กรมบัญชีกลางดีเดย์เปิดรับสมัครร้านค้าร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้”

กรมบัญชีกลาง 28 ส.ค. – กรมบัญชีกลางจับมือกรุงไทย ททท. ดีเดย์รับลงทะเบียนวันแรก ผู้ประกอบการ ร้านค้า ร่วมโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” คาดดึงผู้ประกอบการร่วม 1.3 แสนราย รองรับการใช้เงินนักท่องเที่ยวช่วงปลายปี  



นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กรมบัญชีกลางร่วมกับ 2 หน่วยงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และธนาคารกรุงไทย จัดทำ มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ  “ชิมช้อปใช้” เพื่อเชิญชวนให้ผู้ประกอบการ ร้านค้าทุกประเภท เข้าร่วมมาตรการ โดยวันนี้ (28 ส.ค.) เป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครร้านค้าส่วนกลางที่กรมบัญชีกลาง และภูมิภาคที่คลังจังหวัดทั่วประเทศ  เพื่อให้ร้านรายใหม่เข้าร่วมโครงการเพิ่มเติม เมื่อสมัครแล้วจะได้โหลดแอป “ถุงเงิน” ของธนาคารกรุงไทย และเปิดบัญชีออมทรัพย์รองรับการซื้อสินค้าจากนักท่องเที่ยว เป็นการเตรียมความพร้อมในส่วนของผู้ประกอบการ  เริ่มรับสมัครตั้งแต่  28 สิงหาคม – 20 กันยายน 2562 ไม่เว้นวันหยุดราชการ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการร้านค้า ที่พัก รีสอร์ท ร้านค้าชุมชน รายใหม่ 50,000 ราย รวมร้านค้ารายเดิมเป็น 130,000 รายทั่วประเทศ เพื่อรองรับการใช้เงินผ่านร้านค้าที่ติดป้าย  “ชิมช้อปใช้”   


ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจลงทะเบียนต้องเตรียมเอกสาร เช่น ใบทะเบียนการค้าจากกระทรวงพาณิชย์ หากเป็นร้านค้าชุมชนไม่มีเอกสารทะเบียนการค้า ขอให้ไปยื่นขอรับรองจากส่วนราชการในการขายสินค้าโอทอป หรือสินค้าชุมชน สามารถนำใบสมัครร่วมโครงการไปให้ส่วนราชการเซ็นรับรองในช่องที่กำหนด  นอกจากนี้ ททท.ยังจัดทำแผนที่ร้านค้าทั่วประเทศ โดยปักหมุดที่อยู่ร้านค้าให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ


ด้านนักท่องเที่ยว ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ทาง www.ชิมช้อปใช้.com ของ ททท.ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน  – 15 พฤศจิกายน 2562 (วัน/รอบละ 1 ล้านคน) จากนั้นให้โหลดแอปรับเงิน  “เป๋าตัง” (G-Wallet) จำนวน 10 ล้านคน ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 หลังจากนั้น 3 วัน จะได้รับ SMS เช่น หากลงทะเบียนวันแรก  23 กันยายน จะได้รับเงินไปใช้ในวันที่ 27 กันยายน และต้องใช้เงินเพื่อการท่องเที่ยวภายใน 14 วัน เพื่อให้เร่งการใช้จ่ายในต่างจังหวัดในช่วง 2 เดือน กันยายน – พฤศจิกายน 2562  ขอย้ำว่าการคืนเงินร้อยละ 15 จะส่งคืนในช่วงเดือนพฤศิกายน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมสังคมไร้เงินสด และย้ำว่าผู้ลงทะเบียนรับเงิน 1,000 บาทได้ทุกคนที่เป็นคนไทย แม้จะเป็นผู้บัตรสวัสดิการฯ 

น.ส.ชนกกร ชะนะโสภา หัวหน้าส่วนผู้บริหารงาน ทีม Channel Management ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อผู้ประกอบการร้านค้ามาลงทะเบียนต้องเปิดบัญชีออมทรัพย์กับธนาคารกรุงไทย ในส่วนของผู้ประกอบร้านค้ารายเดิมที่มี “แอปถุงเงิน” อยู่ก่อนแล้วให้รอรับ SMS จากธนาคารกรุงไทย เพื่ออัพเดทเวอร์ชั่นใหม่แอปถุงเงินรองรับการใช้บริการ  ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนกับเว็บไซต์ของ ททท. เมื่อรับเงิน 1,000 บาท เข้ามาแอป “เป๋าตัง” ในช่อง 1 จากนั้นให้นักท่องเที่ยวเติมเงินเข้าไปในช่อง 2 เพื่อใช้จ่ายเพิ่มเติมรองรับเงินคืนภายหลัง

สำหรับเงื่อนไขการเข้าร่วมมาตรการของประชาชน นักท่องท่องเที่ยวกำหนดให้

1. เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน

2. มีอายุ่ตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน

3. มี Smart Phone เครือข่าย Internet มี e-mail

วิธีการลงทะเบียน  

1. เข้าเว็บไซด์ www.ชิมช้อปใช้.com ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน (หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป) จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 (ถึง 24.00 น.)

2. กำหนดจำนวนรับลงทะเบียน วัน/รอบละ 1 ล้านคน

3. กรอกข้อมูล ชื่อนาม-สกุล เลขที่บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์ พร้อมเลือกจังหวัดที่ประสงค์

จะเดินทางไปใช้สิทธิ์ต้องไม่ใช่จังหวัดตามสำเนาทะเบียนบ้าน

4. เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะยืนยันให้ทราบทันทีว่าลงทะเบียนสำเร็จ และจะแจ้งทาง e-mail ให้ทราบอีกครั้ง กรณีลงทะเบียนไม่สำเร็จ (กรณีรายที่เกิน 1 ล้าน) ระบบจะแจ้งให้ทราบว่าเต็มจำนวนสำหรับรอบวันนั้นแล้ว) และสามารถลงทะเบียนได้อีกครั้งในรอบถัดไป

การพิจารณา

1. ข้อมูลจะถูกส่งไปตรวจสอบความถูกต้องกับกรมการปกครอง

2. ภายใน 3 วัน ธนาคารกรุงไทยจะส่ง SMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้  หากถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบว่า ได้รับสิทธิ์ พร้อมแจ้งรายละเอียด จังหวัด และระยะเวลา วันที่สามารถไปใช้สิทธิให้ทราบ (ภายใน 14 วัน หลังจากได้รับ SMS) หากไม่ถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบกรณีที่ผิดพลาด ซึ่งสามารถดำเนินการลงทะเบียนใหม่ในรอบถัดไปได้ (ขึ้นอยู่กับกรณีการผิดพลาดว่าจะลงทะเบียนใหม่ได้หรือไม่)  

ดาวน์โหลด Application เป๋าตัง เมื่อได้รับ SMS ยืนยันการได้รับสิทธิ์ ตามขั้นตอน

1. สแกนบัตรประจำตัวประชาชน

2. กรอกข้อมูลบัตรประชาชน

3. ถ่ายรูป Selfie ใบหน้าตนเอง

4. ยืนยันเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียน ด้วย OTP

5. แสดงผลการยืนยันตัวตน และแจ้งวงเงิน 1,000 บาท ในเป๋าตัง ช่อง 1 และเริ่มใช้งาน

6. มีเป๋าตัง ช่อง 2 เพื่อให้เติมเงินและนำไปใช้จ่าย และได้รับเงินชดเชย (Cash Back) 15% ของจำนวนเงิน

ที่ใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,500 บาท (วงเงินการใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท)

**ผู้ได้รับสิทธิ์  “ชิมช้อปใช้” สามารถนำวงเงิน 1,000 บาท ในเป๋าตัง ช่อง 1 ไปใช้ได้ทันที กับผู้ประกอบการ ร้านค้า ที่เข้าร่วมมาตรการ และมีแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” โดยมีระยะเวลาการใช้ 14 วัน หากใช้ไม่หมดเงินจะถูกตัดสิทธิ์ และไม่สามารถลงทะเบียนใหม่ได้อีก

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้า ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ประกอบด้วย

1. ผู้ประกอบการ ร้านค้า ชิมช้อปใช้

ประเภท “ชิม” เช่น ร้านจำหน่ายอาหาร จำหน่ายเครื่องดื่ม หรือ จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม

ประเภท “ช้อป” เช่น ร้านค้าท้องถิ่น รายสินค้า ประเภทผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP/วิสาหกิจชุมชน)

ประเภท “ใช้” สถานที่ให้บริการที่พัก เช่น โรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ หรือสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

2. ร้านธงฟ้าประชารัฐที่ติดตั้งเครื่อง EDC

3. ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าทั่วไป ที่มี Application ถุงเงินประชารัฐเดิมอยู่แล้ว

การเข้าร่วมมาตรการ

1. ผู้ประกอบการ ร้านค้า ประเภท ชิมช้อปใช้ ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ สามารถยื่นใบสมัคร โดยเตรียมเอกสารหลักฐาน ดังนี้

1.1 หนังสือรับรองการประกอบกิจการหรือใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการ จากหน่วยงาน

ราชการ เช่น สำเนาใบจดทะเบียนพาณิชย์ หนังสือจดทะเบียนการค้า หรือ

1.2 หนังสือรับรองจากหน่วยงานราชการอื่น ๆ ที่รับผิดชอบในการรับรองหรือออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า ในแต่ละประเภท ตามรูปแบบที่หน่วยงานนั้น ๆ กำหนด เช่น องค์การมหาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดเทศบาลเมือง เทศบาลตำบล เมืองพัทยา กรุงเทพมหานคร หรือ

1.3 กรณีหน่วยงานราชการไม่มีรูปแบบการออกใบรับรองหรือใบอนุญาต ก็สามารถให้หน่วยงานเซ็นต์รับรองในแบบฟอร์มใบสมัครเข้าร่วมมาตรการ ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด

1.4 มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ หรือกระแสรายวัน ชื่อบัญชีสถานประกอบการ 

หรือชื่อผู้ประกอบการ ฉบับจริงหรือถ่ายสำเนา หากไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ทาง ธนาคารกรุงไทย จะให้บริการรับเปิดบัญชีเงินฝาก ณ จุดบริการรับสมัคร เพื่อใช้งานตามมาตรการได้

1.5 มีมือถือ Smart Phone มีเครือข่าย Internet และหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดตั้ง Application ถุงเงิน

1.6 กรณีมอบอำนาจ ให้ติดอากรแสตมป์ 10 บาท ให้พยานเซ็นต์ชื่อรับรอง พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจไปประกอบด้วย

การยื่นสมัคร

1. ดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครได้ที่เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th หรือขอรับแบบฟอร์มได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด กรมบัญชีกลาง หรือจุดให้บริการ

2. ยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานดังกล่าว ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด และส่วนกลางที่ กรมบัญชีกลาง (ห้องกำปั่นเงิน) ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2562 ถึงวันที่ 20 กันยายน 2562 เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ

3. ยื่นใบสมัคร ณ จุดให้บริการ One Stop Service ทางส่วนกลาง 10 แห่ง ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 20 กันยายน 2562 ได้แก่ ห้างเทสโก้โลตัส สาขา บางแค/บางกระปิ/พระราม 1/หลักสี่/วังหิน ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขา ปิ่นเกล้า/พระราม 3/อีสต์วิล/พระราม 9 และแมคโคร จรัลสนิทวงศ์ ให้บริการตั้งแต่ห้างเปิดให้บริการ จนถึงเวลา 18.00 น. ซึ่งจะแจ้งวันที่ให้บริการแต่ละแห่งให้ทราบต่อไป

การตรวจสอบ

1. เจ้าหน้าที่สำนักงานคลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และบันทึกเข้าระบบ

2. ตรวจสอบเรียบร้อย จะได้รับรหัส OTP ทางโทรศัพท์ที่แจ้งไว้เพื่อยืนยันข้อมูลก็จะสมารถใช้งาน Application ถุงเงิน

  3. บมจ. ธนาคารกรุงไทย ดาวน์โหลด Application ถุงเงิน พร้อมให้คู่มือการใช้งานให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า กลับไป ในวันเดียวกัน

2. ร้านธงฟ้าประชารัฐ ที่ติดตั้งเครื่อง EDC ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” สามารถสมัครได้เช่นเดียวกับร้านค้าประเภท “ชิมช้อปใช้” โดยดำเนินการกรอกแบบฟอร์มและยื่นใบสมัครเช่นเดียวกันกับร้าน ชิมช้อปใช้ โดยไม่ต้องยื่นเอกสารหลักฐานเนื่องจากมีข้อมูลอยู่ในระบบแล้ว หลังจากนั้น ธนาคารกรุงไทยจะดาวน์โหลด Application ถุงเงิน พร้อมให้คู่มือการใช้งานให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า กลับไป ในวันเดียวกัน

3. ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าทั่วไป ที่มี Application ถุงเงินประชารัฐเดิมอยู่แล้ว ธนาคารกรุงไทย จะส่ง SMS เพื่อยืนยันการอับเดท Application ถุงเงินเวอร์ชั่นใหม่ หากสนใจเข้าร่วมมาตรการ ก็ยืนยันการอัพเดท Application ถุงเงิน และสามารถเข้าร่วมมาตรการได้ทันที ไม่ต้องกรอกใบสมัครและลงทะเบียนใหม่

ผู้ประกอบการ ร้านค้า ที่เข้าร่วมมาตรการ ชิมช้อปใช้  จะได้รับแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ติดที่ร้านหรือสถานประกอบการ เพื่อแสดงให้ผู้ที่มี Application เป๋าตัง ได้เห็น เพื่อเข้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการสามารถรับแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 แห่ง และที่กรมบัญชีกลาง  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด หรือ กรมบัญชีกลาง โทร. 0-2270-6400 กด 7. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย