กรุงเทพฯ 21 พ.ค. -ธุรกิจนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ
แอลเอ็นจี ในประเทศไทย คึกคักหลัง
กกพ.อนุมัติ
กัลฟ์-หินกองฯ นำเข้า บีกริม มั่นใจ ได้รับอนุมติศุกร์นี้ ด้าน ปตท. พร้อมรับภาวะการแข่งขัน
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บี.กริม เพาเวอร์ กล่วาว่า มั่นใจว่าจะได้รับอนุมัตินำเข้าแอลเอ็นจีจากที่ประ
ชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ
กกพ.ในวันศุกร์นี้ (22 พ.ค.) หลังจาก ที่ประชุม กกพ.วานนี้ (20 พ.ค.)
แนะนำให้ บีกริม ลดปริมาณนำเข้าแอลเอ็นจี
โดยให้นำเข้าเฉพาะใช้ในโรงไฟฟ้าในส่วนกำลังผลิตส่วนเกินจากสัญญาขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
สำหรับ 5 โรงไฟฟ้าผู้ผลิตเอกชนรายเล็กประเภททดแทน(SPP Replacement ) สาเหตุที่มั่นใจเนื่องจาก
บริษัทปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ สำนักงาน กกพ.ทั้งหมด และสิ่งสำคัญ คือ หาก
บริษัทนำเข้าแอลเอ็นจีราคาต่ำเข้ามา ก็จะส่งต่อผลประโยชน์ไปยังลูกค้าอุตสาหกรรม
ของบริษัท ได้ค่าไฟฟ้าต่ำลง ก็จะทำให้สินค้าของไทยในการส่งออก สามารถแข่งขันได้
เป็นผลดีต่อประเทศ
“ โรงไฟฟ้าเอสพีพีทดแทนของ
บี.กริมมี 5 โรง โรงละ 140 เมกะวัตต์
พร้อมจะลดปริมาณนำเข้า ในส่วนที่ขายแก่ กฟผ. โรงละ30 เมกะวัตต์ ซึ่ง บีกริมทำตามนโยบายทุกอย่าง
ก็มั่นใจจะได้รับอนุมัติ และการที่ไทยเป็นผู้ส่งออก
หากลูกค้าได้ต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ถูกก็จะสร้างประโยชน์แก่ประเทศ”
นางปรียนาถ กล่าว
นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท.กล่าวว่า
ธุรกิจนำเข้าแอลเอ็นจีเป็นไปตามนโยบายแข่งขันเสรี
ผู้นำเข้ารายใหม่ก็จะเป็นทั้งรูปแบบนำเข้ามาใช้เอง หรืออาจจะขายให้กับ
ปตท.ก็ได้ โดยภาพรวมแล้ว
ปตท.ก็ต้องปรับตัวพร้อมที่จะแข่งขัน
โดยในเรื่องราคาก๊าซตลาดรวม (POOL ) ที่มีราคาสูงกว่า
แอลเอ็นจีตลาดจรในขณะนี้ที่อยู่ 2-3 ดอลลาร์สหรัฐ ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามภาวะตลาดโลกในช่วงนี้ ส่วนตลาด POOL เป็นราคาก๊าซฯที่จากแหล่งอ่าวไทย
เมียนมา และการนำเข้าแอลเอ็นจีระยะยาว ที่เกิดขึ้นจากนโยบาย
ที่สร้างความมั่นคงระยะยาวของประเทศ ซึ่ง
สำนักงาน กกพ.ก็ได้ระบุชัดว่าสัญญาเดิมของโรงไฟฟ้าที่มีไว้กับ
ปตท.จะต้องไม่เปลี่ยนแปลง
“โรงไฟฟ้าไอพีพี เช่น
หินกอง เป็นสัญญาระยะยาว
โดยหากเอกชนจะนกเข้าเอง ภาครัฐก็คงต้องดูในแง่ความมั่นคงในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ปตท.ก็ปรับตัวพร้อมแข่งขัน
ซึ่งปีนี้ก็เตรียมพร้อมนำเข้าแอลเอ็นจีราคาสปอต 11 ลำเรือ
แต่จะนำเข้ามากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด”นายวุฒิกร กล่าว
นางสาวยุพาพิน
วังวิวัฒน์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน
บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) แจ้งว่า ที่ประชุมกกพ. วานนี้ (20 พ.ค.) แจ้งว่า
บริษัทได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) ในปริมาณ 3 แสนตัน/ปี เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้า SPP ของกลุ่มกัลฟ์จำนวน 19 โครงการ นอกจากนี้บริษัท
หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (HKH) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่บริษัทถือหุ้น 49% และบมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) ถือหุ้น51% ได้รับอนุมัติใบอนุญาต เช่นเดียวกัน HKH จะนำเข้า LNG 1.4 ล้านตัน/ปี
เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงโรงไฟฟ้าหินกอง กำลังการผลิต 1,400 เมกะวัตต์
ซึ่งมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 67 และ 68 /สำนักข่าวไทย