บ่ายนี้ ดีเอสไอ ส่ง พิสิฐชัย ให้กองปราบฯ

สำนักข่าวไทย 12 มิ.ย.–อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่ง ‘พิสิฐชัย’ ให้กองปราบปราม ดำเนินคดีโพสเฟซบุ๊กจับกุมพระสงฆ์คดีเงินทอนวัดบ่ายนี้ 


พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้(12มิ.ย.) ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำตัวนายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ ไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ดำเนินคดีโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จในเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับการดำเนินคดีจับกุมพระสงฆ์ กรณีทุจริตเงินทอนวัดล็อต 4  ทั้งนี้ นายพิสิฐชัย มีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะขอประกันตัวได้ โดยเบื้องต้นสามารถใช้ตำแหน่งประกันตัวเองได้


พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ดีเอสไอในฐานะผู้บังคับบัญชาของนายพิสิฐชัย มีหน้าที่ต้องนำตัวข้าราชการในสังกัดไปมอบให้กองปราบดำเนินคดี ส่วนพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีอาญาในข้อหาอะไรบ้าง ขึ้นอยู่กับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ว่าได้ร้องทุกข์กล่าวโทษอะไรบ้าง


ด้าน พ.ต.ท.ยุทธนา แพรดำ ผู้อำนวยการกองภาษีอากร กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า ในส่วนของดีเอสไอจะดำเนินการตรวจสอบความผิดทางวินัยเท่านั้น  โดยขณะนี้ยังไม่เสร็จ เบื้องต้นนายพิสิฐชัย ยืนยันว่าข้อความที่โพสต์ในเฟซบุ๊กมาจากการรับข่าวสารที่เผยแพร่ในสื่อมวลชน ซึ่งต้องตรวจสอบต่อไปว่ามีการเผยแพร่เนื้อหาข่าวดังกล่าวในสื่อมวลชนจริงหรือไม่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังที่นายพิสิฐชัย โพสต์ข้อความดังกล่าว  อธิบดีฯ มีคำสั่งให้นายพิสิฐชัย พ้นหน้าที่จากกองคดีภาษีอากร ไปปฏิบัติหน้าที่สำนักงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ โดยให้มีผลทันที เนื่องจากการโพสต์ข้อความเนื้อหาเกี่ยวกับคดี ซึ่งไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ และนายพิสิฐชัยไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ทำให้มีผลกระทบต่อหน่วยงานจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม  พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ผู้อำนวยการกองภาษีอากรตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้เชิญผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาให้ข้อมูลทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนายพิสิฐชัยและเจ้าอาวาสวัด และพฤติกรรมที่อาจจะเข้าข่ายองค์ประกอบความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาว่าเป็นความผิดทางวินัย หรือทางอาญาหรือไม่ โดยให้รายงานต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษทราบโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง