กรุงเทพฯ 30 พ.ค.-มีเอกชน 4 รายยื่นวันแรก จ่ายเข้าร่วมประมูลบงกช-เอราวัณสร้างรายได้รัฐ
49 ล้านบาทแล้ว ด้าน บีกริม-เอ็กโก้ –ราชบุรีฯแย้มขยายกิจการทั้งในและต่างประเทศ
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติแจ้งว่าจากที่วันนี้(30
พ.ค.) เป็นวันแรกที่ได้เปิดให้บริษัทที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น
(PQ)สำหรับการสนใจประมูลแหล่งปิโตรเลียมบงกช-เอราวัณ เข้ายื่นเอกสารแสดงความจำนงในการเข้าถึงข้อมูล
พร้อมชำระค่าเข้าร่วมประมูล
และลงนามในสัญญาการรักษาความลับและการใช้ประโยชน์ข้อมูล พบว่า 4 บริษัทเข้ายื่น แบ่งเป็น Operator หรือผู้ดำเนินการ 3 ราย ได้แก่1. บริษัท Chevron Thailand Holdings Ltd. แปลง G1/61 และ G2/61,
2. บริษัท PTTEP Energy Development Company Limited แปลงG1/61 และ G2/61 3. บริษัท Total E&P Thailand แปลง G1/61 และ Partner หรือผู้ร่วมหุ้น 1 รายได้แก่ 1. บริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น
จำกัด (Partner บริษัท Chevron Thailand Holdings Ltd.) แปลง G1/61 และ G2/61 ซึ่งกรมฯได้เก็บค่าเข้าร่วมประมูลจากทั้ง 4 บริษัทในวันนี้ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 49 ล้านบาท
และจะเปิดให้เข้ายื่นเอกสารแสดงความจำนง ในการเข้าถึงข้อมูลฯถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2561 เวลา 08.30 – 16.30 น.
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
บริษัทฯได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 8 โครงการ
ในจังหวัดนครปฐม และพระนครศรีอยุธยา กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุน
600 ล้านบาท โดยซื้อจากบริษัทยันฮี โซล่า เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนในโครงการ
โดยบริษัทฯ จะเข้าเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจาก 49% เป็น 100% ในนามบริษัท บี.กริม
ยันฮี โซลาร์ จำกัด หลังจากปรับโครงสร้างการถือหุ้นแล้วเสร็จ BGRIM สามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันทีในไตรมาส
3/61 โดยโครงการนี้มีสัญญาขายไฟให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นเวลา 25
ปี
จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วตั้งแต่สิ้นปี 2558 มีรายได้ ปีละกว่า 500
ล้านบาท มี EBITDA ปีละกว่า 400 ล้านบาท
และกำไรสุทธิปีละกว่า 100 ล้านบาท นอกจากนี้ ภายในเดือนมิถุนายน 2561 บริษัทฯ
เตรียมลงนามสัญญาร่วมทุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในเวียดนามและในอาเซียนขนาดกำลังการผลิต
420 เมกะวัตต์ ร่วมกับบริษัท Xuang Cau Co.,Ltd.
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
แผนการลงทุนในปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 850 เมกะวัตต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ล่าสุดบริษัทฯ ได้พิจารณาร่วมทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซกอง 4A และ 4B กับ
Lao World Engineering
& Construction Company Limited และบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)
โดยได้ร่วมกันศึกษาความเหมาะสมของโครงการ รวมทั้งศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสังคม
ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงพลังงานและบ่อแร่
และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สปป.ลาว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่
บมจ.บริษัท ผลิตไฟฟ้า หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผย ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2561 ว่ามีกำไรสุทธิ
20,171 ล้ำนบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 581 จากผลประกอบการของโรงไฟฟ้าต่างๆ
และการขายสินทรัพย์ 3 โครงการ ได้แก่ ขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดใน อีสท์วอเตอร์ บริษัท จีเดค จำากัด
และโรงไฟฟ้ามาซินลอค ประเทศฟิลิปปินส์ ทำให้รับรู้กำไรทั้งสิ้น 14,162 ล้านบาท โดยเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์ดังกล่าวจะเตรียมไว้เพื่อการขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
เพื่อสร้าง ผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นในระยะยาว–สำนักข่าวไทย