ผู้เชี่ยวชาญ ปัดยุติการครรภ์ป่วยซิกา ชี้โอกาสพิการน้อยกว่าหัดเยอรมัน

สำนักข่าวไทย 2 ต.ค- ผู้เชี่ยวชาญ ย้ำ ซิกา รุนแรง น้อยกว่า ไข้เลือดออก แต่ก่อให้เกิดความพิการในทารก ป้องกันทายากันยุง และสวมถุงยางอนามัย พร้อมเผยยุติการตั้งครรภ์ไม่แก้ปัญหา เพราะโอกาสพบความพิการน้อยกว่า หัดเยอรมันโอกาสเกิดแค่ร้อยละ 1-30


นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการ จัดทำคำแนะนำเกี่ยวกับไข้ซิกา ว่า  ขณะนี้ยังต้องรอผลการตรวจยืนยันใน เด็กทารก ที่มีภาวะศีรษะเล็กลีบ อีก1 ราย และรอการคลอดของทารกในครรภ์มารดาที่ป่วยซิกา ที่จะครบกำหนดคลอดในอีก 4 สัปดาห์ หน้าว่า จะมีศีรษะเล็กหรือไม่ ซึ่งการตรวจนอกจากดูลักษณะทางกายภาพศีรษะเล็ก ยังต้องร่วมกับการตรวจเลือดด้วย  ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุระยะเวลาได้ ทำให้ไทยยังคงพบเด็กศีรษะเล็กจากไข้ซิกาเพียง 2 รายเท่านั้น

นพ.ทวี กล่าวว่า สำหรับโรคซิกา ต้องยอมรับเป็นโรคใหม่ ที่ทั่วโลกให้การศึกษาและสนใจติดตามใกล้ชิด แม้ว่า ความรุนแรงจะใกล้เคียงกับหัดเยอรมัน ที่ทำให้เด็กเกิดมาพิการ แต่อัตรารุนแรงไม่เท่า จึงไม่สามารถตัดสินให้มีการยุติการตั้งครรภ์ได้ เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน ต้องอ้างอิงตามหลักวิชาการ ใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน คือการจะยุติการตั้งครรภ์จะทำได้ตามกฎหมายต่อเมื่อ ครรภ์นั้นก่อให้เกิดอันตรายแก่ ร่างกายมารดา หรือจิตใจ    ซึ่งในส่วนของหัดเยอรมัน ความพิการของทารกในครรภ์ เกิดขึ้นได้ 100 เปอร์เซนต์ ทำให้ ตา หัวใจ หู พิการแต่กำเนิด จึงทำให้ทั่วโลกตัดสินให้ยุติการตั้งครรภ์ได้


นพ.ทวี กล่าวว่าสำหรับโรคไข้ซิกา แม้จะรุนแรงในหญิตั้งครรภ์ แต่โอกาสทำให้เกิดความพิการมีแค่ร้อยละ 1-30 เท่านั้น ถ้าหญิงครรภ์เกิดป่วยในอายุครรภ์ที่มาก 6- 9 เดือน โอกาสที่ทารกเกิดมาจะพิการมีแค่ร้อยละ 1 แต่อายุครรภ์ อาจเกิดควารมพิการได้ร้อยละ 30  แสดงว่า โอกาสที่ทารกแรกเกิดจะไม่พิการมีมากถึงร้อยละ 70 จึงถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมีการตัดสินใจอย่างรอบคอบ และสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคซิกา นอกจากหญิงครรภ์ ทายากันยุงแล้ว ยังครอบคลุมไปถึงการสวมถุงยางอนามัย ป้องกัน ทุกครั้งในการมีเพศสัมพันธ์ของหญิงครรภ์ที่มีอายุครรภ์น้อย ไม่กี่สัปดาห์  เพื่อป้องกันการติดเชื้อ  เพราะไข้ซิกา มีการติดต่อทั้งจากยุงลาย และเลือดโดยการมีเพศสัมพันธ์

นพ.ทวี กล่าวว่า สำหรับการทายากันยุง ในหญิงครรภ์ ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และไม่ก่ออันตราย เช่นตะไคร้หอม เพราะถือว่าเป็นสมุนไพรไทย พื้นที่บ้าน ควรทายากันยุง ให้เป็นนิสัย และสวมเสื้อแขนยาวเพื่อป้องกันยุงกัด .-สำนักข่าวไทย

 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง