นนทบุรี 29 พ.ค. -รัฐบาลประกาศเดินหน้าครัวไทยสู่ครัวโลก ผลักดันภาคเกษตร อาหารหนุนส่งออกภาพรวมโตร้อยละ 8 มุ่งเน้นนวัตกรรมผลักดันเกษตร อาหาร ชูความหลากหลายพืชเกษตร เน้นกลุ่มรักษ์สุขภาพ ประโยชน์จากสารอาหาร
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน THAIFEX – World of Food Asia 2018 พร้อมกล่าวปาถกฐาพิเศษ ระบุว่าในปี 2560 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกสินค้าในกลุ่มอาหารคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านบาท ช่วยเพิ่มมูลค่าให้จีดีพีมากกว่าร้อยละ 6 โดยไทยมีส่วนแบ่งในตลาดอุตสาหกรรมอาหาร ร้อยละ 2.3 นับเป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับที่ 15 ของโลก ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมอาหารสัดส่วนร้อยละ 70 ใช้บริโภคในประเทศ ส่งออกเพียงร้อยละ 30 ขณะที่ตลาดโลกยังมีความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น แม้เศรษฐกิจมีปัญหาทุกประเทศยังต้องการบริโภคอาหาร เมื่อวัตถุดิบส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหาร มาจากภาคการเกษตรในประเทศ ดังนั้นหากไทยผลักดันการส่งออกในอุตสาหกรรมอาหารและภาคเกษตร จะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกโดยรวมเติบโตได้มากกว่าร้อย 8
รัฐบาลจึงประกาศ รีแบรนด์นโยบาย ครัวไทยสู่ครัวโลก ปั้นเชฟรุ่นใหม่ นำอาหารไทยบุกตลาดทั่วโลก เพราะอาหารไทยขายได้ทั่วโลก ทั้งนี้ ได้มอบให้กระทรวงพาณิชย์ตั้งบบปี 62 เดินเครื่องส่งเสริมนโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ร่วมกับสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมฯ เพราะอาหารไทยกลายเป็นระดับพรีเมี่ยมในเวทีโลกไปแล้ว และยังมุ่งสนับสนุนคนรุ่นใหม่ มีการใช้นวัตกรรมผลิตอาหาร สตาร์ทอัพด้านอาหาร เชฟฝีมือเด่น เพราะแนวโน้มคนรุ่นใหม่บริโภคตามคุณประโยชน์ของผลไม้ สินค้าเกษตร สุขอนามัย จึงต้องการนำความหลากหลายจากศักยภาพสินค้าเกษตรไทย มาเล่าเรื่อง ในการผลิต คุณสมบัติเฉพาะในพื้นที่ของแต่ละจังหวัด ประโยชน์ต่อสุขภาพ เพื่อชูดเป็นจุดขายของไทย พร้อมแจงแหล่งที่มาของการปลูกและผลิตให้นักท่องเที่ยวมองเห็นความสำคัญ
นอกจากนี้ ยังมีการชูจุดเด่นความหลากหลายพืชเกษตรของไทย ผ่านนวัตกรรมใหม่นอกจากทุเรียน เช่น มังคุด ให้ประโยชน์แก่ร่างกายอย่างไร เพราะผลไม้ไทยทุกชนิดล้วนมีประโยชน์ จากนั้นในเรื่องของการดูแลคุณภาพเริ่มตั้งแต่สมาร์ฟาร์ม ระบบจัดส่ง ร้านค้าปลีกรูปแบบใหม่ และดึงนักท่องเที่ยว 30-40 ล้านคนต่อปีกระจายออกไปท่องเที่ยวในต่างจังหวัด เพื่อรับรู้ประโยชน์ผลไม้ไทยยุคใหม่ เหมือนกับชาวจีนที่มีการรับรู้ประโยชน์ของทุเรียนจนไม่พอกับความต้องการซื้อ นอกจากนี้ นายสมคิด ยังเน้นย้ำการผลิตอาหารต้องให้มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และมีความปลอดภัย ขณะเดียวกันมีการสร้างความเชื่อมโยงตลอดห่วงโซ่อุปทาน มีการแปรรูปผ่านเทคโนโลยีและใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาช่วย เช่น ปลาทูน่า เดิมบรรจุกระป๋อง เมื่อลงทุนด้านนวัตกรรมผลิตแคลเซี่ยม และเครื่องสำอางหน้าเด้ง เพิ่มมูลค่าได้อีกทางหนึ่ง และยังส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าผ่านตลาดออนไลน์ มีการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน -สำนักข่าวไทย