“ทวี” ยันจะใช้เวลา 3 ปีที่เหลือ เดินหน้าแก้ รธน.

ทำเนียบ 1 ต.ค.-“ทวี” เชื่อ สว.คว่ำร่างประชามติ ไม่เกี่ยวพรรคสีน้ำเงิน ยืนยันจะใช้เวลา 3 ปีที่เหลือ เดินหน้าแก้ รธน. บอกไม่มีใครสั่งรัฐบาลได้ นอกจากประชาชน

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะนัดหารือแกนนำพรรคการเมือง เรื่องแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้นัด เพียงแต่ได้ยินจากสื่อมวลชน โดยปกติพรรคร่วมรัฐบาลจะนัดคุยกันอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมามีเหตุการณ์น้ำท่วม จึงต้องไปช่วยเหลือประชาชนก่อน แต่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ซึ่งตามระยะเวลาของรัฐบาลจะอยู่อีก 3 ปี ในการแก้รัฐธรรมนูญถือเป็นเจตจำนงของรัฐบาล ที่จะต้องแก้ ก็ต้องคุยกัน เพราะต้องใช้เสียงในสภา คือการยกมือลงมติ


เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องพึ่งเสียง สว. จึงถูกมองว่ามีบางพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพื่อให้การแก้รัฐธรรมนูญเป็นไปตามแนวทางของตัวเอง พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า “ไม่เชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะเริ่มต้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอนุทิน ชาญวีรกูลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็พูดเรื่องนี้เป็นคนแรก ที่ผมนั่งอยู่ด้วยนะ“

และเมื่อถามย้ำว่า จะเป็นใบสั่งของ พรรคสีน้ำเงินที่ให้ สว.คว่ำร่าง พ.ร.บ. ประชามติหรือไม่ พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่มี คนที่จะสั่งรัฐบาลได้ คือประชาชน  ประชาชนไม่ได้อยู่รับใช้รัฐบาล รัฐบาลต้องอยู่รับใช้ประชาชน คนที่จะสั่งรัฐบาลได้ก็คือประชาชน


ส่วนการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลต้องเป็นในแนวทางเดิมหรือไม่ กล่าวว่า การหารือคือการเสวนาไม่ใช่การโต้วาที เพราะฉะนั้นสามารถมีความเห็นแตกต่างกันได้ แต่สุดท้ายจะจบด้วยความสามัคคีกันของทุกฝ่าย

ส่วนการที่สมาชิกวุฒิสภามีมติความเห็นร่วมกันในการเปลี่ยนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นการทำประชามติแบบ 2 ชั้น จะส่งผลเสียอย่างไรต่อการทำประชามติ พันตำรวจเอกทวี ระบุว่า เป็นอำนาจของสมาชิกวุฒิสภา เพราะการมีความเห็นไม่ตรงกันสามารถแย้งให้ขึ้นมาได้ จึงไม่กังวลว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทันในสมัยของรัฐบาลชุดนี้ สุดท้ายขึ้นอยู่กับเหตุผลของแต่ละฝ่าย แม้สมาชิกวุฒิสภาชุดนี้จะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรง แต่มาโดยระบบการเลือกตั้งทางอ้อม จึงต้องเห็นความสำคัญ เพราะเชื่อว่าเห็นข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญฉบับนี้.-317.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]