กรมบัญชีกลางดีเดย์เปิดรับสมัครร้านค้าร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้”

กรมบัญชีกลาง 28 ส.ค. – กรมบัญชีกลางจับมือกรุงไทย ททท. ดีเดย์รับลงทะเบียนวันแรก ผู้ประกอบการ ร้านค้า ร่วมโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” คาดดึงผู้ประกอบการร่วม 1.3 แสนราย รองรับการใช้เงินนักท่องเที่ยวช่วงปลายปี  



นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กรมบัญชีกลางร่วมกับ 2 หน่วยงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และธนาคารกรุงไทย จัดทำ มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ  “ชิมช้อปใช้” เพื่อเชิญชวนให้ผู้ประกอบการ ร้านค้าทุกประเภท เข้าร่วมมาตรการ โดยวันนี้ (28 ส.ค.) เป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครร้านค้าส่วนกลางที่กรมบัญชีกลาง และภูมิภาคที่คลังจังหวัดทั่วประเทศ  เพื่อให้ร้านรายใหม่เข้าร่วมโครงการเพิ่มเติม เมื่อสมัครแล้วจะได้โหลดแอป “ถุงเงิน” ของธนาคารกรุงไทย และเปิดบัญชีออมทรัพย์รองรับการซื้อสินค้าจากนักท่องเที่ยว เป็นการเตรียมความพร้อมในส่วนของผู้ประกอบการ  เริ่มรับสมัครตั้งแต่  28 สิงหาคม – 20 กันยายน 2562 ไม่เว้นวันหยุดราชการ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการร้านค้า ที่พัก รีสอร์ท ร้านค้าชุมชน รายใหม่ 50,000 ราย รวมร้านค้ารายเดิมเป็น 130,000 รายทั่วประเทศ เพื่อรองรับการใช้เงินผ่านร้านค้าที่ติดป้าย  “ชิมช้อปใช้”   


ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจลงทะเบียนต้องเตรียมเอกสาร เช่น ใบทะเบียนการค้าจากกระทรวงพาณิชย์ หากเป็นร้านค้าชุมชนไม่มีเอกสารทะเบียนการค้า ขอให้ไปยื่นขอรับรองจากส่วนราชการในการขายสินค้าโอทอป หรือสินค้าชุมชน สามารถนำใบสมัครร่วมโครงการไปให้ส่วนราชการเซ็นรับรองในช่องที่กำหนด  นอกจากนี้ ททท.ยังจัดทำแผนที่ร้านค้าทั่วประเทศ โดยปักหมุดที่อยู่ร้านค้าให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ


ด้านนักท่องเที่ยว ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ทาง www.ชิมช้อปใช้.com ของ ททท.ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน  – 15 พฤศจิกายน 2562 (วัน/รอบละ 1 ล้านคน) จากนั้นให้โหลดแอปรับเงิน  “เป๋าตัง” (G-Wallet) จำนวน 10 ล้านคน ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 หลังจากนั้น 3 วัน จะได้รับ SMS เช่น หากลงทะเบียนวันแรก  23 กันยายน จะได้รับเงินไปใช้ในวันที่ 27 กันยายน และต้องใช้เงินเพื่อการท่องเที่ยวภายใน 14 วัน เพื่อให้เร่งการใช้จ่ายในต่างจังหวัดในช่วง 2 เดือน กันยายน – พฤศจิกายน 2562  ขอย้ำว่าการคืนเงินร้อยละ 15 จะส่งคืนในช่วงเดือนพฤศิกายน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมสังคมไร้เงินสด และย้ำว่าผู้ลงทะเบียนรับเงิน 1,000 บาทได้ทุกคนที่เป็นคนไทย แม้จะเป็นผู้บัตรสวัสดิการฯ 

น.ส.ชนกกร ชะนะโสภา หัวหน้าส่วนผู้บริหารงาน ทีม Channel Management ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อผู้ประกอบการร้านค้ามาลงทะเบียนต้องเปิดบัญชีออมทรัพย์กับธนาคารกรุงไทย ในส่วนของผู้ประกอบร้านค้ารายเดิมที่มี “แอปถุงเงิน” อยู่ก่อนแล้วให้รอรับ SMS จากธนาคารกรุงไทย เพื่ออัพเดทเวอร์ชั่นใหม่แอปถุงเงินรองรับการใช้บริการ  ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนกับเว็บไซต์ของ ททท. เมื่อรับเงิน 1,000 บาท เข้ามาแอป “เป๋าตัง” ในช่อง 1 จากนั้นให้นักท่องเที่ยวเติมเงินเข้าไปในช่อง 2 เพื่อใช้จ่ายเพิ่มเติมรองรับเงินคืนภายหลัง

สำหรับเงื่อนไขการเข้าร่วมมาตรการของประชาชน นักท่องท่องเที่ยวกำหนดให้

1. เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน

2. มีอายุ่ตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน

3. มี Smart Phone เครือข่าย Internet มี e-mail

วิธีการลงทะเบียน  

1. เข้าเว็บไซด์ www.ชิมช้อปใช้.com ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน (หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป) จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 (ถึง 24.00 น.)

2. กำหนดจำนวนรับลงทะเบียน วัน/รอบละ 1 ล้านคน

3. กรอกข้อมูล ชื่อนาม-สกุล เลขที่บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์ พร้อมเลือกจังหวัดที่ประสงค์

จะเดินทางไปใช้สิทธิ์ต้องไม่ใช่จังหวัดตามสำเนาทะเบียนบ้าน

4. เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะยืนยันให้ทราบทันทีว่าลงทะเบียนสำเร็จ และจะแจ้งทาง e-mail ให้ทราบอีกครั้ง กรณีลงทะเบียนไม่สำเร็จ (กรณีรายที่เกิน 1 ล้าน) ระบบจะแจ้งให้ทราบว่าเต็มจำนวนสำหรับรอบวันนั้นแล้ว) และสามารถลงทะเบียนได้อีกครั้งในรอบถัดไป

การพิจารณา

1. ข้อมูลจะถูกส่งไปตรวจสอบความถูกต้องกับกรมการปกครอง

2. ภายใน 3 วัน ธนาคารกรุงไทยจะส่ง SMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้  หากถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบว่า ได้รับสิทธิ์ พร้อมแจ้งรายละเอียด จังหวัด และระยะเวลา วันที่สามารถไปใช้สิทธิให้ทราบ (ภายใน 14 วัน หลังจากได้รับ SMS) หากไม่ถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบกรณีที่ผิดพลาด ซึ่งสามารถดำเนินการลงทะเบียนใหม่ในรอบถัดไปได้ (ขึ้นอยู่กับกรณีการผิดพลาดว่าจะลงทะเบียนใหม่ได้หรือไม่)  

ดาวน์โหลด Application เป๋าตัง เมื่อได้รับ SMS ยืนยันการได้รับสิทธิ์ ตามขั้นตอน

1. สแกนบัตรประจำตัวประชาชน

2. กรอกข้อมูลบัตรประชาชน

3. ถ่ายรูป Selfie ใบหน้าตนเอง

4. ยืนยันเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียน ด้วย OTP

5. แสดงผลการยืนยันตัวตน และแจ้งวงเงิน 1,000 บาท ในเป๋าตัง ช่อง 1 และเริ่มใช้งาน

6. มีเป๋าตัง ช่อง 2 เพื่อให้เติมเงินและนำไปใช้จ่าย และได้รับเงินชดเชย (Cash Back) 15% ของจำนวนเงิน

ที่ใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,500 บาท (วงเงินการใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท)

**ผู้ได้รับสิทธิ์  “ชิมช้อปใช้” สามารถนำวงเงิน 1,000 บาท ในเป๋าตัง ช่อง 1 ไปใช้ได้ทันที กับผู้ประกอบการ ร้านค้า ที่เข้าร่วมมาตรการ และมีแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” โดยมีระยะเวลาการใช้ 14 วัน หากใช้ไม่หมดเงินจะถูกตัดสิทธิ์ และไม่สามารถลงทะเบียนใหม่ได้อีก

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้า ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ประกอบด้วย

1. ผู้ประกอบการ ร้านค้า ชิมช้อปใช้

ประเภท “ชิม” เช่น ร้านจำหน่ายอาหาร จำหน่ายเครื่องดื่ม หรือ จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม

ประเภท “ช้อป” เช่น ร้านค้าท้องถิ่น รายสินค้า ประเภทผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP/วิสาหกิจชุมชน)

ประเภท “ใช้” สถานที่ให้บริการที่พัก เช่น โรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ หรือสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

2. ร้านธงฟ้าประชารัฐที่ติดตั้งเครื่อง EDC

3. ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าทั่วไป ที่มี Application ถุงเงินประชารัฐเดิมอยู่แล้ว

การเข้าร่วมมาตรการ

1. ผู้ประกอบการ ร้านค้า ประเภท ชิมช้อปใช้ ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ สามารถยื่นใบสมัคร โดยเตรียมเอกสารหลักฐาน ดังนี้

1.1 หนังสือรับรองการประกอบกิจการหรือใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการ จากหน่วยงาน

ราชการ เช่น สำเนาใบจดทะเบียนพาณิชย์ หนังสือจดทะเบียนการค้า หรือ

1.2 หนังสือรับรองจากหน่วยงานราชการอื่น ๆ ที่รับผิดชอบในการรับรองหรือออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า ในแต่ละประเภท ตามรูปแบบที่หน่วยงานนั้น ๆ กำหนด เช่น องค์การมหาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดเทศบาลเมือง เทศบาลตำบล เมืองพัทยา กรุงเทพมหานคร หรือ

1.3 กรณีหน่วยงานราชการไม่มีรูปแบบการออกใบรับรองหรือใบอนุญาต ก็สามารถให้หน่วยงานเซ็นต์รับรองในแบบฟอร์มใบสมัครเข้าร่วมมาตรการ ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด

1.4 มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ หรือกระแสรายวัน ชื่อบัญชีสถานประกอบการ 

หรือชื่อผู้ประกอบการ ฉบับจริงหรือถ่ายสำเนา หากไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ทาง ธนาคารกรุงไทย จะให้บริการรับเปิดบัญชีเงินฝาก ณ จุดบริการรับสมัคร เพื่อใช้งานตามมาตรการได้

1.5 มีมือถือ Smart Phone มีเครือข่าย Internet และหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดตั้ง Application ถุงเงิน

1.6 กรณีมอบอำนาจ ให้ติดอากรแสตมป์ 10 บาท ให้พยานเซ็นต์ชื่อรับรอง พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจไปประกอบด้วย

การยื่นสมัคร

1. ดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครได้ที่เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th หรือขอรับแบบฟอร์มได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด กรมบัญชีกลาง หรือจุดให้บริการ

2. ยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานดังกล่าว ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด และส่วนกลางที่ กรมบัญชีกลาง (ห้องกำปั่นเงิน) ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2562 ถึงวันที่ 20 กันยายน 2562 เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ

3. ยื่นใบสมัคร ณ จุดให้บริการ One Stop Service ทางส่วนกลาง 10 แห่ง ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 20 กันยายน 2562 ได้แก่ ห้างเทสโก้โลตัส สาขา บางแค/บางกระปิ/พระราม 1/หลักสี่/วังหิน ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขา ปิ่นเกล้า/พระราม 3/อีสต์วิล/พระราม 9 และแมคโคร จรัลสนิทวงศ์ ให้บริการตั้งแต่ห้างเปิดให้บริการ จนถึงเวลา 18.00 น. ซึ่งจะแจ้งวันที่ให้บริการแต่ละแห่งให้ทราบต่อไป

การตรวจสอบ

1. เจ้าหน้าที่สำนักงานคลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และบันทึกเข้าระบบ

2. ตรวจสอบเรียบร้อย จะได้รับรหัส OTP ทางโทรศัพท์ที่แจ้งไว้เพื่อยืนยันข้อมูลก็จะสมารถใช้งาน Application ถุงเงิน

  3. บมจ. ธนาคารกรุงไทย ดาวน์โหลด Application ถุงเงิน พร้อมให้คู่มือการใช้งานให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า กลับไป ในวันเดียวกัน

2. ร้านธงฟ้าประชารัฐ ที่ติดตั้งเครื่อง EDC ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” สามารถสมัครได้เช่นเดียวกับร้านค้าประเภท “ชิมช้อปใช้” โดยดำเนินการกรอกแบบฟอร์มและยื่นใบสมัครเช่นเดียวกันกับร้าน ชิมช้อปใช้ โดยไม่ต้องยื่นเอกสารหลักฐานเนื่องจากมีข้อมูลอยู่ในระบบแล้ว หลังจากนั้น ธนาคารกรุงไทยจะดาวน์โหลด Application ถุงเงิน พร้อมให้คู่มือการใช้งานให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า กลับไป ในวันเดียวกัน

3. ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าทั่วไป ที่มี Application ถุงเงินประชารัฐเดิมอยู่แล้ว ธนาคารกรุงไทย จะส่ง SMS เพื่อยืนยันการอับเดท Application ถุงเงินเวอร์ชั่นใหม่ หากสนใจเข้าร่วมมาตรการ ก็ยืนยันการอัพเดท Application ถุงเงิน และสามารถเข้าร่วมมาตรการได้ทันที ไม่ต้องกรอกใบสมัครและลงทะเบียนใหม่

ผู้ประกอบการ ร้านค้า ที่เข้าร่วมมาตรการ ชิมช้อปใช้  จะได้รับแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ติดที่ร้านหรือสถานประกอบการ เพื่อแสดงให้ผู้ที่มี Application เป๋าตัง ได้เห็น เพื่อเข้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการสามารถรับแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 แห่ง และที่กรมบัญชีกลาง  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด หรือ กรมบัญชีกลาง โทร. 0-2270-6400 กด 7. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]