จันทบุรี 5 ก.พ. – คลังแนะผู้มีบัตรสวัสดิการฯ แสดงความประสงค์กับ ธ.ก.ส.-ออมสินเข้าร่วมมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามโครงการไทยนิยม จัดเมนูการพัฒนาอาชีพเพื่อสร้างรายได้ พร้อมตั้งทีมหมอประชารัฐสุขใจระดับอำเภอติดตามช่วยเหลือเป็นรายบุคคล เตรียมส่งเงินเข้าบัตรเดือนมีนาคมนี้
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ร่วมประชุมมอบนโยบายและติดตามการดำเนินงาน “โครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบสำหรับผู้มีรายได้น้อยในจังหวัดจันทบุรี” โดยย้ำว่าชาวบ้านที่มีปัญหาหนี้นอกระบบให้ติดต่อศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้คณะกรรมการระดับท้องถิ่นช่วยแก้ปัญหา เนื่องจากมีกฎหมายอาญาเอาผิดผู้คิดดอกเบี้ยเงินกู้เกินกฎหมายกำหนด และหากต้องการเงินทุนทั้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสินพร้อมปล่อยกู้เงื่อนไขผ่อนปรนและเดินหน้าโครงสร้างการให้มีภาระหนี้เป็นศูนย์
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงการคลังยังเดินหน้าโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หลังจาก ครม.เห็นชอบแผนช่วยเหลือรายย่อยเฟส 2 จึงต้องการให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรีบแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.และธนาคารออมสิน เพื่อคัดกรองผู้ที่มีความเดือดร้อนและมีปัญหาเรื่องรายได้ในการดำรงชีพ หวังเข้าไปช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด เตรียมมอบเงินช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการฯ เดือนมีนาคมนี้ ด้วยการส่งคณะทำงานพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประจำจังหวัด และประจำอำเภอ พร้อมจัด “ทีมหมอประชารัฐสุขใจ” (ทีม ปรจ.) และผู้ดูแลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (Account Officer: AO) คอยดูแลให้คำแนะนำช่วยเหลือแก้ไขปัญหา โดยต้องลงพื้นที่เข้าไปคุยเป็นรายบุคคล โดยต้องบรรลุผลเป็นรูปธรรมภายในเดือนกันยายน 2561 จากนั้นจะประเมินผลทุก 3 เดือน คาดว่าผู้ลงทะเบียน 11.4 ล้านคน จะมีกลุ่มเป้าหมายมาติดต่อลงทะเบียนเพื่ออบรมอาชีพ 2-3 ล้านคน เพื่อรับเติมเงินเพิ่มอีก 100-200 บาทต่อเดือน ทำให้ผู้ลงทะเบียนพัฒนาอาชีพได้รับเงินผ่านบัตรสวัสดิการ 300-500 บาทต่อเดือน
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า มาตรการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบและมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐได้จ้างบุคลากรเพิ่มเข้ามาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ มีการแต่งตั้งผู้ดูแลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคอยให้คำแนะนำช่วยเหลือแก้ไขปัญหา ติดตามการพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตเป็นรายบุคคล พร้อมทั้งประสานความร่วมมือจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กองทุนหมู่บ้าน เพื่อเปิดจุดบริการถึงชุมชน โดย ธ.ก.ส.ลงพื้นที่ดำเนินงานไม่มีวันหยุดทั้งวันเสาร์-อาทิตย์
ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นเกษตรกร 4 ล้านราย ลงทะเบียนสวัสดิการรัฐทั้งหมด มีหนี้นอกระบบ 448,496 ราย มูลหนี้เฉลี่ยต่อราย 59,520 บาท การเข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีบัตรสวัสดิการตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน คนไทยไม่ทิ้งกัน ของกระทรวงมหาดไทย นั้น เริ่มให้แสดงความประสงค์ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นมา ยอด ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 มีผู้แสดงความประสงค์ 60,687 ราย โดย ธ.ก.ส.จะสัมภาษณ์รายคน เพื่อหาแนวทางเพิ่มรายได้ที่เหมาะสมต่อไป
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวยอมรับว่า ยังมีผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนมากยังไม่ทราบว่ามีโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อรับเงินสวัสดิการเพิ่ม จึงต้องเดินหน้าประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านรับทราบ เพื่อได้รับการช่วยเหลือพัฒนาอาชีพเพิ่มเติม. – สำนักข่าวไทย