ฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 31 มี.ค.- นายกรัฐมนตรี ย้ำความสำเร็จของ GMS ตลอด 25 ปี พร้อมสนอแผนพัฒนา 3C ในเวที GMS Summit ครั้งที่6 หวังเกิดผลเป็นรูปธรรมสร้างความรุ่งเรืองให้อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
“มนชนก พัฒนพงศ์” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ หรือ GMS Summit ระหว่างวันที่ 30-31 มีนาคม ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รายงานว่า นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุม GMS Summit ครั้งที่ 6 วันนี้ (31 มี.ค.) ใน หัวข้อ “การใช้ประโยชน์ของความร่วมมือและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อบูรณาการให้เกิดความมั่งคั่งร่วมกัน ใน รอบ 25 ปี ที่ผ่านมา” (Leveraging on 25 Years of Cooperation, and Building a Sustainable, Integrated, and Prosperous GMS) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติเวียดนาม
นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลง เน้นย้ำบทบาทและความสำเร็จของ GMS ที่มีมาต่อเนื่องถึง 25 ปี โดยเฉพาะความสำเร็จในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อเชื่อมโยงประชาชน 340 ล้านคนของทั้ง 6 ประเทศ และการบูรณาการการพัฒนาเชิงพื้นที่ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจ (Economic Corridor) เพื่อยกระดับรายได้ ลดความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน
นายกรัฐมนตรี ได้เสนอให้มีการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งให้มีคุณภาพโดยให้ความสำคัญ 3 ประเด็น คือ เพื่อการเชื่อมโยงอย่างมีคุณภาพไร้รอยต่อ (Connectivity) ,มุ่งสู่อนุภาคที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง (Conpetitiverness) และ ความยั่งยืน (Community) โดยการเชื่อมโยงอย่างมีคุณภาพไร้รอยต่อ (Connectivity) ไทยได้เร่งพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งไปยังประตูเชื่อมโยง ตามแนวชายแดน และเร่งพัฒนาอย่างรอบด้าน เพื่อมุ่งสู่อนุภาคที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง (Conpetitiverness) ซึ่งไทยยังเร่งพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ผ่านการพัฒนาเชิงพื้นที่ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่ง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อผลักดันให้ไทยเข้าสู่ยุค 4.0 อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกภายใต้โคงการ EEC ให้สามารถสนับสนุนการ เชื่อมโยงการผลิตกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคและโลก จึงขอให้ประเทศสมาชิกแผนงาน GMS ยึดหลัก 3 M ได้แก่ ความไว้เนื่อเชื่อใจ(Mutual Trust) การเคารพซึ่งกันและกัน(Mutual Respect) และการมีผลประโยชน์ ร่วมกัน(Mutual Benefit) และการผลักดันให้ GMS เป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน มีความตั้งใจ และยั่งยืน (Community) พร้อมหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะเกิดผลเป็นรูปธรรม นำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและความสามัคคีในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง .- สำนักข่าวไทย .-สำนักข่าวไทย