สำนักข่าวไทย 15 มิ.ย. – กรมสุขภาพจิต เผยผลวิจัย ผู้ต้องขัง พบมีปัญหาสุขภาพจิตและป่วยทางจิต สูงกว่าประชาชนทั่วไป 3 เท่าตัว ติดทั้ง เหล้า ติดสารเสพติด
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นประธานในพิธีถวายผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนปรับปรุงอาคารบริการ และจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้บริการผู้ป่วยจิตเวชเนื่องในโอกาสครบรอบ 47 ปีของการเปิดสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กล่าวว่า ผลการดำเนินการพัฒนาระบบบริการรักษาผู้ต้องขังที่ป่วยทางจิตของสถาบันกัลยาณ์ฯในช่วง 47 ปีที่ผ่านมา สามารถขยายการดูแลสุขภาพจิตผู้ต้องขังในเรือนจำ 142 แห่งร่วมกับกรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลมีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนผู้ป่วยจิตเวชทั่วไป ป้องกันการก่อคดีซ้ำหลังพ้นโทษ และสร้างความปลอดภัยสังคม ข้อมูลในปี 2561 พบว่า มีผู้ต้องขังเข้าถึงบริการกว่า 4,000 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มี 3,300 คน จากผู้ต้องขังที่มีทั่วประเทศเกือบ 3 แสนคน
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อ ผลการวิจัยของสถาบันกัลยาณ์ฯในปี 2560-2561 ในกลุ่มผู้ต้องขังทั้งชายและหญิงจำนวน 600 คนที่อยู่ในเรือนจำ/ทัณฑสถานที่มีความมั่นคงปานกลาง-สูงสุด 10 แห่ง พบว่ามีปัญหาสุขภาพจิตและโรคทางจิตเวชร้อยละ 46 สูงกว่าประชาชนทั่วไปถึง 3 เท่าตัว โดยผู้ชายมีปัญหาร้อยละ 47 ผู้หญิงร้อยละ35 โรคที่พบมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ติดเหล้าและสารเสพติดร้อยละ 30 รองลงมาโรคซึมเศร้าร้อยละ 16 และความเสี่ยงฆ่าตัวตายร้อยละ 16 โดยผู้ต้องขังเกือบ 1 ใน 4 มีโรคทางจิตเวชร่วมด้วย 2 โรคขึ้นไป เช่นใช้สารเสพติดและป่วยเป็นโรคจิตเภท เป็นต้น
ทางด้านนายแพทย์ศรุตพันธุ์ จักรพันธุ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์กล่าวว่า ในการพัฒนาระบบบริการผู้ต้องขังในปี 2561-2562 เน้น 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1. การวิจัยรูปแบบการบำบัดฟื้นฟูผู้ต้องขังที่ป่วยจิตเวชและผู้ต้องขังสูงอายุ โดยสถาบันฯได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล พัฒนาโปรแกรมการจัดกิจกรรมฟื้นฟู เน้นความสอดคล้องตามบริบทของเรือนจำ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย คาดว่าจะนำร่องที่เรือนจำพิเศษธนบุรี หากแล้วเสร็จจะสามารถใช้เป็นโปรแกรมต้นแบบระดับประเทศขยายผลใช้ในเรือนจำทั่วประเทศได้ เรื่องที่ 2. การจัดระบบการตรวจรักษาผู้ต้องขังด้วยการแพทย์ทางไกลหรือเทเลเมดดิซีน (Telemedicine) โดยจิตแพทย์เชี่ยวชาญกับสถานพยาบาลกรมราชทัณฑ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ไม่มีจิตแพทย์ ซึ่งมีผลดี สามารถดูแลผู้ต้องขังที่เรือนจำได้เลย ไม่ต้องพาไปที่โรงพยาบาลซึ่งต่อรายจะต้องเสียค่าใช้จ่ายการดูแล และลดความเสี่ยงการหลบหนี ขณะนี้สามารถดำเนินการในโรงพยาบาลจิตเวช 5 แห่ง ได้แก่ สถาบันกัลยาณ์ฯ รพ.จิตเวชนครพนมราชนครินทร์ รพ.สวนปรุง รพ.พระศรีมหาโพธิ์ และรพ.จิตเวชนครสวรรค์ จะขยายเพิ่มที่เหลืออีก 8 แห่ง.-สำนักข่าวไทย