30 ก.ย. – บรรยากาศถอนเงินสด 10,000 บาท ยังคึกคัก ขณะที่แม่ค้าต่างยิ้มไม่หุบ ขายของดี คนจ่ายแบงก์พันจนหาเงินทอนไม่ได้
บรรยากาศหน้าตู้เอทีเอ็ม ธนาคาร ธ.ก.ส.กำแพงเพชร มีประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาปรับสมุดบัญชีและถอนเงินกันตั้งแต่เช้า มารอก่อนธนาคารจะเปิดทำการช่วง 08.30 น. ต่อคิวกันล้นหน้าธนาคาร เจ้าหน้าที่ต้องแจกบัตรคิวให้ประชาชนป้องกันการแซงคิว และเพื่อความเป็นระเบียบ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐส่วนใหญ่ บอกว่า ได้รับเงินหนึ่งหมื่นบาท จะนำไปซื้อของใช้ในครัวเรือน ข้าวสารอาหารแห้ง ที่เหลือจะเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น และถอนเงินเต็มจำนวน กลัวเงินหายจากระบบ
ส่วนที่ตลาดสดเทศบาล1 (ใหม่) เขตเทศบาลเมืองยโสธร หลังกดเงินสดกันแล้ว ชาวบ้านในพื้นที่ออกไปจับจ่ายซื้อสินค้ากลับบ้าน บรรดาพ่อค้าแม่ค้าเต็มใจบริการด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าจะไม่ได้หยุดพักเลยตั้งแต่เช้า
แม่ค้าขายปลาสดและตากแห้ง บอกว่า ขายปลาสดและปลาตากแห้งดีมาก ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา ขายสินค้าหมดแต่เช้า สังเกตเห็นชาวบ้านนำแต่เงินแบงก์พันออกมาใช้จ่าย ทำให้แทบจะไม่มีเงินทอน ถือว่าการที่ภาครัฐให้เงินสด ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีมาก จากเดิมขายได้วันหนึ่งไม่ถึง 2,000 บาท แต่มาช่วงนี้ขายสินค้าได้วันละ 8,000 – 10,000 บาท
ที่ จ.กระบี่ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 8 และ 9 ทยอยมาตรวจสอบยอดเงิน 10,000 บาท วันสุดท้าย ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ยธกส สาขา กระบี่ นำสมุดบัญชี มาปรับ เช็กยอดเงินเข้า แต่ไม่สามารถใช้บัตรกดเงิน ATM กดถอนเงินสดได้ เพราะเครื่องกดเงิน ขัดข้อง ปิดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประชาชน มาใช้บริการกดเงินสดจำนวนมาก จึงต้องใช้สมุดบัญชี ถอนเงิน ตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนธนาคารเปิดทำการเวลา 08.30 น.
คุณลุง อายุ 73 ปี ผู้ที่ได้รับเงินหมื่น เปิดเผยว่า วันนี้มาถอนเงิน 2,000 บาท เพื่อนำไปซื้อสิ่งของที่จำเป็น และทำบุญเดือน 10 ส่วนที่เหลือเก็บไว้ใช้จ่ายเวลาที่จำเป็น ซื้อยา หาหมอรักษาโรค ส่วนผู้ที่ได้รับเงิน ส่วนใหญ่ จะนำเงินที่ได้ ไปใช้จ่ายซื้อ ข้าวสาร สิ่งของเครื่องใช้ สิ่งของที่จำเป็น และยอมรับว่า บางส่วนนำไปใช้หนี้นอกระบบที่กู้ยืมมา และชำระหนี้ร้านค้าขายของชำในชุมชน ค่าหวยใต้ดินที่ค้างไว้งวดที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย