ครม.เห็นชอบงบกลางปี 1.5 แสนล้านบาท

ทำเนียบฯ 13 มี.ค. – ครม.เข็นงบกลางปี 1.5 แสนล้านบาท มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในภูมิภาค สนช.พิจารณาวาระแรก 22 มี.ค.นี้


นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มประจำปีงบประมาณ 2561 หรืองบกลางปีวงเงิน 150,000 ล้านบาท เพื่อจัดทำรายละเอียดโครงการ แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล 100,358  ล้านบาท และรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 49,641 ล้านบาท เพื่อจัดสรรให้แต่ละกระทรวงใช้ดำเนินการตามนโยบาย หลังจาก ครม.เห็นชอบกรอบวงเงินไปแล้วช่วงที่ผ่านมา 

ทั้งนี้ แบ่งเป็น 3 ด้าน คือ 1.แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตวงเงิน 21,078 ล้านบาท เพื่อยกระดับสวัสดิการส่งเสริมสร้างโอกาสทางอาชีพการจ้างงานผู้มีรายได้น้อย  มอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นผู้ดำเนินการ  2.แผนงานยุทธศาสตร์ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและพัฒนาศักยภาพชุมชนวงเงิน 50,378 ล้านบาท พัฒนาและสร้างอาชีพชุมชน สนับสนุนวิสาหกิจชุมชน การท่องเที่ยวชุมชน โครงการดำเนินการโดยกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกองทุนหมู่บ้าน วงเงิน 35,358.1 ล้านบาท


3.ยุทธศาสตร์ด้านความสามารถในการแข่งขันของประเทศ  มุ่งปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร   24,300 ล้านบาท เพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตให้สอดคล้องกับตลาด ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้แก่เกษตรกรรายย่อย ส่งเสริมตลาดสมัยใหม่แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร กระทรวงรับผิดชอบ คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงมหาดไทย จากยุทธศาสตร์ทั้ง 3 ด้าน เมื่อแยกเป็นรายกระทรวง นับว่ากองทุนและเงินทุนหมุนเวียนได้รับจัดสรร 34,022 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการฯ  กระทรวงมหาดไทยได้รับวงเงิน 31,875 ล้านบาท  กระทรวงเกษตรฯ ได้รับจัดสรร 22,742 ล้านบาท ที่ประชุมเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานใช้งบประมาณตามแผนโดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการพัฒนาอาชีพให้ผู้มีรายได้น้อยเฟส 2 

ทั้งนี้ คาดว่าร่าง พ.ร.บ.งบกลางจะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วาระแรกวันที่ 22 มีนาคมนี้ จากนั้นนำขึ้นทูลเกล้าฯ วันที่ 30 มีนาคม. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง