กรมทางหลวงเข้ม 47 สายทางระวังเป็นพิเศษช่วงสงกรานต์

กรมทางหลวง 29 มี.ค.-กรมทางหลวงเตือน 47
สายทางต้องระวังเป็นพิเศษช่วงสงกรานต์ ระบุสาเหตุมาจากขับรถเร็ว  หลับใน 
ตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร เน้นดูแลเข้มข้นเป็นพิเศษ


นายธานินทร์  สมบูรณ์  อธิบดีกรมทางหลวง
เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมของกรมทางหลวงในการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์
2561 
ว่าปีนี้จะเน้นการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่นกรมทางหลวงชนบท  กรมการขนส่งทางบก
โดยมีเป้าหมายเข้มข้นยกกำลังสาม เพื่อลดอุบัติเหตุแก่ผู้เดินทางโดยปีนี้ กระทรวงคมนาคมมีเป้าหมายที่จะให้อุบัติเหตุเป็นศูนย์
ใน
77 สายทางที่กระทรวงคมนาคม คัดเลือกมา
โดยเป็นของกรมทางหลวง
47 สายทางกรมทางหลวงชนบท   30
สายทางโดยคัดเลือกจากพื้นที่นำร่องภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคม กับ
Ministry
of Land, Infrastructure, Transport and Tourism (MLIT) แห่ง
ประเทศญี่ปุ่น จำนวน
8 
สายทาง 
สายทางที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 
2560 จำนวน 24 สายทาง  
สายทางที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดในรอบปี
2560 จำนวน 5  สายทาง เส้นทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวที่ประชาชนนิยมท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์
จำนวน
10  สายทาง

ทั้งนี้กรมทางหลวงได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่
สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวง เตรียมความพร้อมเส้นทางให้สมบูรณ์
100%ในทุกมิติโดยดำเนินการเป็นมาตรการที่เพิ่มขึ้นพิเศษจากมาตรการปกติ
ช่วงก่อน โครงการ
777 ยกกำลังสาม 
ทำการตรวจสอบความปลอดภัยเชิงลึกและเร่งปรับปรุงแก้ไข
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุตรวจสอบความครบถ้วนของป้ายเตือน  และติดตั้งป้ายเตือน  ไฟกระพริบ และ/หรือ ไฟฟ้าชั่วคราว(ถ้าจำเป็น)
เพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุบ่อยครั้งตรวจสอบระยะมองเห็นบริเวณทางแยกทางเชื่อม
และปรับปรุงให้มีระยะเพียงพอในการหยุดรถได้ทันตรวจสอบผิวจราจรและไหล่ทางให้อยู่ในสภาพดี 
ไม่เป็นอุปสรรคต่อการขับขี่ตรวจสอบอุปกรณ์นำทางต่างๆให้เพียงพอในการขับขี่เวลากลางคืน


ช่วง 7 วันก่อนเทศกาลสงกรานต์
ตรวจสอบความพร้อมของเส้นทางในการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยประชุมซักซ้อมการทำงานร่วมกันเป็นทีม
One Transport ประกอบด้วย กรมทางหลวง  กรมทางหลวงชนบท  กรมการขนส่งทางบก และตำรวจทางหลวง
ตั้งเต็นท์อำนวยการบริเวณพื้นที่ เสริมป้าย
Vinyl เตือนและรณรงค์เป็นระยะๆตลอดเส้นทางที่ถนนลื่นเมื่อฝนตก  ให้ติดตั้งป้ายเตือนฝนตกถนนลื่นทุกระยะ 200 เมตร จนสิ้นสุดช่วงที่ถนนลื่น รวมถึงป้ายเตือนง่วงให้จอดพัก

ช่วง 7 วันระหว่างเทศกาลสงกรานต์
วิ่งตรวจเส้นทางและระยะๆ 
และตั้งจุดเฝ้าระวังตลอดเส้นทางประสานตั้งจุดตรวจความเร็วและความเมา  พร้อมป้ายเตือน
กรณีฝนตกตั้งป้ายเตือนพร้อมไฟกระพริบให้ลดความเร็ว เป็นระยะๆ
เส้นทางที่มีความเสี่ยงหลับใน 
ให้ติดตั้งไฟกระพริบเป็นระยะ  ประสานเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก
หรือตำรวจในการตั้งจุดตรวจโดยเน้นหลังเที่ยงคืน
กรณีมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นต้องถึงหน้างานโดยเร็ว 
และรายงานรายละเอียด พร้อมสาเหตุเชิงลึกและช่วง
7
วันหลังเทศกาลสงกรานต์
เริ่มลดระดับการเฝ้าระวังเพื่อเข้าสู่สภาวะปกติเก็บข้อมูล  และสรุปข้อมูลเพื่อประเมินผล

สำหรับเส้นทางดังกล่าวประกอบด้วยเส้นทางหลวงนำร่องตามโครงการ One Transport  47 สายทางอาทิ  ทางหลวงหมายเลข 1 ตอนโนนปอแดง
– ปากดง ระหว่าง กม.
386 – 394   จังหวัดกำแพงเพชร  ทางหลวงหมายเลข 1 ตอนวังม่วง
– แม่เชียงรายบน ระหว่าง กม.
535 – 540 จังหวัดตาก ทางหลวงหมายเลข
4 ตอนหนองหมู ห้วยยาง     ระหว่าง กม. 276 +813- 295 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทางหลวงหมายเลข 4 ตอนน้ำรอด-พ่อตาหินช้าง    ระหว่าง กม. 425-440 จังหวัดชุมพร  ทางหลวงหมายเลข ตอนเขาพับผ้า – พัทลุง  ระหว่าง กม. 1158+ 1163
จังหวัดพัทลุง


สำหรับ 47 เส้นทางมูลเหตุการเกิดเหตุมาจาก ขับรถเร็ว   หลับใน 
เมาสุรา  ตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด
ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร โดยกรมทางหลวงได้มีมาตรการในเส้นทางดังกล่าวเข้มข้นเป็นพิเศษมากขึ้นโดยติดป้ายจำกัดความเร็วมากขึ้น
ตั้งจุดสกัด เพิ่มป้ายเตือน เช่น
Rumble Strip  ไฟกระพริบ
รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์กันชนกันตก 
เช่นราวกั้นอันตราย แท่ง
barrier คอนกรีต เป็นต้น
จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจโดยใช้ไฟวับวาบ
ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนเพื่อป้องกันการหลับในรวมทั้งเตือนสติผู้ขับขี่ อย่างไรก็ตามกรมทางหลวง
ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางศึกษาเส้นทางก่อนการออกเดินทาง ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง
พักผ่อนให้เพียงพอ และหากรู้สึกง่วงขณะขับรถให้จอดแวะพักในจุดบริการของกรมทางหลวง
รวมทั้งต้องไม่ขับขี่ขณะมึนเมา และที่สำคัญขอให้เคารพกฎจราจร กฎหมายอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งขอความร่วมมือในการปฎิบัติตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมได้แก่ ขับรถช้า
เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัด ทั้งนี้หากมีปัญหาในการเดินทาง โทรสอบถามได้ที่สายด่วน
กรมทางหลวง
1586 โทรฟรี 24 ชั่วโมง-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ