กรุงเทพฯ 19 ก.พ. – จีจีซีตอบรับอีอีซีและไบโออีโคโนมี ลงทุน 4 พันล้านบาท ในชลบุรีคอมเพล็กซ์ เริ่มรับรู้รายได้ปีนี้ ช่วยแก้ปัญหาปาล์ม
นายจิรวัฒน์ นุริตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือจีจีซี กล่าวว่า บริษัทได้ลงทุนสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตร ตามนโยบบายเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) ซึ่งทราบว่าจะมีการนำเสนอภาพรวมและการสนับสนุนสิทธิประโยชน์เข้าสู่ ครม.ปลายเดือนนี้ โดยทางจีจีซีเตรียมพร้อมลงทุนต่อยอดทั้งจากอ้อยในพื้นที่นครสวรรค์คอมเพล็กซ์เงินลงทุนกว่า 70,000 ล้านบาท และในกลุ่มปาล์มน้ำมัน “ชลบุรีคอมเพล็กซ์” เม็ดเงินลงทุน 4,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการที่ชลบุรีกำลังก่อสร้างและจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในส่วนของโรงงานไบโอดีเซลหรือเมทิลเอสเทอร์ แห่งที่ 2 กลางปีนี้ ซึ่งด้วยเทคโนโลยีใหม่จะทำให้โรงนี้ช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบหรือซีพีโอที่มีค่ากรดสูงส่งออกไม่ได้ เป็นการช่วยแก้ปัญหาสตอกล้นได้อีกแนวทางหนึ่ง
“โรงงานไบโอดีเซลแห่งที่ 2 ของบริษัทมีกำลังผลิต 200,000 ตันต่อปี หากรัฐบาลไม่ใจแข็งปรับสัดส่วนน้ำมันไบโอดีเซลจากบี 7 เป็นบี 10 ในส่วนการผลิตใหม่นี้คงต้องส่งออกทั้งหมด โดยยังคาดว่าปีนี้บริษัทจะมีกำไรเพิ่มขึ้น แม้ราคาบี 100 อาจจะอยู่ระดับต่ำกว่าปีที่แล้ว โดยคาดจะอยู่ประมาณ 24- 25 บาท/ลิตร”นายจิรวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ ความก้าวหน้าการก่อสร้างโรงงานเมทิลเอสเทอร์แห่งที่ 2 หรือ “ชลบุรี Biocomplex (CBC)” ณ เขตประกอบการไทยอีสเทิร์น อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี ได้รับการออกแบบให้มีความทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทำให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์เมทิลเอสเทอร์อันเป็นส่วนผสมหลักของน้ำมันไบโอดีเซลที่มีคุณภาพสูงสุดแต่ในต้นทุนที่ต่ำที่สุด และเมื่อเปิดดำเนินการแล้วจะช่วยเสริมกำลังการผลิตของโรงงานแห่งที่ 1 (ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้ง 300,000 ตันต่อปี) ทำให้จีจีซีมีกำลังการผลิตติดตั้งของผลิตภัณฑ์เมทิลเอสเทอร์มากถึง 500,000 ตันต่อปี เป็นอันดับที่ 1 ของไทย และเพื่อเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ จีจีซีจะก่อสร้างโรงงานกลีเซอรีนแห่งที่ 2 ในพื้นที่ใกล้เคียงกำลังการผลิต 20,000 ตัน ต่อปี ใช้กลีเซอรีนดิบ (Crude Glycerine) เป็นวัตถุดิบ ใช้เทคโนโลยีของ C.M. Bernardini (C.M.B) ด้วยเงินลงทุนประมาณ 326 ล้านบาท พร้อมดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 ขณะที่โรงที่1 ในจังหวัดระยองมีกำลังผลิต 36,000 ตันต่อปี
ทั้งนี้ กลีเซอรีนบริสุทธิ์ (Refined Glycerin, RGL 99.5%) เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นสารตั้งต้นหรือสารเติมแต่งสำคัญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมเพื่อสุขอนามัย (Home and Personal Care) ได้แก่ สบู่ ครีม โลชั่น เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก อุตสาหกรรมยาและอาหาร ได้แก่ ยาแก้ไอน้ำเชื่อม ผลไม้อบแห้ง ลูกอมและหมากฝรั่ง รวมถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้แก่ เรซิ่น พลาสติก ยาสูบ และอิพิคลอโรไฮดริน (ECH) เป็นต้น
จีจีซีเลือกลงทุน “ชลบุรี Biocomplex” บริเวณนี้ เพราะอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบปาล์มน้ำมันที่อุดมสมบูรณ์ โดยมีกลุ่มไทยอีสเทิร์นหรือ TEG เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และที่สำคัญ คือ ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการขนส่ง จีจีซียังให้ความสำคัญกับการใช้หลักการ Roundtable on Sustainable Palm Oil หรือ RSPO ในแหล่งวัตถุดิบบริเวณนี้ เพื่อสร้างความยั่งยืนในการปลูกปาล์มน้ำมันโดยเน้นด้านสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ กลางน้ำ : คือ การก่อสร้างโรงงานผลิตเมทิลเอสเทอร์แห่งที่ 2 เพื่อนำวัตถุดิบที่ได้ไปจัดจำหน่าย ใช้งาน หรือต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ และ ปลายน้ำ : คือ การนำผลิตภัณฑ์เมทิลเอสเทอร์จากโรงงานมาต่อยอด โดยสร้างโรงงานผลิตกลีเซอรีนบริสุทธิ์
นอกจากนี้ จีจีซียังได้ลงนามร่วมกับโครงการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation) หรือ EECi เมื่อกลางปี 2560 เพื่อส่งเสริมให้เกิดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรม โดยมุ่งเน้นการวิจัยเพื่อต่อยอดไปสู่การใช้งานจริง (Translational Research) การถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับภาคอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ สร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมในพื้นที่ควบคู่ไปกับการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างสังคมนวัตกรรมของประเทศรองรับความต้องการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ในลักษณะบูรณาการการทำงานร่วมกัน ในลักษณะการทำงานร่วมแบบ Triple Helix และขยายผลต่อยอดไปสู่การมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชน ในลักษณะการทำงานร่วมแบบ Quadruple Helix ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต.-สำนักข่าวไทย