กรมบัญชีกลางดีเดย์เปิดรับสมัครร้านค้าร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้”

กรมบัญชีกลาง 28 ส.ค. – กรมบัญชีกลางจับมือกรุงไทย ททท. ดีเดย์รับลงทะเบียนวันแรก ผู้ประกอบการ ร้านค้า ร่วมโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” คาดดึงผู้ประกอบการร่วม 1.3 แสนราย รองรับการใช้เงินนักท่องเที่ยวช่วงปลายปี  



นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กรมบัญชีกลางร่วมกับ 2 หน่วยงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และธนาคารกรุงไทย จัดทำ มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ  “ชิมช้อปใช้” เพื่อเชิญชวนให้ผู้ประกอบการ ร้านค้าทุกประเภท เข้าร่วมมาตรการ โดยวันนี้ (28 ส.ค.) เป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครร้านค้าส่วนกลางที่กรมบัญชีกลาง และภูมิภาคที่คลังจังหวัดทั่วประเทศ  เพื่อให้ร้านรายใหม่เข้าร่วมโครงการเพิ่มเติม เมื่อสมัครแล้วจะได้โหลดแอป “ถุงเงิน” ของธนาคารกรุงไทย และเปิดบัญชีออมทรัพย์รองรับการซื้อสินค้าจากนักท่องเที่ยว เป็นการเตรียมความพร้อมในส่วนของผู้ประกอบการ  เริ่มรับสมัครตั้งแต่  28 สิงหาคม – 20 กันยายน 2562 ไม่เว้นวันหยุดราชการ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการร้านค้า ที่พัก รีสอร์ท ร้านค้าชุมชน รายใหม่ 50,000 ราย รวมร้านค้ารายเดิมเป็น 130,000 รายทั่วประเทศ เพื่อรองรับการใช้เงินผ่านร้านค้าที่ติดป้าย  “ชิมช้อปใช้”   


ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจลงทะเบียนต้องเตรียมเอกสาร เช่น ใบทะเบียนการค้าจากกระทรวงพาณิชย์ หากเป็นร้านค้าชุมชนไม่มีเอกสารทะเบียนการค้า ขอให้ไปยื่นขอรับรองจากส่วนราชการในการขายสินค้าโอทอป หรือสินค้าชุมชน สามารถนำใบสมัครร่วมโครงการไปให้ส่วนราชการเซ็นรับรองในช่องที่กำหนด  นอกจากนี้ ททท.ยังจัดทำแผนที่ร้านค้าทั่วประเทศ โดยปักหมุดที่อยู่ร้านค้าให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ


ด้านนักท่องเที่ยว ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ทาง www.ชิมช้อปใช้.com ของ ททท.ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน  – 15 พฤศจิกายน 2562 (วัน/รอบละ 1 ล้านคน) จากนั้นให้โหลดแอปรับเงิน  “เป๋าตัง” (G-Wallet) จำนวน 10 ล้านคน ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 หลังจากนั้น 3 วัน จะได้รับ SMS เช่น หากลงทะเบียนวันแรก  23 กันยายน จะได้รับเงินไปใช้ในวันที่ 27 กันยายน และต้องใช้เงินเพื่อการท่องเที่ยวภายใน 14 วัน เพื่อให้เร่งการใช้จ่ายในต่างจังหวัดในช่วง 2 เดือน กันยายน – พฤศจิกายน 2562  ขอย้ำว่าการคืนเงินร้อยละ 15 จะส่งคืนในช่วงเดือนพฤศิกายน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมสังคมไร้เงินสด และย้ำว่าผู้ลงทะเบียนรับเงิน 1,000 บาทได้ทุกคนที่เป็นคนไทย แม้จะเป็นผู้บัตรสวัสดิการฯ 

น.ส.ชนกกร ชะนะโสภา หัวหน้าส่วนผู้บริหารงาน ทีม Channel Management ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อผู้ประกอบการร้านค้ามาลงทะเบียนต้องเปิดบัญชีออมทรัพย์กับธนาคารกรุงไทย ในส่วนของผู้ประกอบร้านค้ารายเดิมที่มี “แอปถุงเงิน” อยู่ก่อนแล้วให้รอรับ SMS จากธนาคารกรุงไทย เพื่ออัพเดทเวอร์ชั่นใหม่แอปถุงเงินรองรับการใช้บริการ  ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนกับเว็บไซต์ของ ททท. เมื่อรับเงิน 1,000 บาท เข้ามาแอป “เป๋าตัง” ในช่อง 1 จากนั้นให้นักท่องเที่ยวเติมเงินเข้าไปในช่อง 2 เพื่อใช้จ่ายเพิ่มเติมรองรับเงินคืนภายหลัง

สำหรับเงื่อนไขการเข้าร่วมมาตรการของประชาชน นักท่องท่องเที่ยวกำหนดให้

1. เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน

2. มีอายุ่ตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน

3. มี Smart Phone เครือข่าย Internet มี e-mail

วิธีการลงทะเบียน  

1. เข้าเว็บไซด์ www.ชิมช้อปใช้.com ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน (หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป) จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 (ถึง 24.00 น.)

2. กำหนดจำนวนรับลงทะเบียน วัน/รอบละ 1 ล้านคน

3. กรอกข้อมูล ชื่อนาม-สกุล เลขที่บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์ พร้อมเลือกจังหวัดที่ประสงค์

จะเดินทางไปใช้สิทธิ์ต้องไม่ใช่จังหวัดตามสำเนาทะเบียนบ้าน

4. เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะยืนยันให้ทราบทันทีว่าลงทะเบียนสำเร็จ และจะแจ้งทาง e-mail ให้ทราบอีกครั้ง กรณีลงทะเบียนไม่สำเร็จ (กรณีรายที่เกิน 1 ล้าน) ระบบจะแจ้งให้ทราบว่าเต็มจำนวนสำหรับรอบวันนั้นแล้ว) และสามารถลงทะเบียนได้อีกครั้งในรอบถัดไป

การพิจารณา

1. ข้อมูลจะถูกส่งไปตรวจสอบความถูกต้องกับกรมการปกครอง

2. ภายใน 3 วัน ธนาคารกรุงไทยจะส่ง SMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้  หากถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบว่า ได้รับสิทธิ์ พร้อมแจ้งรายละเอียด จังหวัด และระยะเวลา วันที่สามารถไปใช้สิทธิให้ทราบ (ภายใน 14 วัน หลังจากได้รับ SMS) หากไม่ถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบกรณีที่ผิดพลาด ซึ่งสามารถดำเนินการลงทะเบียนใหม่ในรอบถัดไปได้ (ขึ้นอยู่กับกรณีการผิดพลาดว่าจะลงทะเบียนใหม่ได้หรือไม่)  

ดาวน์โหลด Application เป๋าตัง เมื่อได้รับ SMS ยืนยันการได้รับสิทธิ์ ตามขั้นตอน

1. สแกนบัตรประจำตัวประชาชน

2. กรอกข้อมูลบัตรประชาชน

3. ถ่ายรูป Selfie ใบหน้าตนเอง

4. ยืนยันเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียน ด้วย OTP

5. แสดงผลการยืนยันตัวตน และแจ้งวงเงิน 1,000 บาท ในเป๋าตัง ช่อง 1 และเริ่มใช้งาน

6. มีเป๋าตัง ช่อง 2 เพื่อให้เติมเงินและนำไปใช้จ่าย และได้รับเงินชดเชย (Cash Back) 15% ของจำนวนเงิน

ที่ใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,500 บาท (วงเงินการใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท)

**ผู้ได้รับสิทธิ์  “ชิมช้อปใช้” สามารถนำวงเงิน 1,000 บาท ในเป๋าตัง ช่อง 1 ไปใช้ได้ทันที กับผู้ประกอบการ ร้านค้า ที่เข้าร่วมมาตรการ และมีแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” โดยมีระยะเวลาการใช้ 14 วัน หากใช้ไม่หมดเงินจะถูกตัดสิทธิ์ และไม่สามารถลงทะเบียนใหม่ได้อีก

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้า ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ประกอบด้วย

1. ผู้ประกอบการ ร้านค้า ชิมช้อปใช้

ประเภท “ชิม” เช่น ร้านจำหน่ายอาหาร จำหน่ายเครื่องดื่ม หรือ จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม

ประเภท “ช้อป” เช่น ร้านค้าท้องถิ่น รายสินค้า ประเภทผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP/วิสาหกิจชุมชน)

ประเภท “ใช้” สถานที่ให้บริการที่พัก เช่น โรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ หรือสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

2. ร้านธงฟ้าประชารัฐที่ติดตั้งเครื่อง EDC

3. ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าทั่วไป ที่มี Application ถุงเงินประชารัฐเดิมอยู่แล้ว

การเข้าร่วมมาตรการ

1. ผู้ประกอบการ ร้านค้า ประเภท ชิมช้อปใช้ ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ สามารถยื่นใบสมัคร โดยเตรียมเอกสารหลักฐาน ดังนี้

1.1 หนังสือรับรองการประกอบกิจการหรือใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการ จากหน่วยงาน

ราชการ เช่น สำเนาใบจดทะเบียนพาณิชย์ หนังสือจดทะเบียนการค้า หรือ

1.2 หนังสือรับรองจากหน่วยงานราชการอื่น ๆ ที่รับผิดชอบในการรับรองหรือออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า ในแต่ละประเภท ตามรูปแบบที่หน่วยงานนั้น ๆ กำหนด เช่น องค์การมหาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดเทศบาลเมือง เทศบาลตำบล เมืองพัทยา กรุงเทพมหานคร หรือ

1.3 กรณีหน่วยงานราชการไม่มีรูปแบบการออกใบรับรองหรือใบอนุญาต ก็สามารถให้หน่วยงานเซ็นต์รับรองในแบบฟอร์มใบสมัครเข้าร่วมมาตรการ ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด

1.4 มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ หรือกระแสรายวัน ชื่อบัญชีสถานประกอบการ 

หรือชื่อผู้ประกอบการ ฉบับจริงหรือถ่ายสำเนา หากไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ทาง ธนาคารกรุงไทย จะให้บริการรับเปิดบัญชีเงินฝาก ณ จุดบริการรับสมัคร เพื่อใช้งานตามมาตรการได้

1.5 มีมือถือ Smart Phone มีเครือข่าย Internet และหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดตั้ง Application ถุงเงิน

1.6 กรณีมอบอำนาจ ให้ติดอากรแสตมป์ 10 บาท ให้พยานเซ็นต์ชื่อรับรอง พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจไปประกอบด้วย

การยื่นสมัคร

1. ดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครได้ที่เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th หรือขอรับแบบฟอร์มได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด กรมบัญชีกลาง หรือจุดให้บริการ

2. ยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานดังกล่าว ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด และส่วนกลางที่ กรมบัญชีกลาง (ห้องกำปั่นเงิน) ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2562 ถึงวันที่ 20 กันยายน 2562 เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ

3. ยื่นใบสมัคร ณ จุดให้บริการ One Stop Service ทางส่วนกลาง 10 แห่ง ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 20 กันยายน 2562 ได้แก่ ห้างเทสโก้โลตัส สาขา บางแค/บางกระปิ/พระราม 1/หลักสี่/วังหิน ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขา ปิ่นเกล้า/พระราม 3/อีสต์วิล/พระราม 9 และแมคโคร จรัลสนิทวงศ์ ให้บริการตั้งแต่ห้างเปิดให้บริการ จนถึงเวลา 18.00 น. ซึ่งจะแจ้งวันที่ให้บริการแต่ละแห่งให้ทราบต่อไป

การตรวจสอบ

1. เจ้าหน้าที่สำนักงานคลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และบันทึกเข้าระบบ

2. ตรวจสอบเรียบร้อย จะได้รับรหัส OTP ทางโทรศัพท์ที่แจ้งไว้เพื่อยืนยันข้อมูลก็จะสมารถใช้งาน Application ถุงเงิน

  3. บมจ. ธนาคารกรุงไทย ดาวน์โหลด Application ถุงเงิน พร้อมให้คู่มือการใช้งานให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า กลับไป ในวันเดียวกัน

2. ร้านธงฟ้าประชารัฐ ที่ติดตั้งเครื่อง EDC ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” สามารถสมัครได้เช่นเดียวกับร้านค้าประเภท “ชิมช้อปใช้” โดยดำเนินการกรอกแบบฟอร์มและยื่นใบสมัครเช่นเดียวกันกับร้าน ชิมช้อปใช้ โดยไม่ต้องยื่นเอกสารหลักฐานเนื่องจากมีข้อมูลอยู่ในระบบแล้ว หลังจากนั้น ธนาคารกรุงไทยจะดาวน์โหลด Application ถุงเงิน พร้อมให้คู่มือการใช้งานให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า กลับไป ในวันเดียวกัน

3. ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าทั่วไป ที่มี Application ถุงเงินประชารัฐเดิมอยู่แล้ว ธนาคารกรุงไทย จะส่ง SMS เพื่อยืนยันการอับเดท Application ถุงเงินเวอร์ชั่นใหม่ หากสนใจเข้าร่วมมาตรการ ก็ยืนยันการอัพเดท Application ถุงเงิน และสามารถเข้าร่วมมาตรการได้ทันที ไม่ต้องกรอกใบสมัครและลงทะเบียนใหม่

ผู้ประกอบการ ร้านค้า ที่เข้าร่วมมาตรการ ชิมช้อปใช้  จะได้รับแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ติดที่ร้านหรือสถานประกอบการ เพื่อแสดงให้ผู้ที่มี Application เป๋าตัง ได้เห็น เพื่อเข้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการสามารถรับแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 แห่ง และที่กรมบัญชีกลาง  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด หรือ กรมบัญชีกลาง โทร. 0-2270-6400 กด 7. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]