รัสเซีย 14 มิ.ย.61- ฟุตบอลโลกครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ฟีฟ่านำเทคโนโลยี VAR หรือวิดีโอภาพช้าช่วยผู้ตัดสิน มาใช้
ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย เป็นครั้งแรกที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า จะนำระบบเทคโนโลยีวิดีโอช่วยผู้ตัดสิน หรือ (วีเออาร์) video assistant referee มาใช้เพื่อช่วยในการตัดสิน จุดประสงค์หลักของการใช้ วีเออาร์ ครั้งนี้เพื่อสร้างความโปร่งใสและชัดเจนให้กับผลการตัดสินในการแข่งขันฟุตบอลแต่ละแมตซ์ ซึ่งในอดีตมักมีปัญหาในหลายๆ เกม ไม่ว่าจะเป็นจังหวะฟุตบอลข้ามเส้นประตู หรือแม้การใช้ “หัตถ์พระเจ้า” ของดีเอโก้ มาราโดนา ศูนย์หน้าของทีมอาร์เจนตินา ที่ใช้มือปัดบอลเข้าประตูช่วยให้ทีมอาร์เจนตินาเอาชนะอังกฤษ 2-1 ในฟุตบอลโลก ปี 1986 ซึ่งฟีฟ่าได้มีการทดลองใช้ VAR ในเกมระดับสโมสรและระดับชาติมาแล้วกว่า 1,000 เกม
โดย VAR จะถูกนำมาใช้ในฐานะผู้ช่วยตัดสิน 4 แบบด้วยกัน คือ ลูกเตะนั้นเป็นประตูหรือไม่ได้ประตู, นักเตะทำผิดกติกาและควรได้รับโทษหรือไม่, ผู้เล่นสมควรได้รับใบแดงไหม และเป็นหลักฐานชี้มูลความผิด ส่วนกลไกการทำงานของ VAR มีทั้งหมด 3 ขั้นตอน คือ 1 ในระหว่างแข่งขัน กรรมการอาจแจ้งต่อผู้คุมระบบวีเออาร์หรือผู้คุมระบบวีเออาร์ให้คำแนะนำกับผู้ตัดสินเกี่ยวกับการตัดสินว่าคำตัดสินนั้นควรมีการพิจารณาอีกครั้ง, 2 ถ้ามีข้อสังเกตอะไรที่เกิดขึ้นกับภาพฟุตเทจ ทางผู้คุมระบบ VAR จะแนะนำและทักท้วงผู้ตัดสินผ่านหูฟังของผู้ตัดสิน และ 3 ผู้ตัดสินสามารถตัดสินใจขอเรียกดูภาพฟุตเทจจากระบบวีเออาร์ข้างสนามก่อนที่จะตัดสินในระหว่างการแข่งขันได้ หรือผู้ตัดสินอาจอ้างอิงข้อมูลที่เห็นจากระบบวีเออาร์เพื่อใช้การตัดสินก็ได้ ซึ่งในฟุตบอลโลกครั้งนี้ฟีฟ่าได้ใช้ผู้ตัดสิน 36 คน และผู้ช่วยผู้ตัดสิน 63 คนในการทำหน้าที่ แต่ล่าสุด ฟาฮัด อัล มิร์ดาซี ผู้ตัดสินจากซาอุดีอาระเบีย และมาร์วา เอเดน เรนจ์ ผู้ช่วยผู้ตัดสินจากเคนยาถูกถอนจากการทำหน้าที่ เนื่องจากข้อกล่าวหาบางอย่าง
ส่วนผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่คู่เปิดสนามในค่ำวันนี้ระหว่างรัสเซีย กับ ซาอุดีอาระเบีย เป็น เเนสเตอร์ ปิตานา ผู้ตัดสินจากอาร์เจนตินา วัย 42 ปี.-สำนักข่าวไทย