้วแต่ภายหลังเกิดเหตุที่ถ้ำหลวงก็ได้มีการสั่งการเป็นพิเศษให้ทุกพื้นที่ที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติโดยเฉพาะถ้ำ ซึ่งมีหลายร้อยแห่งทั่วประเทศ ให้เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการดูแลนักท่องเที่ยวรวมทั้งสำรวจความปลอดภัยในการท่องเที่ยวภายในถ้ำต่างๆ ที่สำคัญต้องติดตามเรื่องของปริมาณน้ำฝน เพื่อประกอบการตัดสินใจปิดถ้ำทันทีที่มีความเสี่ยงเกิดอันตราย ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานการปิด สถานที่ท่องเที่ยวถ้ำในอุทยานใด 


 

ส่วนการให้ความช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงไปให้ความช่วยเหลือต่อเนื่องตั้งแต่เกิดเหตุ และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  รวมทั้งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช  ลงไปบัญชาการด้วยตัวเอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง