สะพานขาว 28 ก.พ.-รองปลัด พม.เผย คกก.เตรียมเรียกสอบ 2 ผู้บริหารกรณีทุจริตเงินสงเคราะห์สัปดาห์หน้า พร้อมย้ำกำชับพื้นที่ให้ความร่วมมือ ป.ป.ท.หลังพบบางศูนย์ดึงเวลาไม่ยอมส่งข้อมูล
นางไพรวรรณ พลวัล รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสัคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และรักษากาการปลัด พม.เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบข้อเท็จจริง 2 ผู้บริหาร พม. กรณีการทุจริตเงินสงเคราะห์ว่าเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม.ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จำนวน 4 คน นำโดย พ.ต.ท.เธียรรัตน์ วิเชียรสรรค์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ, นายวัลลภ นาคบัว ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม, นายพิรุณ เพียรล้ำเลิศ ที่ปรึกษาระบบราชการ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) และนางสุภัชชา สุทธิพล ผู้ตรวจราชการ พม. ซึ่งจะเริ่มประชุมในสัปดาห์หน้าเพื่อให้การสอบข้อเท็จจริงได้ข้อสรุปรวดเร็วที่สุด หากไม่พบผิดจะย้าย 2 ผู้บริหารดังกล่าวกลับมาปฏิบัติหน้าที่เช่นเดิม
ส่วนกรณีคณะกรรมการมี 4 คน หากสุดท้ายมีความเห็นเสมอกัน ใครจะเป็นผู้ชี้ขาด นางไพรวรรณ กล่าวว่า หากคณะกรรมการลงความเห็นเสมอกัน ก็เป็นหน้าที่ประธานที่จะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดต่อไป และเนื่องจากขณะนี้มีสื่อมวลชนสอบถามกรณีดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ทางคณะผู้บริหารจึงหารือกันว่าจะจัดให้มีการแถลงข่าวทุกบ่ายวันพุธเพื่อชี้จงข้อมูลการทำงานของทุกกรม ไม่เพียงเรื่องทุจริตเงินสงเคราะห์เท่านั้น
ด้านนางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ(พส.) กล่าวว่า พส.ได้ดำเนินการตรวจสอบการทุจริตในแต่ละจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางจังหวัดไม่พบการทุจริต ส่วนที่ทราบจากสื่อมวลชนล่าสุดว่าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. พบการทุจริตเงินสงเคราะห์แล้ว 14 จังหวัด ทาง พส.จะลงตรวจซ้ำอีกรอบ เบื้องต้นที่พบความไม่ปกติในการเบิกจ่าย ได้แก่ สุราษฎร์ธานี บึงกาฬ และพัทลุง ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดแต่ขณะนี้มีเพียง 2 จังหวัดคือขอนแก่น และเชียงใหม่ ที่พบมีมูลและย้ายผอ.ออกจากพื้นที่แล้ว
ส่วนกรณี ป.ป.ท.ระบุว่าบางพื้นที่ไม่ให้ความร่วมมือส่งข้อมูลเอกสารเหมือนการยื้อเวลานั้น ตนก็ได้รับทราบจากข่าว แต่ยืนยันว่าได้มีการส่งหนังสือแจ้งทุกศูนย์ฯ ให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวกกับ ป.ป.ท.ตามคำสั่งการของ รมว.พม.แล้ว แต่หากยังพบมีศูนย์ฯใดไม่ให้ความร่วมมือ ป.ป.ท.สามารถแจ้งมาที่ พส.เพื่อเป็นตัวกลางประสานไปอีกครั้ง .-สำนักข่าวไทย