ชัยภูมิ 6 เม.ย.-พระพร้อมลูกศิษย์ 3 คน เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ หลังทำพิธีแก้คุณไสยให้หญิงสาววัย 18 ปี ดื่มน้ำมนต์เต็ม 2 บาตร จนช็อกเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวพระอีก 1 รูป ที่ยังหลบหนี
เมื่อช่วง 23.00 น.คืนที่ผ่านมา (5 เม.ย.) ตำรวจ สภ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ได้รับการติดต่อจากญาติของพระบุญตัน บุญโนนแต้ พระลูกวัดพระสำนักสงฆ์ชองดู่ ต.ผานกเค้า ต.ผานกเคา อ.ภูกระดึง จ.เลย ว่าจะนำตัวผู้ถูกกล่าวหาและลูกศิษย์รวม 4 คน ประกอบด้วย พระภิกษุบุญตัน บุญโนนแต้ อายุ 66 ปี น.ส.กรรณิการ์ ไม้สังข์ อายุ 37 ปี ชาว จ.นครปฐม, น.ส.บุญหลาย จันลา อายุ 36 ปี ชาว จ.อุดรธานี และนายมงคล ใยแก้ว อายุ 33 ปี ชาว จ.อุดรธานี เข้ามอบตัวกับ พนักงานสอบสวน สภ. แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ หลังทราบข่าวว่าทั้งหมดถูกออกหมายจับในข้อหาร่วมกันกระทำการโดยประมาท จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดทั้ง 4 ราย ได้เข้ามอบตัว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ทั้งหมดให้การปฏิเสธ และขอยื่นประกันตัวในวงเงินคนละ 400,000 บาท ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ก่อนตำรวจจะควบคุมตัวไปที่สำนักงานตํารวจแห่งชาติ โดยจะมีการแถลงข่าวในวันนี้
เหตุการณ์นี้สืบเนื่องจาก นายขาน เชิดจอหอ อายุ 48 ปี และนางดวงจิต คณาเขว้า อายุ 38 ปี สองสามีภรรยา พร้อมด้วยญาติเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ พ.ต.ท.คม คุ้มโนนคร้อ รอง ผกก.สอบสวน สภ.แก้งคร้อ ตั้งแต่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา กล่าวหา พระโอภาษ ศรีสง่า อายุ 41 ปี และพระบุญตัน หรือหลวงพ่อน้อย ที่ชาวบ้านเรียกกัน พระวัดท่าเว่อ บ้านท่าเวอ ต.เก่าย่าดี อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ที่อ้างตัวเป็นพระเกจิดัง มีวิชาคุณวิเศษว่าช่วยแก้มนต์ดำให้คนที่ถูกคุณไสยเล่นงานได้ โดยพระโอภาษ และพระบุญตัน บอกให้ น.ส.สุพัก เชิดจอหอ บุตรสาววัย 18 ปี ของสองสามีภรรยา เข้าพิธีแก้คุณไสย ดื่มน้ำมนต์ที่พระกลุ่มนี้ทำขึ้น จนหมดเต็ม 2 บาตรพระ ก่อนที่ลูกสาวจะเริ่มมีอาการอาเจียนหลายสิบครั้ง จนล้มชักตัวเกร็ง ช็อกหมดสติเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.61 และกลุ่มพระ 2 รูป ดังกล่าว พร้อมญาติโยมต่างถิ่นอีก 3 คน ได้พากันหลบหนีหายออกจากวัด เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเกาะรอยติดตามตัวกลุ่มพระดังกล่าว
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.61 ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาหลักฐานภายในวัดอย่างละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตรวจค้นศาลาวัดที่เกิดเหตุ พบกระติกน้ำมนต์ใบใหญ่ข้างในมีน้ำมนต์เกือบเต็ม และพบน้ำมนต์ที่ปลุกเสกบรรดจุขวดอยู่ในตู้เย็นอีกเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบรอบๆ ศาลายังพบโอ่งน้ำขนาดใหญ่จำนวนมากตั้งอยู่ด้านหลังของศาลา เมื่อเปิดพบว่ามีน้ำอยู่เต็มทุกโอ่ง นอกนั้นยังพบร่องรอยการประกอบอาหาร แต่ไม่พบว่าไม่มีผู้อาศัยอยู่ในวัด ข้าวของเครื่องใช้ถูกทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก ก่อนหน้าที่จะมาก่อเรื่องพระโอภาษ และพระบุญตัน เคยถูกชาวบ้านท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ขับไล่ออกจากวัดท่ามะไฟหวาน พระทั้งสองรูปจึงพากันเดินทางหนีไปอยู่ จ.เลย ก่อนกลับมาขออาศัยอยู่ในวัดร้างในหมู่บ้านท่าเว่อ
สอบถามชาวบ้านเล่าว่า จริงๆ วัดท่าเว่อ ไม่ได้เป็นวัดร้าง เพียงแต่ไม่มีเจ้าอาวาส มีสามเณรลีโอ จำวัดอยู่เพียง 1 รูป แต่ในช่วงเกิดเหตุได้เดินทางไปศึกษาธรรมมะต่างจังหวัดได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว จนมีกลุ่มพระโอภาษ และหลวงพ่อบุญตัน กลับมาขออาศัยอยู่ในวัด ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ค่อยได้สนใจพระทั้ง 2 รูปนี้เท่าไรนัก จนกระทั่งก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ด้าน พ.ต.ต.วิญญู พื้นหินลาด กล่าวว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ภายในวัดอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่พบหลักฐานเพิ่มเติมคือถังน้ำมนต์ ซึ่งจะนำน้ำมนต์ที่ได้ส่งไปตรวจตามขั้นตอนอีกครั้ง และจะเร่งติดตามตัวพระโอภาษ ศรีสง่า ที่ยังหลบหนี ต่อไป.-สำนักข่าวไทย