กรมบัญชีกลางดีเดย์เปิดรับสมัครร้านค้าร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้”

กรมบัญชีกลาง 28 ส.ค. – กรมบัญชีกลางจับมือกรุงไทย ททท. ดีเดย์รับลงทะเบียนวันแรก ผู้ประกอบการ ร้านค้า ร่วมโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” คาดดึงผู้ประกอบการร่วม 1.3 แสนราย รองรับการใช้เงินนักท่องเที่ยวช่วงปลายปี  



นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กรมบัญชีกลางร่วมกับ 2 หน่วยงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และธนาคารกรุงไทย จัดทำ มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ  “ชิมช้อปใช้” เพื่อเชิญชวนให้ผู้ประกอบการ ร้านค้าทุกประเภท เข้าร่วมมาตรการ โดยวันนี้ (28 ส.ค.) เป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครร้านค้าส่วนกลางที่กรมบัญชีกลาง และภูมิภาคที่คลังจังหวัดทั่วประเทศ  เพื่อให้ร้านรายใหม่เข้าร่วมโครงการเพิ่มเติม เมื่อสมัครแล้วจะได้โหลดแอป “ถุงเงิน” ของธนาคารกรุงไทย และเปิดบัญชีออมทรัพย์รองรับการซื้อสินค้าจากนักท่องเที่ยว เป็นการเตรียมความพร้อมในส่วนของผู้ประกอบการ  เริ่มรับสมัครตั้งแต่  28 สิงหาคม – 20 กันยายน 2562 ไม่เว้นวันหยุดราชการ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการร้านค้า ที่พัก รีสอร์ท ร้านค้าชุมชน รายใหม่ 50,000 ราย รวมร้านค้ารายเดิมเป็น 130,000 รายทั่วประเทศ เพื่อรองรับการใช้เงินผ่านร้านค้าที่ติดป้าย  “ชิมช้อปใช้”   


ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจลงทะเบียนต้องเตรียมเอกสาร เช่น ใบทะเบียนการค้าจากกระทรวงพาณิชย์ หากเป็นร้านค้าชุมชนไม่มีเอกสารทะเบียนการค้า ขอให้ไปยื่นขอรับรองจากส่วนราชการในการขายสินค้าโอทอป หรือสินค้าชุมชน สามารถนำใบสมัครร่วมโครงการไปให้ส่วนราชการเซ็นรับรองในช่องที่กำหนด  นอกจากนี้ ททท.ยังจัดทำแผนที่ร้านค้าทั่วประเทศ โดยปักหมุดที่อยู่ร้านค้าให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ


ด้านนักท่องเที่ยว ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ทาง www.ชิมช้อปใช้.com ของ ททท.ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน  – 15 พฤศจิกายน 2562 (วัน/รอบละ 1 ล้านคน) จากนั้นให้โหลดแอปรับเงิน  “เป๋าตัง” (G-Wallet) จำนวน 10 ล้านคน ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 หลังจากนั้น 3 วัน จะได้รับ SMS เช่น หากลงทะเบียนวันแรก  23 กันยายน จะได้รับเงินไปใช้ในวันที่ 27 กันยายน และต้องใช้เงินเพื่อการท่องเที่ยวภายใน 14 วัน เพื่อให้เร่งการใช้จ่ายในต่างจังหวัดในช่วง 2 เดือน กันยายน – พฤศจิกายน 2562  ขอย้ำว่าการคืนเงินร้อยละ 15 จะส่งคืนในช่วงเดือนพฤศิกายน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมสังคมไร้เงินสด และย้ำว่าผู้ลงทะเบียนรับเงิน 1,000 บาทได้ทุกคนที่เป็นคนไทย แม้จะเป็นผู้บัตรสวัสดิการฯ 

น.ส.ชนกกร ชะนะโสภา หัวหน้าส่วนผู้บริหารงาน ทีม Channel Management ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อผู้ประกอบการร้านค้ามาลงทะเบียนต้องเปิดบัญชีออมทรัพย์กับธนาคารกรุงไทย ในส่วนของผู้ประกอบร้านค้ารายเดิมที่มี “แอปถุงเงิน” อยู่ก่อนแล้วให้รอรับ SMS จากธนาคารกรุงไทย เพื่ออัพเดทเวอร์ชั่นใหม่แอปถุงเงินรองรับการใช้บริการ  ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนกับเว็บไซต์ของ ททท. เมื่อรับเงิน 1,000 บาท เข้ามาแอป “เป๋าตัง” ในช่อง 1 จากนั้นให้นักท่องเที่ยวเติมเงินเข้าไปในช่อง 2 เพื่อใช้จ่ายเพิ่มเติมรองรับเงินคืนภายหลัง

สำหรับเงื่อนไขการเข้าร่วมมาตรการของประชาชน นักท่องท่องเที่ยวกำหนดให้

1. เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน

2. มีอายุ่ตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน

3. มี Smart Phone เครือข่าย Internet มี e-mail

วิธีการลงทะเบียน  

1. เข้าเว็บไซด์ www.ชิมช้อปใช้.com ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน (หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป) จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 (ถึง 24.00 น.)

2. กำหนดจำนวนรับลงทะเบียน วัน/รอบละ 1 ล้านคน

3. กรอกข้อมูล ชื่อนาม-สกุล เลขที่บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์ พร้อมเลือกจังหวัดที่ประสงค์

จะเดินทางไปใช้สิทธิ์ต้องไม่ใช่จังหวัดตามสำเนาทะเบียนบ้าน

4. เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะยืนยันให้ทราบทันทีว่าลงทะเบียนสำเร็จ และจะแจ้งทาง e-mail ให้ทราบอีกครั้ง กรณีลงทะเบียนไม่สำเร็จ (กรณีรายที่เกิน 1 ล้าน) ระบบจะแจ้งให้ทราบว่าเต็มจำนวนสำหรับรอบวันนั้นแล้ว) และสามารถลงทะเบียนได้อีกครั้งในรอบถัดไป

การพิจารณา

1. ข้อมูลจะถูกส่งไปตรวจสอบความถูกต้องกับกรมการปกครอง

2. ภายใน 3 วัน ธนาคารกรุงไทยจะส่ง SMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้  หากถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบว่า ได้รับสิทธิ์ พร้อมแจ้งรายละเอียด จังหวัด และระยะเวลา วันที่สามารถไปใช้สิทธิให้ทราบ (ภายใน 14 วัน หลังจากได้รับ SMS) หากไม่ถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบกรณีที่ผิดพลาด ซึ่งสามารถดำเนินการลงทะเบียนใหม่ในรอบถัดไปได้ (ขึ้นอยู่กับกรณีการผิดพลาดว่าจะลงทะเบียนใหม่ได้หรือไม่)  

ดาวน์โหลด Application เป๋าตัง เมื่อได้รับ SMS ยืนยันการได้รับสิทธิ์ ตามขั้นตอน

1. สแกนบัตรประจำตัวประชาชน

2. กรอกข้อมูลบัตรประชาชน

3. ถ่ายรูป Selfie ใบหน้าตนเอง

4. ยืนยันเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียน ด้วย OTP

5. แสดงผลการยืนยันตัวตน และแจ้งวงเงิน 1,000 บาท ในเป๋าตัง ช่อง 1 และเริ่มใช้งาน

6. มีเป๋าตัง ช่อง 2 เพื่อให้เติมเงินและนำไปใช้จ่าย และได้รับเงินชดเชย (Cash Back) 15% ของจำนวนเงิน

ที่ใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,500 บาท (วงเงินการใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท)

**ผู้ได้รับสิทธิ์  “ชิมช้อปใช้” สามารถนำวงเงิน 1,000 บาท ในเป๋าตัง ช่อง 1 ไปใช้ได้ทันที กับผู้ประกอบการ ร้านค้า ที่เข้าร่วมมาตรการ และมีแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” โดยมีระยะเวลาการใช้ 14 วัน หากใช้ไม่หมดเงินจะถูกตัดสิทธิ์ และไม่สามารถลงทะเบียนใหม่ได้อีก

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้า ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ประกอบด้วย

1. ผู้ประกอบการ ร้านค้า ชิมช้อปใช้

ประเภท “ชิม” เช่น ร้านจำหน่ายอาหาร จำหน่ายเครื่องดื่ม หรือ จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม

ประเภท “ช้อป” เช่น ร้านค้าท้องถิ่น รายสินค้า ประเภทผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP/วิสาหกิจชุมชน)

ประเภท “ใช้” สถานที่ให้บริการที่พัก เช่น โรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ หรือสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

2. ร้านธงฟ้าประชารัฐที่ติดตั้งเครื่อง EDC

3. ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าทั่วไป ที่มี Application ถุงเงินประชารัฐเดิมอยู่แล้ว

การเข้าร่วมมาตรการ

1. ผู้ประกอบการ ร้านค้า ประเภท ชิมช้อปใช้ ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ สามารถยื่นใบสมัคร โดยเตรียมเอกสารหลักฐาน ดังนี้

1.1 หนังสือรับรองการประกอบกิจการหรือใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการ จากหน่วยงาน

ราชการ เช่น สำเนาใบจดทะเบียนพาณิชย์ หนังสือจดทะเบียนการค้า หรือ

1.2 หนังสือรับรองจากหน่วยงานราชการอื่น ๆ ที่รับผิดชอบในการรับรองหรือออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า ในแต่ละประเภท ตามรูปแบบที่หน่วยงานนั้น ๆ กำหนด เช่น องค์การมหาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดเทศบาลเมือง เทศบาลตำบล เมืองพัทยา กรุงเทพมหานคร หรือ

1.3 กรณีหน่วยงานราชการไม่มีรูปแบบการออกใบรับรองหรือใบอนุญาต ก็สามารถให้หน่วยงานเซ็นต์รับรองในแบบฟอร์มใบสมัครเข้าร่วมมาตรการ ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด

1.4 มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ หรือกระแสรายวัน ชื่อบัญชีสถานประกอบการ 

หรือชื่อผู้ประกอบการ ฉบับจริงหรือถ่ายสำเนา หากไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ทาง ธนาคารกรุงไทย จะให้บริการรับเปิดบัญชีเงินฝาก ณ จุดบริการรับสมัคร เพื่อใช้งานตามมาตรการได้

1.5 มีมือถือ Smart Phone มีเครือข่าย Internet และหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดตั้ง Application ถุงเงิน

1.6 กรณีมอบอำนาจ ให้ติดอากรแสตมป์ 10 บาท ให้พยานเซ็นต์ชื่อรับรอง พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจไปประกอบด้วย

การยื่นสมัคร

1. ดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครได้ที่เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th หรือขอรับแบบฟอร์มได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด กรมบัญชีกลาง หรือจุดให้บริการ

2. ยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานดังกล่าว ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด และส่วนกลางที่ กรมบัญชีกลาง (ห้องกำปั่นเงิน) ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2562 ถึงวันที่ 20 กันยายน 2562 เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ

3. ยื่นใบสมัคร ณ จุดให้บริการ One Stop Service ทางส่วนกลาง 10 แห่ง ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 20 กันยายน 2562 ได้แก่ ห้างเทสโก้โลตัส สาขา บางแค/บางกระปิ/พระราม 1/หลักสี่/วังหิน ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขา ปิ่นเกล้า/พระราม 3/อีสต์วิล/พระราม 9 และแมคโคร จรัลสนิทวงศ์ ให้บริการตั้งแต่ห้างเปิดให้บริการ จนถึงเวลา 18.00 น. ซึ่งจะแจ้งวันที่ให้บริการแต่ละแห่งให้ทราบต่อไป

การตรวจสอบ

1. เจ้าหน้าที่สำนักงานคลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และบันทึกเข้าระบบ

2. ตรวจสอบเรียบร้อย จะได้รับรหัส OTP ทางโทรศัพท์ที่แจ้งไว้เพื่อยืนยันข้อมูลก็จะสมารถใช้งาน Application ถุงเงิน

  3. บมจ. ธนาคารกรุงไทย ดาวน์โหลด Application ถุงเงิน พร้อมให้คู่มือการใช้งานให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า กลับไป ในวันเดียวกัน

2. ร้านธงฟ้าประชารัฐ ที่ติดตั้งเครื่อง EDC ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” สามารถสมัครได้เช่นเดียวกับร้านค้าประเภท “ชิมช้อปใช้” โดยดำเนินการกรอกแบบฟอร์มและยื่นใบสมัครเช่นเดียวกันกับร้าน ชิมช้อปใช้ โดยไม่ต้องยื่นเอกสารหลักฐานเนื่องจากมีข้อมูลอยู่ในระบบแล้ว หลังจากนั้น ธนาคารกรุงไทยจะดาวน์โหลด Application ถุงเงิน พร้อมให้คู่มือการใช้งานให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า กลับไป ในวันเดียวกัน

3. ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าทั่วไป ที่มี Application ถุงเงินประชารัฐเดิมอยู่แล้ว ธนาคารกรุงไทย จะส่ง SMS เพื่อยืนยันการอับเดท Application ถุงเงินเวอร์ชั่นใหม่ หากสนใจเข้าร่วมมาตรการ ก็ยืนยันการอัพเดท Application ถุงเงิน และสามารถเข้าร่วมมาตรการได้ทันที ไม่ต้องกรอกใบสมัครและลงทะเบียนใหม่

ผู้ประกอบการ ร้านค้า ที่เข้าร่วมมาตรการ ชิมช้อปใช้  จะได้รับแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ติดที่ร้านหรือสถานประกอบการ เพื่อแสดงให้ผู้ที่มี Application เป๋าตัง ได้เห็น เพื่อเข้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการสามารถรับแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 แห่ง และที่กรมบัญชีกลาง  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด หรือ กรมบัญชีกลาง โทร. 0-2270-6400 กด 7. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำไทยเลือกสันติวิธี แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- นายกฯ ลั่น “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” ย้ำไทยเลือกสันติวิธี ปมชายแดนไทย-กัมพูชา แต่หากปะทะเราพร้อม ยอมรับเป็นเพื่อนที่ดี แต่จะขอบ้านเราไม่ได้ หลังถูกจี้ถาม “ตระกูลชิน” เกี่ยวดอง “ฮุน เซน” แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ บอกปรึกษาทหารแล้ว งง สื่อฯ ทำไมวันนี้ ดุจัง ปลอบ ไม่เป็นไรนะ ไม่ได้ลงพื้นที่ดูหน้างาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ชายแดน ว่า ได้เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง สิ่งสำคัญมาก ๆ คนไทยต้องรักกันสามัคคีกัน ไม่ใช่การเมืองในประเทศที่จะต้องมีการแบ่งฝ่ายกัน ทุกๆ ฝ่ายต้องช่วยกันรวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศเราต้องสามัคคีกัน ต้องใช้ความเป็นหนึ่ง รักกันของคนในชาติ รัฐบาลไม่ใช่พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ฝ่ายค้าน รัฐบาลก็คือประเทศไทย และการแสดงความเห็นและการปล่อยข่าวปลอมเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น นายกรัฐมนตรี กล่าววว่า ถ้าถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไรนั้น รัฐบาลทำเต็มที่และรักษาอธิปไตยของเราเป็นสิ่งที่จำเป็น รัฐบาลและทหาร คุยกันตลอดว่า จะไปทางไหนอย่างไรเราต้องมั่นใจว่าเราเป็นประเทศไทยเพลงชาติไทย เขาเรียกว่า […]

‘อี แจ-มยอง’ คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน.เกาหลีใต้

โซล 4 มิ.ย. – อี แจ-มยอง ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ พร้อมประกาศชัยชนะต่อผู้สนับสนุน ขณะที่ คิม มุน-ซู คู่แข่งจากพรรคพลังประชาชน ออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว นายอี ได้ชัยชนะการเลือกตั้งหลังจากการนับคะแนนผ่านไปร้อยละ 94.4 และเมื่อช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน นายอี ได้คะแนนเสียงไปแล้วร้อยละ 48.8 และนายคิม คู่แข่งคนสำคัญจากพรรคพลังประชาชน แนวอนุรักษ์นิยม ได้ร้อยละ 42 แม้ว่าคะแนนที่ยังไม่ได้นับ จะตกเป็นของนายคิมแต่ก็ยังตามนายอีไม่ทัน ซึ่งทำให้นายอี ยืนยันชัยชนะของเขาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับตัวเลขผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเบื้องต้นอยู่ที่ร้อยละ 79.4 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 28 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2540 ในจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 44.4 ล้านคน มีผู้มาใช้สิทธิราว 35.24 ล้านคนตามหน่วยเลือกตั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 77.1 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนในปี 2565 นายอีกล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลืมหน้าที่ของประธานาธิบดีในการสร้างความเป็นเอกภาพของผู้คนในประเทศ และว่าเขาจะหาวิธีให้ประเทศอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือได้โดยผ่านการเจรจาและพูดคุยกัน ด้าน นายคิม […]

รัฐบาลออกแถลงการณ์ปมไทย-กัมพูชา ยันปกป้องอธิปไตยเต็มที่

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- รัฐบาล ออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยัน ตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยเต็มที่ ยึดหลักแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และสวัสดิภาพของประชาชน ย้ำ ชายแดน มีความสงบเรียบร้อย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมทุกภาคส่วนของ รัฐบาลภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เช้าวันนี้ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 07.00 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวดังต่อไปนี้ แถลงการณ์รัฐบาล “กรณีสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา” รัฐบาลขอยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและคุ้มครองบูรณภาพของดินแดนไทยอย่างเต็มที่โดยยึดหลักการในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม โดยจุดเริ่มต้นของสถานการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ในขณะที่กองกำลังฝ่ายไทยลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่ฝ่ายไทยซึ่งเป็นแนวที่ถือปฏิบัติเสมอมา แต่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีสถานการณ์จากการปะทะดังกล่าวทำให้กองกำลังไทยจำเป็นต้องป้องกันตัว และปกป้องพื้นที่อธิปไตยของไทย เป็นการดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังจากเกิดเหตุรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับรวมถึงนายกรัฐมนตรี […]

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย