แนะเมนูหลังไหว้เจ้า เน้น ‘ยำ ต้ม นึ่ง’ เลี่ยงผัด ทอด

สธ.16ก.พ.-กรมอนามัย แนะเมนูหลังไหว้เจ้า เน้นปรุงด้วยการยำ ต้ม นึ่ง อบ เลี่ยงผัดทอด ลดหวาน มัน เค็ม เช่น ‘สลัดไก่ฉีก- ยำ-ลาบเป็ด-ไก่สมุนไพร- ต้มยำต้มจืดไก่-ผัดหมี่ซั่วเพิ่มผัก’ 


พญ.อัมพร  เบญจพลพิทักษ์  รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปีอาหารที่ชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมนำมาเซ่นไหว้ ได้แก่ เป็ด ไก่ หมู โดยหลังจากการไหว้ก็จะนำมาปรุงประกอบอาหารบริโภคกันต่อภายในครอบครัวเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งการปรุงประกอบอาหารนี้จะต้องคำนึงถึงหลักโภชนาการ คือ ปรุงอาหารด้วยการยำ ต้ม นึ่ง อบ ลดอาหารประเภทผัด ทอด และลดการปรุงอาหารหวาน มัน เค็ม เลี่ยง เนื้อสัตว์ติดมัน หมูสามชั้น และควรเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการด้วยการเติมผักและผลไม้ เช่น  เมนูสลัดไก่ฉีก  ยำ  ลาบเป็ดหรือไก่สมุนไพร ต้มยำต้มจืดไก่ ข้าวมันไก่ใช้ข้าวขาวแทนข้าวมัน ไก่คั่วสมุนไพร ผัดหมี่ซั่วเพิ่มผัก เป็นต้น จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่เป็นเมนูอุดมไปด้วยไก่ เป็ด เนื้อหมู จึงควรเพิ่มเมนูจากเนื้อปลา ผักและผลไม้ 


ส่วนผู้ที่นิยม รับประทานขนมเซ่นไหว้ อาทิ ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนมเข่ง 1 ชิ้นให้พลังงานเท่ากับข้าว 1-2ทัพพี ขนมเทียน 1ชิ้นให้พลังงานเท่ากับข้าว 1 ทัพพี และมีส่วนประกอบหลักเป็นแป้งและน้ำตาล ต้องจำกัดปริมาณในการรับประทาน หรือลดการกินข้าว-แป้งลง เช่นใน 1 มื้อควรกินข้าว 2-3 ทัพพีปาด หากกินขนมเข่ง 1 ชิ้น ต้องลดข้าวลงเหลือมื้อละ 1-2 ทัพพี เพราะหากรับประทานมากเกินไป พลังงานที่ใช้ไม่หมดจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกาย ส่งผลให้มีน้ำหนักเกิน อ้วน และเกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้


“ก่อนนำเนื้อสัตว์  โดยเฉพาะเป็ด ไก่  มาปรุงประกอบอาหาร ต้องดูความสะอาดเรียบร้อยบริเวณภายนอกให้ทั่ว โดยเฉพาะขนหากมีหลงเหลือต้องถอนออกให้หมด เป็ด ไก่ ที่บริโภคไม่หมดในวันเดียว ควรเก็บไว้ในช่องแช่แข็งหรือแบ่งแยกเก็บเป็นส่วนๆเพื่อความสะดวกในการเลือกทำอาหารหรือบางบ้านอาจจะฉีกเนื้อเป็ด ไก่แล้วเก็บเข้าช่องแช่แข็ง เพื่อทยอยนำออกมาทำอาหารได้ หากจะนำมาบริโภคควรนำมาปรุงประกอบด้วยความร้อนให้สุกทั่วถึงอีกครั้ง ในระหว่างต้มควรพลิกหรือสลับด้านด้วย ที่สำคัญไม่ควรนำเป็ด ไก่ดิบ ที่แช่แข็งไว้มาต้มทันที ควรต้มให้สุกทั่วและระวังส่วนเนื้อที่ติดกระดูกไม่สุก หรือก่อนต้มควรนำเอาไก่ เป็ด ที่แช่แข็งออกมาแช่ช่องธรรมดา ทิ้งไว้ให้คืนตัวเพื่อให้อุณหภูมิสูงขึ้นจะสามารถต้มให้สุกอย่างทั่วถึงได้” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง