อิสตันบูล 30 เม.ย.- ชาวตุรกีหรือทูร์เคีย 5 ล้าน 2 แสนคนเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกในการเลือกตั้งทั่วไปและเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ หลายคนเผยว่า จะไม่เลือกประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอานที่มีอำนาจในการปกครองประเทศมานาน 20 ปี
ตุรกีมีประชากรราว 87 ล้านคน ในจำนวนนี้ 5.2 ล้านคนมีอายุถึงเกณฑ์ที่จะได้เลือกตั้งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่แอร์โดอานวัย 69 ปี ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 เมื่อเดือนมีนาคม 2546 ตามด้วยการได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 12 เมื่อเดือนสิงหาคม 2557 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 8 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด ผลสำรวจพบว่า ชาวตุรกีวัย 18-25 ปีที่จะลงคะแนนให้ประธานาธิบดีแอร์โดอานและพรรคเอเคปาร์ตี (AK Party) หรือเอเคพี (AKP) สายเคร่งศาสนามีเพียงร้อยละ 20 เท่านั้น ทำให้นายเคมาล คิลิชดาโรกลู ข้าราชการวัยเกษียณ วัย 74 ปี หัวหน้าพรรครีพับลิกพีเพิลส์และผู้นำฝ่ายค้านที่มีพันธมิตรทั้งหมด 6 พรรคมุ่งหวังว่า จะได้คะแนนเสียงจากคนหนุ่มสาว ผู้สมัครทั้ง 2 คนชูนโยบายยกเลิกภาษีในการซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่และให้แพคเกจอินเทอร์เน็ตฟรี หวังจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนเจนซี (Gen Z) ส่วนผู้สมัครคนที่ 3 ซึ่งเป็นผู้สมัครหน้าใหม่คือนายมูฮาร์เรม อินเจ วัย 58 ปี เป็นนักชาตินิยมที่แยกศาสนาออกจากการปกครอง
วัยรุ่นชายวัย 18 ปีเผยว่า เบื่อหน่ายที่ต้องคิดถึงแต่เรื่องการเมืองทุกวัน หากประธานาธิบดีแอร์โดอานพ้นจากอำนาจแล้ว คนหนุ่มสาวชาวตุรกีจะได้มุ่งหน้าเรียนหนังสือและแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี ขณะที่คนงานโรงงานสิ่งทอชายวัย 21 ปีตำหนิแอร์โดอานว่ามุ่งสร้างท่าอากาศยานแห่งที่ 3 ในนครอิสตันบูลมากกว่าสนใจความเป็นอยู่ของประชาชน ส่วนสตรีวัย 20 ปี ที่อาศัยอยู่ในเขตอนุรักษนิยมที่สุดแห่งหนึ่งในนครอิสตันบูลยืนยันว่า จะไปใช้สิทธิแต่จะไม่นำการเมืองและศาสนามาปะปนกัน และเมื่อแฟนหนุ่มของเธอหยิบยกผลงานความสำเร็จของแอร์โดอานขึ้นมาแย้ง เธอโต้กลับว่า ต่อให้เป็นผู้นำที่ดี ก็ไม่ควรปกครองยาวนานเช่นนี้.-สำนักข่าวไทย