อุดรธานี 29 มี.ค.-ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหานายทุนดอกเบี้ยโหดอุดรธานี ด้านผู้ต้องหายังปฏิเสธ ยันเก็บดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนด แจ้งลูกหนี้ทุกครั้ง
หลังจากที่วานนี้ อัยการจังหวัด ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ สนธิกำลัง เข้าตรวจค้นบ้านนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหดพร้อมกัน 2 จุด ในอำเภอหนองหาน และเทศบาลนครอุดรธานี ของน.ส.แสงมณี ศิริคุณธรรม หลังมีประชาชน 12 คน เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี และที่ มทบ.24 ว่า น.ส.แสงมณี ปล่อยเงินกู้เรียกรับดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด มีพฤติการณ์ให้ชาวบ้านนำที่ดินมาขายฝาก แต่จะหักค่าดำเนินการเป็นค่านายหน้า ทำให้ได้เงินไม่เต็มจำนวนเงินต้น ทั้งยังต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 5 ทุกเดือน เมื่อพ้นกำหนดเวลาขายฝากก็ยังให้ผ่อนต่อ และหากอยากได้โฉนดคืน ต้องจ่ายเงินต้นสูงกว่าเงินขายฝากจริงหลายเท่าตัว จากการตรวจค้นยึดเอกสารได้หลายรายการ ทั้งโฉนดที่ดิน, สำเนาโฉนดที่ดิน, สมุดบัญชีเงินฝาก และเอกสารอื่น ๆ ส่วนที่ สภ.หนองหานพบว่ามีชาวบ้านถึง 11 คนแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวแสงมณี ซึ่งขณะนี้ยังให้การปฏิเสธ ระบุปล่อยเงินกู้หาเลี้ยงตัวเองมากกว่า 30 ปี เงินทุนได้มาจากมรดก หยิบยืมญาติพี่น้อง บางส่วนกู้จากธนาคาร คิดดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 3 ต่อเดือน ไม่ได้ทำผิดกฎหมายใดๆ ที่ผ่านมาถูกลูกหนี้โกงไปเยอะ จำนวนเงินมากๆก็ทำแบบ “ขายฝาก” ที่ สนง.ที่ดินจังหวัด สาขา อ.หนองหาน เจ้าหน้าที่ก็ชี้แจงให้ลูกหนี้ฟังแล้ว เมื่อสิ้นสุดสัญญาและขาดส่ง ก็ยึดเอาที่ดินทุกคนก็รู้ พอราคาที่ดินสูงขึ้นก็มาขอไถ่ ก็ให้ไถ่ไปตามราคาตลาด ยืนยันไม่ได้คิดโกงใคร
ขณะที่ชาวบ้านเมื่อรู้ข่าวได้มาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้กว่า 10 คน บอกว่า นำเอกสาร เช่น โฉนดที่ดิน มาจำนำไว้กับนางแสงมณีฯ โดยจะไปทำสัญญากันที่สำนักงานที่ดินจังหวัด สาขาหนองหาน แต่เวลาเข้าไปทำเรื่อง ชาวบ้านทุกรายจะไม่ได้เข้าไปในสำนักงานที่ดินฯเลย มีเพียงนางแสงมณี เข้าไปเพียงคนเดียว พอทำเรื่องเอกสารต่าง ๆ เสร็จ ทางนางแสงมณี ก็ไม่ให้ดูเอกสาร เมื่อถึงเวลาไถ่ถอน กลับต้องเสียเงินไถ่ถอนมูลค่าสูงเป็นเท่าตัว
ด้านอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดอุดรธานีเผยได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ สอบปากคำ เก็บข้อมูลจากผู้เสียหายไว้แล้วตั้งแต่มกราคม แต่ตำรวจเพิ่งได้รับแจ้งความ เบื้องต้น น.ส.แสงมณี ถูกดำเนินคดีตามความผิดมาตรา 3 พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนจะเรียกชาวบ้านที่เข้าแจ้งความ เข้ามาสอบปากคำ รวมทั้ง ตรวจสอบเอกสาร หลักฐานต่างๆ ที่ยึดมา หากพบความผิดอีก ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย