ประชาชนขอความช่วยเหลือจาก พม. 18,909 กรณี

พม. 6 พ.ย.-“วราวุธ” รมว.พม. เผย ศรส. รายงานพบประชาชนขอความช่วยเหลือจาก พม. 18,909 กรณี สูงสุดเรื่องโครงการรัฐแจกเงิน 10,000 บาท

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวง พม. ว่า ในที่ประชุมมีการการรายงานผลการดำเนินงานของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ในรอบเดือนตุลาคม 2567 ระบุว่า มีประชาชนโทรเข้ามาที่สายด่วน 1300 ศรส. เพื่อขอรับบริการทั้งหมด 18,909 กรณี เฉลี่ยแล้วประมาณวันละ 610 กรณี ส่วนใหญ่ที่โทรเข้ามา เป็นสุภาพสตรีที่อยู่ในวัยทำงาน รองลงมาเป็นกลุ่มคนเปราะบาง คือ คนพิการ ผู้สูงอายุ เด็ก และเยาวชน


ที่น่าสนใจ คือการให้คำปรึกษาทั้งหมด 8,805 กรณี และส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 แจกเงิน 10,000 บาท ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ ซึ่งคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และเป็นมาตรการที่รัฐบาลออกมา ตนจึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ของกระทรวง พม. โดยเฉพาะกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้เร่งประสานงานและดูแลเกี่ยวกับรายละเอียดของคนพิการแต่ละคนที่ยังไม่ได้รับเงิน เพราะติดเรื่องข้อมูลด้านใดที่ยังไม่ครบ

นายวราวุธ กล่าวว่าที่น่าสนใจว่าการร้องเรียนจากแต่ละกรณีเราจะแบ่งเป็นแต่ละพื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และส่วนภูมิภาค ซึ่งเรื่องที่ถูกร้องเรียนเข้ามาในเขตกรุงเทพมหานคร อันดับ 1 คือ คนไร้ที่พึ่ง และขอทาน รองลงมา คือ เรื่องรายได้และความเป็นอยู่ ถัดมาในเขตพื้นที่ปริมณฑล อันดับ 1 คือ ปัญหารายได้และความเป็นอยู่ รองลงมา คือ ความสัมพันธ์ในครอบครัว และเรื่องคนไร้ที่พึ่งและขอทาน และในส่วนภูมิภาค อันดับ 1 คือ เรื่องรายได้และความเป็นอยู่ รองลงมา คือ ปัญหาความรุนแรง


ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ถ้าเรียงลำดับปัญหาจากกรุงเทพมหานคร ไปเขตพื้นที่ปริมณฑล ไปจนถึงส่วนภูมิภาคนั้น ประเด็นที่คนร้องเรียนเรื่องคนไร้ที่พึ่งและขอทาน จะมีอยู่มากที่สุดในกรุงเทพมหานคร รองลงมาจะเป็นเขตปริมณฑล และส่วนในเขตภูมิภาคจะน้อยที่สุด ปัญหาเหล่านี้เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า กระทรวง พม. ได้เน้นย้ำกันอยู่ตลอดว่าในกรุงเทพมหานคร มีคนให้ทานเยอะ ซึ่งในพื้นที่ใดที่มีคนให้ทานเยอะ ขอทานจะรวมตัวกัน และเมื่อออกไปยังเขตปริมณฑล มีคนให้เงินขอทานน้อยลง จะมีขอทานและเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ลดลงมาด้วย ในส่วนของภูมิภาค แทบจะไม่มีการให้ทานเลย จึงแทบจะไม่มีกรณีการร้องเรียนเรื่องนี้

นายวราวุธ ยังฝากพี่น้องประชาชน ว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องขอทาน นับเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติก็ว่าได้ แต่สามารถแก้ไขได้ ด้วยกลไกเพียงนิดเดียว คือ พี่น้องประชาชนต้องหยุดให้ทาน เพราะความสงสาร จะก่อให้เกิดปัญหาอีกหลายอย่างตามมา และยังสะท้อนให้เห็นได้ว่านิสัยของคนในเมือง และต่างจังหวัด ซึ่งคนที่เข้ามาเป็นคนไร้ที่พึ่งในกรุงเทพมหานค และขอทานนั้น แปลว่า บุลคลนั้นทำมาหากินไม่ได้แล้ว บางคนไม่มีข้าวจะกิน ไม่มีที่จะอยู่ เมื่อเปรียบเทียบกับในเขตพื้นที่ต่างจังหวัดจะเห็นว่าเมื่อไม่มีข้าวกิน ยังสามารถไปขอแบ่งปันข้าวจากเพื่อนบ้านได้ ความมีน้ำใจโอบอ้อมอารี คือนิสัยคนไทยในต่างจังหวัด ซึ่งจะแตกต่างกับวิถีชีวิตของคนในเมือง เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งของสังคมไทยที่มีอยู่ในต่างจังหวัด ขอฝากไว้ว่าในกรุงเทพมหานคร วิถีชีวิตของคนเมือง อาจจะถูกเปลี่ยนไป แต่ยังรักษาไว้ซึ่งความโอบอ้อมอารี เพียงแต่ความโอบอ้อมอารีเหล่านั้น ไม่ได้แปลว่าต้องให้ทานกับขอทาน เพราะการขอทานนั้นผิดกฎหมาย

นายวราวุธ กล่าวว่า ศรส. รายงานประเด็นความรุนแรงประจำเดือน ต.ค.67 ระบุส่วนใหญ่จะเป็น ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับสุภาพสตรีที่เป็นผู้ถูกกระทำ มีมากถึง 459 ราย หรือ 74% รองลงมาเป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับ เด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ และส่วนใหญ่เกิดจากบุคคลในครอบครัวเป็นผู้กระทำ ดังนั้น สถาบันครอบครัวในประเทศไทย คือฟางเส้นสุดท้ายของสังคมไทย ความอบอุ่นและความใกล้ชิดของบุคคลในครอบครัว จะเป็นสิ่งที่ป้องกันความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นกับสมาชิกในครอบครัว และจะไม่สามารถเอาความไม่ดีมาถ่ายทอดสู่สังคมไทยได้


นายวราวุธ กล่าวว่ากรณีเงิน 10,000 บาท โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ที่พี่น้องคนพิการได้ลงทะเบียนไว้ก่อนวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ยังมีคนพิการอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้รับเงินจำนวนนี้ สืบเนื่องมาจากข้อมูลยังไม่ตรงกัน การผูกบัญชีเข้ากับระบบของกระทรวง พม. และกระทรวงมหาดไทย ยังไม่ครบถ้วน รวมถึงพร้อมเพย์ ขอฝากไปยังพี่น้องคนพิการว่าเงินจำนวนนี้ คนพิการยังสามารถยืนยันสิทธิ์นี้ไว้ได้ ถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2567 เท่านั้น ขอให้ทุกคนเร่งแก้ไขข้อมูลให้ตรงตามทะเบียน ถ้าหากมีข้อสงสัย สามารถโทรสอบถามได้ 24 ชั่วโมง ที่สายด่วน พม. 1300 ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) จะให้คำแนะนำได้ว่าจะสามารถรักษาสิทธิ์ได้อย่างไร สำหรับพี่น้องคนพิการที่ลงทะเบียนไม่ทันวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ต้องรอฟังแนวทางจากรัฐบาล และจากกระทรวงการคลัง ว่าในก้าวต่อไปจะมีแนวทางการมอบเงิน 10,000 บาทนี้อย่างไร แต่สำหรับคนที่ลงทะเบียนแล้วยังมีเวลาไปปรับข้อมูลให้ตรงและถูกต้อง จนถึงวันที่ 3 ธันวาคมนี้ เพื่อที่จะรักษาสิทธิ์ไว้

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย

สดุดี 3 ทหารกล้า สมรภูมิปราสาทตาควาย

25 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 สดุดี 3 ทหารกล้า สละชีพ สมรภูมิปราสาทตาควาย หลังกัมพูชายิงจรวด BM-21 หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันมีทหารไทยเสียชีวิต 3 นาย จากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ หลังกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งกัมพูชานำไปจอดไว้ในพื้นที่ชุมชน โรงเรียน และวัด เพื่อเป็นโล่กำบัง โดยทหารที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ได้แก่ 1.สิบเอกนพดล บุญเลิศ 2.สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร 3.สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 ร้อย.ลว.ไกล 6 และมีสิบเอกสุทธิชัย เรื่อเรือง ได้รับบาดเจ็บ -สำนักข่าวไทย