ประชาชนขอความช่วยเหลือจาก พม. 18,909 กรณี

พม. 6 พ.ย.-“วราวุธ” รมว.พม. เผย ศรส. รายงานพบประชาชนขอความช่วยเหลือจาก พม. 18,909 กรณี สูงสุดเรื่องโครงการรัฐแจกเงิน 10,000 บาท

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวง พม. ว่า ในที่ประชุมมีการการรายงานผลการดำเนินงานของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ในรอบเดือนตุลาคม 2567 ระบุว่า มีประชาชนโทรเข้ามาที่สายด่วน 1300 ศรส. เพื่อขอรับบริการทั้งหมด 18,909 กรณี เฉลี่ยแล้วประมาณวันละ 610 กรณี ส่วนใหญ่ที่โทรเข้ามา เป็นสุภาพสตรีที่อยู่ในวัยทำงาน รองลงมาเป็นกลุ่มคนเปราะบาง คือ คนพิการ ผู้สูงอายุ เด็ก และเยาวชน


ที่น่าสนใจ คือการให้คำปรึกษาทั้งหมด 8,805 กรณี และส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 แจกเงิน 10,000 บาท ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ ซึ่งคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และเป็นมาตรการที่รัฐบาลออกมา ตนจึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ของกระทรวง พม. โดยเฉพาะกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้เร่งประสานงานและดูแลเกี่ยวกับรายละเอียดของคนพิการแต่ละคนที่ยังไม่ได้รับเงิน เพราะติดเรื่องข้อมูลด้านใดที่ยังไม่ครบ

นายวราวุธ กล่าวว่าที่น่าสนใจว่าการร้องเรียนจากแต่ละกรณีเราจะแบ่งเป็นแต่ละพื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และส่วนภูมิภาค ซึ่งเรื่องที่ถูกร้องเรียนเข้ามาในเขตกรุงเทพมหานคร อันดับ 1 คือ คนไร้ที่พึ่ง และขอทาน รองลงมา คือ เรื่องรายได้และความเป็นอยู่ ถัดมาในเขตพื้นที่ปริมณฑล อันดับ 1 คือ ปัญหารายได้และความเป็นอยู่ รองลงมา คือ ความสัมพันธ์ในครอบครัว และเรื่องคนไร้ที่พึ่งและขอทาน และในส่วนภูมิภาค อันดับ 1 คือ เรื่องรายได้และความเป็นอยู่ รองลงมา คือ ปัญหาความรุนแรง


ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ถ้าเรียงลำดับปัญหาจากกรุงเทพมหานคร ไปเขตพื้นที่ปริมณฑล ไปจนถึงส่วนภูมิภาคนั้น ประเด็นที่คนร้องเรียนเรื่องคนไร้ที่พึ่งและขอทาน จะมีอยู่มากที่สุดในกรุงเทพมหานคร รองลงมาจะเป็นเขตปริมณฑล และส่วนในเขตภูมิภาคจะน้อยที่สุด ปัญหาเหล่านี้เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า กระทรวง พม. ได้เน้นย้ำกันอยู่ตลอดว่าในกรุงเทพมหานคร มีคนให้ทานเยอะ ซึ่งในพื้นที่ใดที่มีคนให้ทานเยอะ ขอทานจะรวมตัวกัน และเมื่อออกไปยังเขตปริมณฑล มีคนให้เงินขอทานน้อยลง จะมีขอทานและเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ลดลงมาด้วย ในส่วนของภูมิภาค แทบจะไม่มีการให้ทานเลย จึงแทบจะไม่มีกรณีการร้องเรียนเรื่องนี้

นายวราวุธ ยังฝากพี่น้องประชาชน ว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องขอทาน นับเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติก็ว่าได้ แต่สามารถแก้ไขได้ ด้วยกลไกเพียงนิดเดียว คือ พี่น้องประชาชนต้องหยุดให้ทาน เพราะความสงสาร จะก่อให้เกิดปัญหาอีกหลายอย่างตามมา และยังสะท้อนให้เห็นได้ว่านิสัยของคนในเมือง และต่างจังหวัด ซึ่งคนที่เข้ามาเป็นคนไร้ที่พึ่งในกรุงเทพมหานค และขอทานนั้น แปลว่า บุลคลนั้นทำมาหากินไม่ได้แล้ว บางคนไม่มีข้าวจะกิน ไม่มีที่จะอยู่ เมื่อเปรียบเทียบกับในเขตพื้นที่ต่างจังหวัดจะเห็นว่าเมื่อไม่มีข้าวกิน ยังสามารถไปขอแบ่งปันข้าวจากเพื่อนบ้านได้ ความมีน้ำใจโอบอ้อมอารี คือนิสัยคนไทยในต่างจังหวัด ซึ่งจะแตกต่างกับวิถีชีวิตของคนในเมือง เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งของสังคมไทยที่มีอยู่ในต่างจังหวัด ขอฝากไว้ว่าในกรุงเทพมหานคร วิถีชีวิตของคนเมือง อาจจะถูกเปลี่ยนไป แต่ยังรักษาไว้ซึ่งความโอบอ้อมอารี เพียงแต่ความโอบอ้อมอารีเหล่านั้น ไม่ได้แปลว่าต้องให้ทานกับขอทาน เพราะการขอทานนั้นผิดกฎหมาย

นายวราวุธ กล่าวว่า ศรส. รายงานประเด็นความรุนแรงประจำเดือน ต.ค.67 ระบุส่วนใหญ่จะเป็น ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับสุภาพสตรีที่เป็นผู้ถูกกระทำ มีมากถึง 459 ราย หรือ 74% รองลงมาเป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับ เด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ และส่วนใหญ่เกิดจากบุคคลในครอบครัวเป็นผู้กระทำ ดังนั้น สถาบันครอบครัวในประเทศไทย คือฟางเส้นสุดท้ายของสังคมไทย ความอบอุ่นและความใกล้ชิดของบุคคลในครอบครัว จะเป็นสิ่งที่ป้องกันความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นกับสมาชิกในครอบครัว และจะไม่สามารถเอาความไม่ดีมาถ่ายทอดสู่สังคมไทยได้


นายวราวุธ กล่าวว่ากรณีเงิน 10,000 บาท โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ที่พี่น้องคนพิการได้ลงทะเบียนไว้ก่อนวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ยังมีคนพิการอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้รับเงินจำนวนนี้ สืบเนื่องมาจากข้อมูลยังไม่ตรงกัน การผูกบัญชีเข้ากับระบบของกระทรวง พม. และกระทรวงมหาดไทย ยังไม่ครบถ้วน รวมถึงพร้อมเพย์ ขอฝากไปยังพี่น้องคนพิการว่าเงินจำนวนนี้ คนพิการยังสามารถยืนยันสิทธิ์นี้ไว้ได้ ถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2567 เท่านั้น ขอให้ทุกคนเร่งแก้ไขข้อมูลให้ตรงตามทะเบียน ถ้าหากมีข้อสงสัย สามารถโทรสอบถามได้ 24 ชั่วโมง ที่สายด่วน พม. 1300 ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) จะให้คำแนะนำได้ว่าจะสามารถรักษาสิทธิ์ได้อย่างไร สำหรับพี่น้องคนพิการที่ลงทะเบียนไม่ทันวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ต้องรอฟังแนวทางจากรัฐบาล และจากกระทรวงการคลัง ว่าในก้าวต่อไปจะมีแนวทางการมอบเงิน 10,000 บาทนี้อย่างไร แต่สำหรับคนที่ลงทะเบียนแล้วยังมีเวลาไปปรับข้อมูลให้ตรงและถูกต้อง จนถึงวันที่ 3 ธันวาคมนี้ เพื่อที่จะรักษาสิทธิ์ไว้

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]