ทำเนียบ 14ก.พ.-“พล.ท.คงชีพ” แถลงผลประชุม กก.ขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 รัฐบาลเตรียมประกาศกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขนย้ายสัตว์น้ำ 6 ฉบับ เพื่อแก้ปัญหาทำประมงผิดกฎหมาย ปลาย ก.พ.นี้ พร้อมสั่งการ ตม.-มท.จัดทำระบบฐานข้อมูลคนต่างด้าวให้เสร็จภายใน 6 เดือน หวังแก้ปัญหาคนต่างด้าวแอบอาศัยในไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ก.พ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 (กขป.5) ครั้งที่ 2/2561 โดยมีทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม
ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น พล.อ.ประวิตร กล่าวเนื่องในวันวาเลนไทน์ ว่า ขอให้คนไทยรักกันมาก ๆ ในวันวาเลนไทน์นี้
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 (กขป.5) ครั้งที่ 2/2561 ถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) เพื่อแก้ไขปัญหาให้เป็นตามหลักสากล ส่วนการจัดระเบียบทางน้ำ ได้มีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขนย้ายสัตว์น้ำ ทั้ง 6 ฉบับ ซึ่งจะประกาศใช้ในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่วนการจัดระเบียบใบอนุญาตให้เรือประมง ได้ตรวจสถานะเรือประมง ล่าสุดพบว่าผิดกฎหมายจำนวนหนึ่ง ซึ่งได้มีการแก้ไขปัญหา โดยเน้นกลุ่มเรือที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง
“สำหรับการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับเรือประมงที่ผิดกฎหมาย มีการดำเนินคดีไป 79 คดี และมีคดีเข้าสู่กระบวนการที่สิ้นสุดไปแล้ว ร้อยละ 65 รวมถึงจะมีการช่วยเหลือชาวประมงที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นระบบด้วย” พล.ท.คงชีพ กล่าว
พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำกฎหมายเพื่อรองรับการดูแลแรงงานทุกสัญชาติให้เกิดความเท่าเทียมกัน โดยมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย คาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ในเดือนมีนาคมนี้ โดยรัฐบาลขอยืนยันจะดำเนินการคุ้มครองแรงงานอย่างเท่าเทียมกัน ตามหลักกฎหมายสากล
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้ามาตรการควบคุมคนเข้าเมืองผิดกฎหมายพบว่ามีต่างด้าวเข้ามาแล้วยังคงพำนักอยู่ในไทยเกินกว่ากฎหมายอนุญาต มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง ที่ประชุมจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตรวจสอบจริงจังและจัดทำฐานเข้าเมืองให้เป็นระบบ โดยให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จัดทำฐานข้อมูลให้เป็นระบบเดียวกัน โดยจะใช้ระบบอีพาสปอร์ตแทนการใช้ใบ ตม.6 ซึ่งจะเร่งรัดการจัดทำระบบฐานข้อมูลให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ-สำนักข่าวไทย