2 แขกขาวอาศัยจังหวะพนักงานเผลอ ฉกทองหนักกว่า 5 บาท หนีลอยนวล

สุราษฎ์ร์ธานี 21 มิ.ย.- 2 แขกขาวอาศัยจังหวะพนักงานขายเผลอ ฉกทองน้ำหนัก 5 บาท มูลค่านับแสนบาท จากร้านทองกลางเมืองสุราษฎร์ธานี หนีลอยนวล พบเคยก่อเหตุกลางเมืองหาดใหญ่มาก่อน


เวลา 12.21 น. วานนี้ (20 มิ.ย.) มีชายร่างใหญ่ ลักษณะแขกขาว 2 คน พูดอังกฤษปนไทย เข้ามาซื้อแหวนทองครึ่งสลึง ที่ร้านทองห้างทองแม่มาลี 7 ถนนหน้าเมือง บริเวณตลาดศาลเจ้า เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และพยายามพูดจาต่อรองราคากับพนักงานขาย พร้อมขอดูสร้อยข้อมือน้ำหนัก 5 บาท มูลค่ากว่า 100,000 บาท และฉวยโอกาสพนักงานเผลอฉกไปซุกซ่อนในมือซ้าย และใช้กระเป๋าเงินปิดอำพราง ทั้ง 2 คน ได้พยายามชักชวนคุยให้พนักงานขายเผลอ จนลืมว่าได้ยื่นสร้อยข้อมือดังกล่าว ก่อนจ่ายเงินค่าแหวนทองคำน้ำหนัก 1 สลึง และเดินออกจากร้านไปอย่างแนบเนียน

น.ส.อุทุมพร สินไหม พนักงานขาย กล่าวว่า รู้ตัวว่าสร้อยข้อมือน้ำหนัก 5 บาทหายไปหลังคนร้ายออกจากร้านไปนานประมาณ 1 ชั่วโมง มาทราบอีกทีตอนตรวจเช็กของเวลาประมาณ 14.00 น. มั่นใจว่าถูกชายต่างชาติ 2 คนฉกทองไป จึงตรวจสอบกล้องวงปิดของร้านพบว่าขณะที่คนร้ายทั้ง 2 คนเข้ามาในร้านทำทีขอดูแหวนทองคำรูปหัวใจ น้ำหนัก 1 สลึง ราคา 2,800 บาท ทั้งคู่พยายามพูดคุยต่อรองราคา จากนั้นหนึ่งในคนร้ายก็ชี้ไปที่สร้อยข้อมือน้ำหนัก 5 บาท ขอให้นำขึ้นมาดู ตนจึงหยิบส่งให้ และถูกคนร้ายใส่เสื้อกล้ามสีเหลืองชวนคุยจึงมองไม่เห็น ในขณะที่คนร้ายใส่ยืดสีขาวฉวยโอกาสหยิบสร้อยข้อมือไปไว้ในมือซ้าย และใช้กระเป๋าเงินปิดบัง ก่อนรีบนำเงินออกมาจ่ายค่าแหวนจำนวน 2,500 บาท ตนก็พยายามทวงเงินอีก 300 บาท โดยอีกคนก็พยายามมาเอาเงินในกระเป๋าแล้วแย่งไปจ่ายแทน จากนั้นคนที่ถือสร้อยข้อมือก็ทำทีเดินไปโทรศัพท์ที่หน้าร้าน คนที่อยู่ในร้านก็จ่ายเงินที่เหลือ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินออกไป โดยที่ตนเองก็ลืมสร้อยข้อมือไปเลย


ด้านนางจันทร์ฤดี อัครวิบูลย์ เจ้าของร้านทอง กล่าวหลังจากเผยแพร่ภาพคลิปจากกล้องวงปิดไปในไลน์กลุ่มร้านทอง ได้มีเจ้าของร้านศรีทองที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โทรศัพท์มาบอกว่าจำคนร้ายทั้ง 2 คนได้ว่าเคยไปก่อเหตุฉกนาฬิกายี่ห้อราโดเรือนทองฝังเพชร มูลค่ากว่า 60,000 บาท และคนร้ายที่ใส่เสื้อขาวยังใส่ติดอยู่กับข้อมือ นางจันทร์ฤดียังได้วิงวอนขอความร่วมมือ หากมีผู้พบเห็นช่วยแจ้งให้ตำรวจจับกุมด้วย คาดว่าทั้งคู่หลังก่อเหตุแล้วคงเดินทางออกจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีไปแล้ว หรืออาจเดินสายไปก่อเหตุที่อื่นอีก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”