“ทวี” ลั่นคดีตากใบ ผ่านมาหลายรัฐบาล แต่คืบหน้ายุค “แพทองธาร”

ทำเนียบ 1 ต.ค.-“ทวี” รมว.ยุติธรรม ขอความเป็นธรรม ปัดช่วย สส.เพื่อไทย ลั่นคดีตากใบผ่านมาหลายรัฐบาล แต่คืบหน้ายุค “แพทองธาร” ย้ำเจ้าหน้าที่รัฐไม่เกียร์ว่าง เร่งสืบสวนนำผู้เกี่ยวข้องมาขึ้นศาล หลังมีข่าวอยู่ต่างประเทศ พร้อมหาช่องต่ออายุคดี

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีผู้ต้องหาคดีตากใบซึ่งปัจจุบันลี้ภัยอยู่ต่างประเทศว่า อยากให้มองด้วยความเป็นธรรมกับรัฐบาล เพราะคดีตัดใบเกิดมาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผ่านรัฐบาลมาหลายยุค และเหมือนไม่ทำอะไรแต่รัฐบาลปัจจุบัน ทางตำรวจได้ส่งสำนวนคดีขึ้นไปสู่กระบวนการ และขณะนี้ทางอัยการได้สั่งฟ้องกลุ่มข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอัยการมองว่าน่าจะมองเห็นผลจึงมีการสั่งฟ้องในรัฐบาลชุดนี้ และศาลก็รับฟ้องในรัฐบาลชุดนี้เช่นเดียวกัน ขณะนี้มีเวลาเหลือ 25 วัน อย่างไรก็ตามเป้าหมายของประชาชนไม่ได้รู้สึกแค้น แต่ต้องการให้ผู้ถูกฟ้องทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลดังนั้นหากศาลออกหมายจับก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


เมื่อถามว่าคดีดังกล่าวมาในช่วงกระชั้นชิดเกินไปจนอายุจะหมดคดีความอยู่แล้ว พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า ถือเป็นช่วงที่ท้าทาย รวมถึงนายภูมิธรรมเวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พูดถึงเรื่องนี้ไปแล้วจึงอยากให้สื่อไปสอบถามเพิ่มเติม เพราะท่านเป็นผู้ดูแลตำรวจ และหากปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปโดยไม่เข้าสู่กระบวนการตัดสิน ก็จะเป็นตราบาปของแต่ละคน

เมื่อถามว่าความรู้สึกของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากคดีตากใบมองว่าเจ้าหน้าที่ไม่เร่งดำเนินการ และรอให้คดีหมดอายุความ พันตำรวจเอกทวีสอดส่อง ระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐได้กำลังดำเนินการอยู่ แต่ในการสืบสวนจับกุมต้องเป็นความลับ และต้องทำทุกวิถีทางจึงอยากให้เห็นว่าเรื่องคดีตัดใบมาคลี่คลายในรัฐบาลชุดนี้ ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมดจะไปขึ้นศาลหรือไม่ เชื่อว่าขณะนี้ตำรวจกำลังทำงานอยู่


ส่วนกรณีที่ผู้เกี่ยวข้องเป็นส.สพรรคเพื่อไทย จะถูกมองว่าอุ้มหรือช่วยเหลือกันหรือไม่ พันตำรวจเอกทวีกล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลาที่ศาลนัดและไม่รู้ว่าสารออกหมายจับแล้วหรือไม่ วันนี้ใครก็ไม่สามารถเอาตัวท่านไปได้ ต้องรอหมายจับก่อน

เมื่อถามว่าแม้เรื่องนี้จะมาคลี่คลายในรัฐบาลปัจจุบัน แต่หากไม่สามารถนำผู้ที่เกี่ยวข้องมาขึ้นศาล จนคดีหมดอายุความก็จะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาลเช่นกัน พันตำรวจเอกทวีกล่าวว่า ตนเองเชื่อมั่นว่าประชาชนเข้าใจในความจริงใจในการทำงานของรัฐบาล และมีเวลาเหลืออีก 25 วันขอให้เวลาในการทำงานก่อน.-317.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

เปิดปฏิบัติการ “สยบนาคี” จุดจบแก๊งทุจริตยา

ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ป.ป.ช. บุกรวบแพทย์หญิง และเครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก พบข้อมูล ไปจ้างคนที่มีสิทธิเบิกราชการ หัวละ 1,000 เข้ามารับยา ก่อนเอาไปปล่อยต่อเม็ดละ 20 บาท โกยเงินเข้ากระเป๋า 60 ล้าน ทำมาแล้ว 8 ปี

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.สั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]