8 ธ.ค. – “พล.อ.ประวิตร” พลิกโฉมปาล์ม “พืชเศรษฐกิจยั่งยืน” ปลื้มดันรายได้ทะลุ 1.5 แสนล้านบาท ปีที่ 2 ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ห่วงใยเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ซึ่งส่วนใหญ่มีพื้นที่เพาะปลูกอยู่ใน 5 จังหวัดภาคใต้ โดยมีข้อวิตกกังวลว่าการนำน้ำมันปาล์มผ่านแดนจากประเทศมาเลเซียไปยัง สปป ลาว ซึ่งรัฐบาลต้องดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศ อาจจะเกิดการตกหล่น รั่วไหล รวมทั้งหวั่นเกรงว่าอาจมีผู้ฉวยโอกาสลักลอบนำเอาน้ำมันปาล์มเถื่อน และส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศตกต่ำนั้น จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำกับ ดูแล และตรวจสอบการนำน้ำมันปาล์มผ่านแดนจากมาเลเซียไปยัง สปป ลาว โดยมี พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ เป็นประธานอนุกรรมการ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนเกษตรกร ตามมติ กนป. ที่เห็นชอบให้ รัฐบาล สปป ลาว นำน้ำมันปาล์มดิบจากมาเลเซียผ่านประเทศไทยปีละไม่เกิน 5,000 ตัน โดยใช้เส้นทางทางบกผ่านทางด่านสะเดา จ.สงขลา ไปจนถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 มีมติเห็นชอบมาตรการการนำน้ำมันปาล์มผ่านแดน โดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กำหนดให้ผู้ขอนำผ่านต้องแจ้งกระทรวงพาณิชย์ทราบก่อนการนำผ่านอย่างน้อย 1 เดือน และสำหรับรถขนน้ำมัน ต้องจัดให้มีการแสดงข้อความ “นำผ่านน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ไปยัง สปป ลาว (ด่านสะเดา-ด่านหนองคาย)” วันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดการนำผ่าน เลขที่หนังสือรับรอง พร้อมหมายเลขโทรศัพท์หน่วยงานที่ออกหนังสือรับรอง ยิ่งไปกว่านั้นที่ประชุมมอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกรมศุลกากร ซึ่งเป็นหน่วยงานปฏิบัติหลักทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคในภารกิจนี้ ร่วมกันจัดทำคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standard Operation Procedure : SOP) พร้อมด้วย Work Flow ขั้นตอนปฏิบัติของผู้ปฏิบัติงานผู้รับผิดชอบแต่ละหน่วยงานในการนำผ่านแดน โดยมีแผนที่จะลงพื้นที่ซักซ้อมการปฏิบัติจริง
นอกจากนี้ในวันที่มีการนำน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ผ่านแดน คณะอนุกรรมการจะจัดให้มีประชาสัมพันธ์ข้อมูลการนำผ่านให้สาธารณชนรับทราบผ่านสื่อต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และพร้อมรับการตรวจสอบตลอดระยะเวลาที่นำผ่าน ยิ่งไปกว่านั้นยังเปิดโอกาสให้เกษตรกรและผู้ที่ประสงค์เข้าสังเกตการณ์สามารถติดตามคณะเดินทางเพื่อร่วมตรวจสอบการปฏิบัติงานได้ตลอดเส้นทาง “ขอให้เกษตรกรมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานโดยยึดหลักความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ลดความหวาดระแวงของทุกฝ่าย ป้องกันมิให้มีการฉวยโอกาสลักลอบค้าน้ำมันปาล์มเถื่อนอย่างเข้มงวดตลอดเส้นทางขนส่งผ่านแดน” ถือเป็นนโยบายสำคัญภายใต้กำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ยึดมั่นประโยชน์ของเกษตรกรชาวสวนปาล์มเป็นสำคัญลำดับแรก โดยช่วง 3 ปีเศษที่ผ่านมา ได้จัดระบบการบริหารจัดการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จนประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ ทำให้เศรษฐกิจปาล์มน้ำมันทะยานขึ้นนับแสนล้านบาทต่อปีเป็นปีที่ 2 เป็น “พืชเศรษฐกิจแห่งอนาคตที่ยั่งยืน” เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้ากับต่างประเทศ ส่งเสริมการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย