กลุ่ม บี.กริมหนุนรัฐผ่อนคลายตรวจโควิด ลดเวลากักตัวนักธุรกิจ

กรุงเทพฯ 9 ต.ค. – กลุ่ม บี.กริมหนุนรัฐผ่อนคลายตรวจโควิด ลดเวลากักตัวนักธุรกิจ ก่อนไทยจะเสียโอกาสการลงทุน ตั้งเป้ารายได้ 1.5 แสนล้านบาทในปี 72 เป็นฐานการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยธุรกิจไฟฟ้าคาดจบดีลใหม่ 700 เมกะวัตต์ไตรมาส 1/64


นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน กลุ่มบริษัท บี.กริม และประธาน บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมความพร้อมก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อการอุตสาหกรรมในไทย 7 โครงการ กำลังการผลิต 980 เมกะวัตต์ มูลค่า 40,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก 5 สถาบันการเงินชั้นนำ โดยโครงการจะทยอยผลิตไฟฟ้าปี 2565-2566 นับว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันทางกระทรวงพลังงานได้ประสานขอให้กลุ่มบีกริมช่วยเรื่องการจ้างงาน ซึ่งขณะนี้บริษัทกำลังพิจารณาเพื่อช่วยเหลือคนไทยในภาวะที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

สำหรับผู้ให้กู้ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์  ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าประเทศไทย (EXIM BANK) ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารออมสิน ร่วมกับ 2 บริษัทชั้นนำด้านการก่อสร้าง ได้แก่  บริษัท ซีเมนส์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด ประเทศไทย  และบริษัท โตชิบา แพลนท์ ซิสเต็มส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส คอร์ปอเรชั่น ทำให้มั่นใจถึงศักยภาพในการดำเนินโครงการที่จะลุล่วงตามแผนงานที่วางไว้


“แม้ว่ายอดขายของกลุ่ม บี.กริมยังเติบโต แต่ผลกระทบของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะหดตัวถึงร้อยละ 10 ในปีนี้ และเพื่อรองรับการลงทุน การแข่งขันกับเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ซึ่งมีการย้ายฐานการลงทุนไปที่นั่นเยอะมาก ก็อยากขอให้รัฐบาลไทยผ่อนปรนเรื่องการเปิดให้นักลงทุนเข้ามาไม่ต้องกักตัว 14 วัน แต่ให้ตรวจและกักตัวที่ประเทศต้นทางให้มั่นใจว่าไม่เป็นโควิด-19 เพราะจากการที่เรามีมาตรการเข้มงวดกักตัวนาน ทำให้ไทยเสียโอกาสในการดึงดูดนักลงทุน ยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ยอดการลงทุนสร้างโรงงานที่เป็นหนึ่งในกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจก็ไม่ได้ขยายตัว ท่ามกลางรายได้จากนักท่องเที่ยวที่ลดลง” นายลิงค์ กล่าว

นายลิงค์ กล่าวว่า กลุ่ม บี.กริม.ปีนี้มีรายได้เติบโตจากปีที่แล้วประมาณร้อยละ 10 มีรายได้รวมประมาณ 60,000 ล้านบาท ในส่วนนี้มาจากธุรกิจไฟฟ้าประมาณ 44,000 ล้านบาท การที่ธุรกิจยังขยายตัว เพราะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับความต้องการขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยธุรกิจอื่น ๆ เช่น เฮลท์แคร์ และอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้ 150,000 ล้านบาทในปี 2572 ซึ่งขยายการลงทุนทุกด้าน โดยเฉพาะธุรกิจไฟฟ้าขยายทั้งในและต่างประเทศมีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำลง รวมทั้งขยายธุรกิจนวัตกรรม เครือข่ายไฟฟ้า Smart Grid ร่วมกับบริษัทในเครือของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การลงทุนโซลาร์รูฟท็อป และอื่น ๆ เป็นต้น โดยธุรกิจไฟฟ้าจะมีเป้าหมายเพิ่มกำลังผลิตเป็น 7,200 เมกะวัตต์ ในปี 2568 ต้องใช้เงินลงทุน 180,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีกำลังผลิตในมือแล้ว 3,680 เมกะวัตต์ และสิ้นปีนี้จะผลิตได้รวม 3,019 เมกะวัตต์  ซึ่งขอย้ำว่าจะไม่มีการเพิ่มทุนใน BGRIM แต่อย่างใด โดยการจัดหาเงินทุนอาจจะเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตร หรือการออกพันธบัตร การกู้เงินแล้วแต่ความเหมาะสมของโครงการ

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า ขณะนี้เจรจาเพื่อซื้อกิจการหลาย โครงการและคาดว่าจะมีข้อตกลงชัดเจนไตรมาส 1/2564 ประมาณ 700 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ทั้งในไทยและมาเลเซีย ขณะที่ โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซฯ ในเวียดนามมีความคืบหน้าชัดเจน 1 โครงการ กำลังผลิตประมาณ 3,000 เมกะวัตต์


นางปรียนาถ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทรอความชัดเจนจากกระทรวงพลังงานว่าจะอนุมัติให้นำเข้าแอลเอ็นจีมากน้อยเพียงใด หลังจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อนุมัติให้ บี.กริมเป็นผู้จัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) จำนวน 650,000 ตันต่อปี พร้อมกับเอกชนรายอื่น ๆ อีก 2 ราย เพื่อรองรับการเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติในไทย โดยตามกรอบดังกล่าวบริษัทสามารถนำเข้า 250,000 ตันต่อปีในปี 2563-2564 จากนั้นปี 2565 หลังโรงไฟฟ้าใหม่ 7 โครงการ กำลังการผลิต 980 เมกะวัตต์ เข้าระบบผลิตไฟฟ้า ก็จะสามารถนำเข้าแอลเอ็นจี  650,000 ตันต่อปี

“BGRIM รอกระทรวงพลังงานว่าจะอนุมัติให้นำเข้าปริมาณชัดเจนเท่าใด ล่าสุดที่ผ่านมา บี.กริม ได้จัดส่งรายละเอียดและแผนนำเข้า LNG ให้ กกพ.พิจารณาและได้รับการอนุมัติเรียบร้อย ทั้งนี้ บี.กริม คาดว่าจะนำเข้าเร็วสุดประมาณเดือนธันวาคม 2563 เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าเดิมที่มีอยู่ 17 โรง หากนำเข้าได้เองค่าก๊าซจะลดลง ต้นทุนค่าไฟฟ้าของภาคอุตสาหกรรมโดยรวมจะลดลงด้วย” นางปรียนาถ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”