กรมบัญชีกลางดีเดย์เปิดรับสมัครร้านค้าร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้”

กรมบัญชีกลาง 28 ส.ค. – กรมบัญชีกลางจับมือกรุงไทย ททท. ดีเดย์รับลงทะเบียนวันแรก ผู้ประกอบการ ร้านค้า ร่วมโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” คาดดึงผู้ประกอบการร่วม 1.3 แสนราย รองรับการใช้เงินนักท่องเที่ยวช่วงปลายปี  



นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กรมบัญชีกลางร่วมกับ 2 หน่วยงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และธนาคารกรุงไทย จัดทำ มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ  “ชิมช้อปใช้” เพื่อเชิญชวนให้ผู้ประกอบการ ร้านค้าทุกประเภท เข้าร่วมมาตรการ โดยวันนี้ (28 ส.ค.) เป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครร้านค้าส่วนกลางที่กรมบัญชีกลาง และภูมิภาคที่คลังจังหวัดทั่วประเทศ  เพื่อให้ร้านรายใหม่เข้าร่วมโครงการเพิ่มเติม เมื่อสมัครแล้วจะได้โหลดแอป “ถุงเงิน” ของธนาคารกรุงไทย และเปิดบัญชีออมทรัพย์รองรับการซื้อสินค้าจากนักท่องเที่ยว เป็นการเตรียมความพร้อมในส่วนของผู้ประกอบการ  เริ่มรับสมัครตั้งแต่  28 สิงหาคม – 20 กันยายน 2562 ไม่เว้นวันหยุดราชการ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการร้านค้า ที่พัก รีสอร์ท ร้านค้าชุมชน รายใหม่ 50,000 ราย รวมร้านค้ารายเดิมเป็น 130,000 รายทั่วประเทศ เพื่อรองรับการใช้เงินผ่านร้านค้าที่ติดป้าย  “ชิมช้อปใช้”   


ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจลงทะเบียนต้องเตรียมเอกสาร เช่น ใบทะเบียนการค้าจากกระทรวงพาณิชย์ หากเป็นร้านค้าชุมชนไม่มีเอกสารทะเบียนการค้า ขอให้ไปยื่นขอรับรองจากส่วนราชการในการขายสินค้าโอทอป หรือสินค้าชุมชน สามารถนำใบสมัครร่วมโครงการไปให้ส่วนราชการเซ็นรับรองในช่องที่กำหนด  นอกจากนี้ ททท.ยังจัดทำแผนที่ร้านค้าทั่วประเทศ โดยปักหมุดที่อยู่ร้านค้าให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ


ด้านนักท่องเที่ยว ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ทาง www.ชิมช้อปใช้.com ของ ททท.ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน  – 15 พฤศจิกายน 2562 (วัน/รอบละ 1 ล้านคน) จากนั้นให้โหลดแอปรับเงิน  “เป๋าตัง” (G-Wallet) จำนวน 10 ล้านคน ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 หลังจากนั้น 3 วัน จะได้รับ SMS เช่น หากลงทะเบียนวันแรก  23 กันยายน จะได้รับเงินไปใช้ในวันที่ 27 กันยายน และต้องใช้เงินเพื่อการท่องเที่ยวภายใน 14 วัน เพื่อให้เร่งการใช้จ่ายในต่างจังหวัดในช่วง 2 เดือน กันยายน – พฤศจิกายน 2562  ขอย้ำว่าการคืนเงินร้อยละ 15 จะส่งคืนในช่วงเดือนพฤศิกายน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมสังคมไร้เงินสด และย้ำว่าผู้ลงทะเบียนรับเงิน 1,000 บาทได้ทุกคนที่เป็นคนไทย แม้จะเป็นผู้บัตรสวัสดิการฯ 

น.ส.ชนกกร ชะนะโสภา หัวหน้าส่วนผู้บริหารงาน ทีม Channel Management ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อผู้ประกอบการร้านค้ามาลงทะเบียนต้องเปิดบัญชีออมทรัพย์กับธนาคารกรุงไทย ในส่วนของผู้ประกอบร้านค้ารายเดิมที่มี “แอปถุงเงิน” อยู่ก่อนแล้วให้รอรับ SMS จากธนาคารกรุงไทย เพื่ออัพเดทเวอร์ชั่นใหม่แอปถุงเงินรองรับการใช้บริการ  ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนกับเว็บไซต์ของ ททท. เมื่อรับเงิน 1,000 บาท เข้ามาแอป “เป๋าตัง” ในช่อง 1 จากนั้นให้นักท่องเที่ยวเติมเงินเข้าไปในช่อง 2 เพื่อใช้จ่ายเพิ่มเติมรองรับเงินคืนภายหลัง

สำหรับเงื่อนไขการเข้าร่วมมาตรการของประชาชน นักท่องท่องเที่ยวกำหนดให้

1. เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน

2. มีอายุ่ตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน

3. มี Smart Phone เครือข่าย Internet มี e-mail

วิธีการลงทะเบียน  

1. เข้าเว็บไซด์ www.ชิมช้อปใช้.com ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน (หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป) จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 (ถึง 24.00 น.)

2. กำหนดจำนวนรับลงทะเบียน วัน/รอบละ 1 ล้านคน

3. กรอกข้อมูล ชื่อนาม-สกุล เลขที่บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์ พร้อมเลือกจังหวัดที่ประสงค์

จะเดินทางไปใช้สิทธิ์ต้องไม่ใช่จังหวัดตามสำเนาทะเบียนบ้าน

4. เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะยืนยันให้ทราบทันทีว่าลงทะเบียนสำเร็จ และจะแจ้งทาง e-mail ให้ทราบอีกครั้ง กรณีลงทะเบียนไม่สำเร็จ (กรณีรายที่เกิน 1 ล้าน) ระบบจะแจ้งให้ทราบว่าเต็มจำนวนสำหรับรอบวันนั้นแล้ว) และสามารถลงทะเบียนได้อีกครั้งในรอบถัดไป

การพิจารณา

1. ข้อมูลจะถูกส่งไปตรวจสอบความถูกต้องกับกรมการปกครอง

2. ภายใน 3 วัน ธนาคารกรุงไทยจะส่ง SMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้  หากถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบว่า ได้รับสิทธิ์ พร้อมแจ้งรายละเอียด จังหวัด และระยะเวลา วันที่สามารถไปใช้สิทธิให้ทราบ (ภายใน 14 วัน หลังจากได้รับ SMS) หากไม่ถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบกรณีที่ผิดพลาด ซึ่งสามารถดำเนินการลงทะเบียนใหม่ในรอบถัดไปได้ (ขึ้นอยู่กับกรณีการผิดพลาดว่าจะลงทะเบียนใหม่ได้หรือไม่)  

ดาวน์โหลด Application เป๋าตัง เมื่อได้รับ SMS ยืนยันการได้รับสิทธิ์ ตามขั้นตอน

1. สแกนบัตรประจำตัวประชาชน

2. กรอกข้อมูลบัตรประชาชน

3. ถ่ายรูป Selfie ใบหน้าตนเอง

4. ยืนยันเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียน ด้วย OTP

5. แสดงผลการยืนยันตัวตน และแจ้งวงเงิน 1,000 บาท ในเป๋าตัง ช่อง 1 และเริ่มใช้งาน

6. มีเป๋าตัง ช่อง 2 เพื่อให้เติมเงินและนำไปใช้จ่าย และได้รับเงินชดเชย (Cash Back) 15% ของจำนวนเงิน

ที่ใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,500 บาท (วงเงินการใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท)

**ผู้ได้รับสิทธิ์  “ชิมช้อปใช้” สามารถนำวงเงิน 1,000 บาท ในเป๋าตัง ช่อง 1 ไปใช้ได้ทันที กับผู้ประกอบการ ร้านค้า ที่เข้าร่วมมาตรการ และมีแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” โดยมีระยะเวลาการใช้ 14 วัน หากใช้ไม่หมดเงินจะถูกตัดสิทธิ์ และไม่สามารถลงทะเบียนใหม่ได้อีก

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้า ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ประกอบด้วย

1. ผู้ประกอบการ ร้านค้า ชิมช้อปใช้

ประเภท “ชิม” เช่น ร้านจำหน่ายอาหาร จำหน่ายเครื่องดื่ม หรือ จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม

ประเภท “ช้อป” เช่น ร้านค้าท้องถิ่น รายสินค้า ประเภทผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP/วิสาหกิจชุมชน)

ประเภท “ใช้” สถานที่ให้บริการที่พัก เช่น โรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ หรือสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

2. ร้านธงฟ้าประชารัฐที่ติดตั้งเครื่อง EDC

3. ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าทั่วไป ที่มี Application ถุงเงินประชารัฐเดิมอยู่แล้ว

การเข้าร่วมมาตรการ

1. ผู้ประกอบการ ร้านค้า ประเภท ชิมช้อปใช้ ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ สามารถยื่นใบสมัคร โดยเตรียมเอกสารหลักฐาน ดังนี้

1.1 หนังสือรับรองการประกอบกิจการหรือใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการ จากหน่วยงาน

ราชการ เช่น สำเนาใบจดทะเบียนพาณิชย์ หนังสือจดทะเบียนการค้า หรือ

1.2 หนังสือรับรองจากหน่วยงานราชการอื่น ๆ ที่รับผิดชอบในการรับรองหรือออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า ในแต่ละประเภท ตามรูปแบบที่หน่วยงานนั้น ๆ กำหนด เช่น องค์การมหาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดเทศบาลเมือง เทศบาลตำบล เมืองพัทยา กรุงเทพมหานคร หรือ

1.3 กรณีหน่วยงานราชการไม่มีรูปแบบการออกใบรับรองหรือใบอนุญาต ก็สามารถให้หน่วยงานเซ็นต์รับรองในแบบฟอร์มใบสมัครเข้าร่วมมาตรการ ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด

1.4 มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ หรือกระแสรายวัน ชื่อบัญชีสถานประกอบการ 

หรือชื่อผู้ประกอบการ ฉบับจริงหรือถ่ายสำเนา หากไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ทาง ธนาคารกรุงไทย จะให้บริการรับเปิดบัญชีเงินฝาก ณ จุดบริการรับสมัคร เพื่อใช้งานตามมาตรการได้

1.5 มีมือถือ Smart Phone มีเครือข่าย Internet และหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดตั้ง Application ถุงเงิน

1.6 กรณีมอบอำนาจ ให้ติดอากรแสตมป์ 10 บาท ให้พยานเซ็นต์ชื่อรับรอง พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจไปประกอบด้วย

การยื่นสมัคร

1. ดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครได้ที่เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th หรือขอรับแบบฟอร์มได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด กรมบัญชีกลาง หรือจุดให้บริการ

2. ยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานดังกล่าว ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด และส่วนกลางที่ กรมบัญชีกลาง (ห้องกำปั่นเงิน) ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2562 ถึงวันที่ 20 กันยายน 2562 เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ

3. ยื่นใบสมัคร ณ จุดให้บริการ One Stop Service ทางส่วนกลาง 10 แห่ง ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 20 กันยายน 2562 ได้แก่ ห้างเทสโก้โลตัส สาขา บางแค/บางกระปิ/พระราม 1/หลักสี่/วังหิน ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขา ปิ่นเกล้า/พระราม 3/อีสต์วิล/พระราม 9 และแมคโคร จรัลสนิทวงศ์ ให้บริการตั้งแต่ห้างเปิดให้บริการ จนถึงเวลา 18.00 น. ซึ่งจะแจ้งวันที่ให้บริการแต่ละแห่งให้ทราบต่อไป

การตรวจสอบ

1. เจ้าหน้าที่สำนักงานคลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และบันทึกเข้าระบบ

2. ตรวจสอบเรียบร้อย จะได้รับรหัส OTP ทางโทรศัพท์ที่แจ้งไว้เพื่อยืนยันข้อมูลก็จะสมารถใช้งาน Application ถุงเงิน

  3. บมจ. ธนาคารกรุงไทย ดาวน์โหลด Application ถุงเงิน พร้อมให้คู่มือการใช้งานให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า กลับไป ในวันเดียวกัน

2. ร้านธงฟ้าประชารัฐ ที่ติดตั้งเครื่อง EDC ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” สามารถสมัครได้เช่นเดียวกับร้านค้าประเภท “ชิมช้อปใช้” โดยดำเนินการกรอกแบบฟอร์มและยื่นใบสมัครเช่นเดียวกันกับร้าน ชิมช้อปใช้ โดยไม่ต้องยื่นเอกสารหลักฐานเนื่องจากมีข้อมูลอยู่ในระบบแล้ว หลังจากนั้น ธนาคารกรุงไทยจะดาวน์โหลด Application ถุงเงิน พร้อมให้คู่มือการใช้งานให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า กลับไป ในวันเดียวกัน

3. ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าทั่วไป ที่มี Application ถุงเงินประชารัฐเดิมอยู่แล้ว ธนาคารกรุงไทย จะส่ง SMS เพื่อยืนยันการอับเดท Application ถุงเงินเวอร์ชั่นใหม่ หากสนใจเข้าร่วมมาตรการ ก็ยืนยันการอัพเดท Application ถุงเงิน และสามารถเข้าร่วมมาตรการได้ทันที ไม่ต้องกรอกใบสมัครและลงทะเบียนใหม่

ผู้ประกอบการ ร้านค้า ที่เข้าร่วมมาตรการ ชิมช้อปใช้  จะได้รับแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ติดที่ร้านหรือสถานประกอบการ เพื่อแสดงให้ผู้ที่มี Application เป๋าตัง ได้เห็น เพื่อเข้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการสามารถรับแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 แห่ง และที่กรมบัญชีกลาง  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด หรือ กรมบัญชีกลาง โทร. 0-2270-6400 กด 7. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

ศาลให้ประกัน “เอกราช ช่างเหลา” คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย ฐานยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น กว่า 1,200 ล้านบาท ก่อนได้รับการประกันตัวเพื่อสู้คดีต่อในชั้นศาลอุทธรณ์

สอบปากคำแล้ว 117 ปาก เร่งสางคดีตึก สตง.ถล่ม

รองผบช.น. เผย สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง คดีอาคาร สตง.ถล่มแล้ว 117 ปาก ยังรอสอบบริษัทควบคุมงาน-ออกแบบก่อสร้าง พร้อมนัดสอบ ‘ปฏิวัติ’ CEO กิจการร่วมค้า PKW 21 เม.ย. เร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง

ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดีทุกข้อหาชายซิ่งเก๋งชนกระบะ ระบุน่ารังเกียจ-ไร้วุฒิภาวะ

ผบ.ตร.จวกพฤติกรรมชายซิ่ง BMW ชนกระบะ “น่ารังเกียจ-ไร้วุฒิภาวะ” สั่งดำเนินคดีทุกข้อหา แม้เป็นลูกหลานนักการเมืองดังไม่มีละเว้น

ค้านนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐ

“สมาคมโคเนื้อ” นำมวลชนคัดค้าน “วัวอเมริกา”

สมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย นำเกษตรกรผู้เลี้ยงโคจาก 60 กลุ่มทั่วประเทศ กว่า 100 คน ชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรฯ​ เพื่อยื่นหนังสือถึง​นายกฯ และ​รัฐมนตรี​ 3 กระทรวง​ คัดค้านนโยบายการเปิดนำเข้าเนื้อโคและเครื่องในโคจากสหรัฐ​ หวั่นราคาตกต่ำซ้ำรอย​และ​กระทบ​สุขภาพประชาชน