กรมบัญชีกลางเร่งติดตั้งเครื่องอีดีซีร้านธงฟ้า-กองทุนหมู่บ้าน

กรุงเทพฯ  8 พ.ค. – กรมบัญชีกลางเดินหน้าวางเครื่องอีดีซีร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพิ่มอีก 20,000 เครื่องทั่วประเทศ


นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ภายหลังการประชุมร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ได้ข้อสรุปว่าจะเริ่มดำเนินการวางเครื่องอีดีซีให้กับร้านธงฟ้าประชารัฐที่มีข้อมูลถูกต้องสมบูรณ์  9,051 ร้านค้า ซึ่งขณะนี้ได้ขนส่งเครื่องอีดีซีที่พร้อมใช้งานไปยังธนาคารกรุงไทยสาขาประจำจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเตรียมส่งมอบให้กับร้านธงฟ้าประชารัฐเรียบร้อยแล้ว  

ทั้งนี้ จะจัดอบรมและส่งมอบให้กับร้านค้าในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ รวมถึงร้านในเขตกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดปทุมธานี เริ่มวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 โดยจะเสร็จภายในวันที่ 12 พฤษภาคม 2561 อย่างแน่นอน ส่วนที่เหลือจะเร่งดำเนินการหลังจากได้รับข้อมูลที่ถูกต้องของร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองต่อไป


สำหรับเจ้าของร้านธงฟ้าประชารัฐที่จะเข้าอบรมและรับมอบเครื่องอีดีซีต้องเตรียมเอกสารแสดงตัวตนและสมุดบัญชีธนาคารให้ครบถ้วน และนำมาในวันอบรมตามที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้แจ้งไว้ ซึ่งเจ้าของร้านค้าจะได้เรียนรู้ขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในการใช้งานจริง กรณีที่ไม่สามารถมาได้ตามวันและเวลานัดหมายสามารถมอบอำนาจให้ผู้แทนมารับเครื่องอีดีซีแทนได้ โดยให้ทำเป็นหนังสือมอบอำนาจ หรือติดต่อกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่เพื่อขอรับเครื่อง ภายใน 15 วันถัดไป หากเจ้าของร้านค้าไม่ติดต่อภายในระยะเวลาที่กำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์ ซึ่งกรมบัญชีกลางจะจัดสรรเครื่องอีดีซีให้กับร้านค้าที่ขึ้นทะเบียนสำรองไว้ต่อไป

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวย้ำว่า เนื่องจากภาครัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเครื่องอีดีซี ดังนั้น การติดตั้งเครื่องเพื่อรับชำระค่าสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จึงไม่ได้เป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับร้านค้า หากตรวจพบว่าร้านค้าใดกระทำผิดหลักเกณฑ์ตามประกาศกรมการค้าภายใน เช่น เรียกเก็บเงินเพิ่มจากผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขึ้นราคาสินค้าจากราคาขายปลีกทั่วไป และกระทำการที่เอาเปรียบผู้บริโภค เป็นต้น ถือว่ามีความผิด ซึ่งกรมการค้าภายในจะเพิกถอนการเป็นร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและกรมบัญชีกลางจะเรียกคืนเครื่องอีดีซี ทันที โดยจะไม่ให้มีการวางเครื่องอีดีซีได้อีก

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการติดตั้งเครื่องอีดีซีให้กับร้านค้าประชารัฐ 20,000 เครื่อง  ซึ่งในจำนวนนี้มีร้านค้าประชารัฐกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติที่จะได้รับเครื่องไปติดตั้ง 10,000 เครื่อง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง